เพลง ใต้สะดือ

เพลงใต้สะดือ จัดอยู่ในหมวด “เพลงแปลง” เสียเป็นส่วนใหญ่
ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมานี้ คนวงการลูกทุ่งออกมาเคลื่อนไหวในเรื่อง เพลงใต้ดิน ที่อยู่ในข่ายเลียนแบบทำนอง ปั้นแต่งคำร้องให้มีเนื้อหา ทะลึ่ง จนถึงขั้นหยาบโลน และ ลามก อยู่หลายครั้ง

ความเดิม เมื่อรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” ทางไอทีวี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เปิดประเด็นนี้ โดยใช้อัลบั้ม “ ลูกทุ่งเซ็กซี่” เป็นกรณีที่ถูกกล่าวถึง ทาง “เอส กล้วยไทย” นายกสมาคมชาวหัวกล้วยแห่งประเทศไทย ได้มีแถลงการณ์ แสดงความคิดเห็นอีกด้านหนึ่งตอบโต้ เพลงเด่นที่รู้จักกันดีของอัลบั้มชุดนี้คือ “โชคดีที่มีผัว”

จากโชคดีที่มีผัว - ชาละวัน จนถึงอัลบั้ม “ลูกทุ่ง ทะลึ่ง”ค่าย ออมบีช ชี้ให้เห็นว่า ตลาดเพลงลูกทุ่งนับวันจะแข่งขันกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน และมีเพลงจำนวนไม่น้อยที่หันเข้าหาวัฒนธรรมใต้เข็มขัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนสมาคมนักแต่งเพลงลูกทุ่งต้องจับมือร่วมกับสมาคมนักแต่งเพลง และกลุ่มนักร้องลูกทุ่งอีกหลายๆคน เข้าร่วมกันเป็นขบวน ร้องกระทรวงวัฒนธรรม

เมื่อเรื่องของอัลบั้ม “ ลูกทุ่ง ทะลึ่ง” ได้ถูกร้องเรียนไปที่ ปดส.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่ายออมบีช ผู้จัดจำหน่ายผลงานชุดนี้เก็บงานชุดนี้ลงจากแผงทันที
ประมาณการว่า น่าจะมีเพลงในข่ายนี้ถึง 300-500 เพลง ในตลาด เมื่อถูกรวบไปปั๊มเป็นแผ่น MP 3 ก็อาจจะใช้ชื่อชุดว่า ทะลึ่ง ตลกวงเหล้า, ลูกทุ่งฮามหาสนุก, เซ็กซี่มหาสนุก เป็นต้น

เพลงลามก

ต้นเหตุอาชญากรรมทางเพศ

นพ.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงที่มีคำและความหมายในแนวทะลึ่งลามกต่อ Metro Life ว่า

“ถ้าเพลงลามกที่พูดถึงเรื่องเพศอย่างโจ๋งครึ่มนั้นเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดอาชญากรรมทางเพศแน่นอน คำพวกนี้มันมีหลายนัยย ถ้าพูดสองแง่สองง่ามมันจะทำให้เกิดจินตนาการในเรื่องเพศ, อารมณ์สนุก, ล้อเลียน ในทางจิตวิทยาแล้ว ถ้าพูดเรื่องเพศโดยตรงคนจะไม่ตื่นเต้น แต่ถ้าสร้างศัพท์ใหม่คนฟังจะรู้สึกตื่นเต้น พูดตรงๆ ก็จะกลายเป็นคำด่า อย่างเพลง “ฮีจ๋าฮี” คนฟังจะตีความทางเพศ ตีความแล้วไปคุยต่อ เป็นชนวนทำให้เกิดอาชญากรรมได้ ”

นพ.วัลลภกล่าวว่า การพูดสองแง่สองง่ามอันตรายกว่าพูดตรงๆ
“อย่างในต่างประเทศสมัยก่อน ในหนังของเขาจะมีคำสองแง่สองง่าม อย่างคำว่า Insert ที่อาจจะแปลได้ว่าสอดใส่ทางเพศ และมีการวิจัยแล้วว่าคำพวกนี้จะไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ดังนั้นฝรั่งเขาเลยใช้คำตรงอย่าง Fuck ซึ่งเป็นคำด่าไปเลย”

“เช่นเดียวกับการสอนวิชาเพศศึกษาในบ้านเราที่พยายามเลี่ยง บางครั้งก็ดูน่ารัก เช่น ใช้ภาพผีเสื้อดูดน้ำหวานแทนการสอน แต่ถ้าไปใช้การปรียบเปรยเยอะจนเกินไปเด็กก็จะเกิดความสับสน และเกิดจินตนาการซึ่งเป็นปัญหาว่า ผู้สอนเรื่องเพศศึกษาของเราไม่กล้าพูดตรงๆ”

คดีเพลงลูกทุ่งทะลึ่ง

จากกรณีที่บรรดาครูเพลงลูกทุ่งได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี หรือ ปดส.ให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินคดีต่อผู้จำหน่ายและเผยแพร่ซีดีเพลง“ลูกทุ่ง...ทะลึ่ง” ที่นำทำนองเพลงลูกทุ่งชื่อดังหลายเพลงมาทำเป็นเพลงแปลงโดยใส่เนื้อร้องที่มีเนื้อหาลามก อนาจาร จากวันที่ 11 กรกฎาคม จนถึงวันนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริง

คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ถ้าได้หลักฐานก็จะได้ออกหมายจับ เรื่องแบบนี้ต้องทำงานอย่างรัดกุมหน่อย ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปจับเขาได้ง่ายๆ มันไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้จะจับตัวบุคคลต้องมีหมายจับซึ่งหน้า ตอนนี้ผมส่งให้ชุดไปดำเนินการสอบสวนแล้ว

ใช้กฎหมายอะไรเอาผิด
กฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ผู้ใดมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า เพื่อเผยแพร่สื่อลามก จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผลกระทบต่อสังคม
ถ้าเกิดเพลงที่ออกไปทะลึ่งลามก มันก็เป็นสิ่งที่ยั่วยุมอมเมาผู้ฟังให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ให้เกิดอาชญากรรมทางเพศ และบ่อนทำลายวัฒนธรรมอันดีของประเทศ เอาเนื้อทำนองเขาไปปั่นป่วนหมด ลักษณะแบบนี้ปล่อยไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

คดีเพลงทะลึ่งนี้เคยมีมาก่อนไหม
เฉพาะเพลงอย่างเดียวไม่เคยปรากฏ นี่ถือเป็นครั้งแรกของคดีเพลงลูกทุ่ง ส่วนมากที่ได้รับร้องเรียนจะเป็นพวกเว็บไซต์ลามก หนังสือลามกมากกกว่า

คำนิยามของคำว่า “ลามก”

ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายของคำว่า ลามก ว่า หยาบช้าต่ำทราม, หยาบโลน, อันเป็นที่น่ารังเกียจ ของคนดีมีศีลธรรม, เช่น หนังสือลามก พูดลามก ทำลามก.

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287

ผู้ใด
1.เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการจ่ายแจกหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไป หรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก

2. ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น

3. เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หมายเหตุ – ศึกษาคดีตัวอย่างได้จาก http://wiki.tirkx.com/index.php/AKIBA

เจนภพ จบกระบวนวรรณ

วันนี้ สังคมเข้าหาเรื่อง X มากขึ้น

เจนภพ จบกระบวนวรรณ นักวืชการเพลงลุกทุ่ง ได้แบ่งกลุ่มเพลงแปลง แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ

หนึ่ง. เกิดจากอารมณ์ขัน ความสนุก และความเป็นเพื่อนร่วมวงการ อดีต เพลง “ท่าฉลอม” (คำร้อง ชาลี อินทรวิจิตร , ทำนอง สมาน กาญจนะผลิน) ครูไพบูลย์ บุตรขัน แปลงเป็นเพลง “บ้านยายหอม” และครูเพลงคนอื่นแปลงเป็นเพลง เกาะสมุยบ้าง เพลงปากคลองสานบ้าง หรืออย่างเพลง “เสียวไส้” ของครูสุรพล สมบัติเจริญ พยงค์ มุกดาก็เอามาแปลงเป็นเพลง “หนักใจ” และนักร้องเพลงแปลงหน้าเวทีที่โด่งดังมากของวงช้างแดงชื่อ เกริก โกรกกราก ร้องเพลงสุภาพและขบขัน

สอง. เพลงแปลงในวงเหล้า เฮฮาปาร์ตี้ด้วยความคะนองปาก อาจจะล่อแหลมไปบ้าง ก็วนเวียนอยู่ในกลุ่ม ไม่มีเจตนาในการเผยแพร่ และวางขายในที่สาธารณะ

สาม. ธุรกิจเพลงแปลง เกิดขึ้นในยุค บุญธรรม พระประโทน, บุญโทน พระไม่ทำ ซึ่งมีความพยายามจะเลี่ยงเพื่อไม่ให้คำร้องดูหยาบ และมุ่งตรงลงสู่ใต้สะดือเสมอไป

แต่สำหรับบางเพลง ณ วันนี้ นักวิชาการเพลงลูกทุ่ง – เจนภพ จบกระบวนวรรณ “รับไม่ได้”

“ เรื่องนี้มันต้องเริ่มต้นจากตัวผู้ผลิตเอง คนลงทุน คนร้อง คนแต่ง คนเล่นดนตรี รู้ทั้งรู้ว่า เขาทำเพลงแบบนี้ คุณจะทำไปทำไม , ถ้าเราได้โจทย์แบบนี้ ก็ควรจะฉุกคิดสักนิดว่า เรามีครอบครัวมั้ย และถ้าคนในครอบครัวเราได้ยิน หรือสมมติว่า ลูกสาว ลูกชายดันผ่าไปซื้อแผ่นนี้มาฟังที่บ้าน โดยที่ไม่รู้ว่า พ่อเป็นคนแต่ง ลองถามว่า คุณรู้สึกอย่างไร เราอับจนปัญญาถึงขนาดต้องเขียนเพลง ร้องเพลงแบบนี้กันแล้วหรือ”

อันที่จริงเรื่องเนื้อร้องที่ดูเหมือนจะหมิ่นเหม่ในเพลงลูกทุ่งมีมาทุกยุคสมัย ความแรง แตกต่างกันไป

สายสัมพันธ์ในระดับ “สัปดน” แต่ไม่หยาบคาย ลามก มีมาแต่สมัยเพลงพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอีแซว, ลำตัด, เพลงฉ่อย เพลงเหล่านี้เล่นให้ชาวบ้านดูเพื่อการผ่อนคลาย โดยจิตสำนึก - มารยาทของกลุ่มศิลปิน มีการจัดเรตและนำเสนอเรื่องราวตามความเหมาะสม

“ ช่วงหัวค่ำ พ่อเพลง แม่เพลงจะเล่นกระทู้ธรรมดา ถามในเรื่องดินฟ้าอากาศ ข้าวยากหมากแพง ข้าวดี น้ำไม่ดี แต่เรื่องเกี้ยวพาราสียังเป็นแบบปกติ พอดึกหน่อย เด็กๆกลับบ้านไปนอน ก็จะเหลือกลุ่มผู้ใหญ่ อันนี้ก็จะเริ่มลงลึก ในระดับสัปดน ซึ่งมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเพลงพื้นบ้าน ภาษาสัญลักษณ์ที่ซุกซ่อนอยู่ต้องคนที่บรรลุนิติภาวะ หรือโตๆ แล้วถึงจะรู้ว่ามันคืออะไรที่ซ่อนเอาไว้ ขำๆ ฮาๆ กันไป เพลงพื้นบ้านเป็นมุมสะท้อนเพศศึกษาแบบไทยๆ ไม่ยั่วยุกามารมณ์” เจนภพ จบกระบวนวรรณ นักวิชาการเพลง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพลงลูกทุ่งกล่าว

เจนภพ บอกว่า ถ้าไม่ไปข้องเกี่ยวกับเพลงแปลงที่มีเนื้อหาหยาบคาย , ลามก เอาแค่สำนวนอุปมาอุปไมย บอกเล่าอย่างมีชั้นเชิงแล้วล่ะก็ จากอดีต – ปัจจุบัน ไม่มีใครเทียบครู ลพบุรีรัตน์ได้เลย

“ เพลงครูลพ ผมเรียกว่าเพลงเซ็กซี่ ไม่ใช่เพลงสัปดนด้วย ครูลพใช้ศิลปะชั้นสูง คนที่จะทำเพลงพวกนี้ได้ ต้องอยู่ในขั้นมุตโตแตกเท่านั้นที่ทำได้ ครูลพท่านเข้าใจทุกอย่างถ่องแท้จึงเขียนเพลงได้อย่างงดงาม และถ้าเราเอาไปเทียบกับเพลงปัจจุบันที่กล่าวถึงนี้ ต้องบอกว่า ฟ้ากับเหว”

เจนภพ เคยกล่าวเสมอว่า เพลงลุกทุ่งคือ กระจกเงาสะท้อนสังคม เป็นลมหายใจของคนทั้งแผ่นดิน

วันนี้ เพลงใต้สะดือ ที่เกิดขึ้นในวงการเพลงลูกทุ่งสะท้อนอะไร !?

“วันนี้สังคมไทยแปรเปลี่ยนไปในเรื่องแบบนี้มากขึ้น เมื่อศิลปะเสื่อมถอยไปมากเท่าไหร่ เรื่องทำนองนี้ก็จะผ่านเข้ามาให้พบเห็นได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง, หนัง, หนังสือ ทุกวันนี้ เราหาซื้อหนัง X ได้ง่ายกว่า CD ลิขสิทธิ์ “

Metro Life ถามถึง “เพลงเซ็กซี่ในดวงใจ” ของเจนภพ จบกระบวนวรรณ เขาตอบว่า 1. แห่ ฉิมพลี - พร ภิรมย์ , 2. จูบมัดจำ - ทูล ทองใจ และ 3. ของปลอม - สุรพล สมบัติเจริญ

หมายเหตุ - มุตโตแตก หมายถึง ปฎืภาณและไหวพริบในทางดนตรี เกิดปัญยาแตกฉานในการคิดดัดแปลง ยักย้ายในเชิงอุปมา อุปไมย หรือหลุดออกจากกรอบ เป็นไปเอง และเหนือความคาดหมาย

5 เพลง เพื่อกรณีศึกษา

Metro Life เลือก 5 เพลงให้นักวิชาการเพลงลูกทุ่ง เจนภพ จบกระบวนวรรณ กล่าวถึงเป็นกรณีศึกษาเพลง “ใต้สะดือ” อันประกอบด้วยเพลงดังนี้ 1. จุดเทียนแก้รถ-- อดุลย์ กรีน – มาณี มาณีวรรณ, 2. จุดเทียนเวียนเมีย – ลูกคลัก, 3. จุดเทียนความรัก – เอกชัย ศรีวิชัย, 4. ชาละวัน - ศาลา, 5. He Ja He – ลูกทุ่ง...ทะลึ่ง

จุดเทียนเวียนวน – ต้นฉบับเดิม อดุลย์ กรีน – มาณี มาณีวรรณ ยังเป็นทำนองที่นิยมหยิบมาใช้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะขึ้นต้นด้วยคำร้อง “จุดเทียน” หรือไม่ก็ตาม เพลง ชาละวัน (วงศาลา) , ไอ้หน้าฮี (ลูกทุ่ง...ทะลึ่ง) เป็นตัวอย่างที่เอาทำนองนี้มา และเนื้อร้องไม่ได้เริ่มต้น “จุดเทียน” แต่อย่างใด

ก่อนจะมาเป็นเทปคาสเซต เป็นเพลงที่ร้องกันในไนต์คลับแถบอุดรธานี,โคราช, ตาคลี, อู่ตะเภา, พัทยา ฯลฯ สมัยที่ทหารจีไอเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย ( ก่อน – เต็มรูปแบบเมื่อ 2510)

ทำนองนี้เป็นลูกสร้อยของลำตัดที่วงปี่พาทย์ลิเกนิยมเล่น เล่นสืบกันมานาน โดยที่ไม่รู้ว่าพ่อเพลง แม่เพลงท่านไหนเป็นผู้ประดิษฐ์เป็นคนแรก “จุดเทียนเวียนวน” ต้นฉบับเดิม คำร้องโดย ครูพยงค์ มุกดา ไม่มีการเปิดเพลงผ่านสื่อ ยุคนั้น ถือเป็นเพลงที่ผู้ใหญ่ซื้อฟังเพื่อความสนุกสนาน

หมายเหตุ – 1. โปรดใช้วิจารณาญาณในการฟัง
2. เพลงเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่ เยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ควรฟัง
3. ฟังเพื่อเป็น “กรณีศึกษา” เท่านั้น

จุดเทียนแก้รถ – จัดอยู่ในเพลงผู้ใหญ่ ในกลุ่มแม่แบบของ โดยใช้ศิลปะชั้นครูในการซุกซ่อนสัญลักษณ์ “ เพลงนี้ฟังแล้วก็ควรคิดแต่เรื่องรถ อย่าไปคิดเป็นอย่างอื่น ก็เพลงมันพูดกันถึง “หม้อน้ำรถ จะไปคิดถึงหม้ออย่างอื่นได้อย่างไร”

จุดเทียนเวียนเมีย – เพลงนี้ สำหรับผม ถือว่าสอบผ่านครับ ไม่ลามก ออกจะเป็นแนวขำขัน

จุดเทียนความรัก – ทำจังหวะได้สนุกและครื้นเครง สำหรับผม รับได้ครับ บางเพลงถ้ามันล่อแหลมเกินไป แล้วแต่วิจารณญาณว่าควรเผยแพร่ในวงกว้างหรือไม่

ชาละวัน - ผมว่าไม่สุภาพ น่าจะทำให้มีความละเมียดกว่านี้ได้ อย่างเพลง “หมีแพนด้า” ต้นฉบับเดิมพอๆกับชาละวัน เอาเรื่องเหมือนกัน แต่เมื่อต้องเผยแพร่มากขึ้น มันก็ต้องปรับเปลี่ยน จะบอกว่าเป็นเพลงใต้ดินก็ไม่ได้ เพราะมันมีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต อย่างจุดเทียนต้นฉบับ สมัยที่อยู่ในไนต์คลับ ยังมีความเป็นใต้ดินมากกว่า

He – Ja – He – ไม่ไหวจริงๆ

ชาละวัน ห้ามเปิด - จุดเทียนเวียนเมีย ขึ้นชาร์ต

ต้องยอมรับว่า ท่วงทำนอง และคำร้องด้วยการสัมผัสนอก-ใน แบบ “จุดเทียนเวียนวน” คือสุดยอดของเพลงที่ได้รับการคัดเลือกมารับใช้ในยุคนี้ กลุ่มเพลง “จุดเทียน” เฉพาะของเอกชัย ศรีวิชัย เช่น จุดเทียนเข้าหอ, จุดเทียนความรัก, จุดเทียนเป็นอะไร 1-2 , จุดเทียนสีกา, จุดเทียนอเมซิ่ง, จุดเทียนลูกเขย, จุดเทียนพ่อตา, จุดเทียนคนแก่ เป็นต้น , วงลูกคลัก เจ้าของเพลง “จุดเทียนเวียนเมีย” ขึ้นชาร์ตลูกทุ่งมหานคร ขณะที่เพลง “ชาละวัน” วงศาลา ที่ใช้ท่วงทำนองเดียวกัน ได้รับการขอจากผู้ฟังมามาก แต่เสียใจที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้

Metro Life เลือกคุยกับ ดีเจ กบ - ธวัชชัย โสระฐี คลื่นลูกทุ่ง อสมท FM 95 MHz เกี่ยวกับเพลงประเภทนี้

เพลงลูกทุ่งแนวสนุก สองแง่สองง่าม เปิดแล้วมีผลกระทบอย่างไร

เราเปิดสองแง่สองง่ามไม่ได้ แต่ยอมรับเลยนะครับว่ามีคนโทร.มาขอ อย่างเพลง “ชาละวัน” เยอะมากด้วย แต่เราก็เปิดไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ยอมรับ เพลงลูกทุ่งเป็นรายการที่ต้องฟังได้ทั้งครอบครัว เวลาไปชมคอนเสิร์ตเพลงลูกทุ่งก็จะหอบลูกจูงหลานไปด้วย ถ้ามีเพลงทะลึ่ง, เพลงลามกมา คิดเหรอว่าเขาจะให้ลูกฟัง เพราะฉะนั้นแรงต้านจะเกิดขึ้นทันที

ประสบการณ์การเป็นนักจัดรายการของผม เคยเจอแบบนี้ครั้งหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเปิดเพลงหรือพูดอะไรไปไม่รู้ด้วยความคะนองมากไปนิด ได้รับจดหมายจากคุณแม่ท่านหนึ่งเขียนมาตักเตือนว่า คุณแม่ฟังอยู่กับลูกสาว
กลุ่มคนฟังจะทำหน้าที่ในการสกรีนเอง ไม่ต้องพึ่งกระทรวงวัฒนธรรมเลย คนพวกนี้ชัดเจน ฉะนั้น เมื่อใดที่เราสอดแทรกเพลงพวกนี้เข้าไปจะโดนเลย จำเลยที่หนึ่งคือ ดีเจ เพลงอื่นมีให้เปิดมาเปิดเพลงนี้ทำไม วิจารณญาณมีไหม ต่อไปก็ลามไปถึงคลื่น ส่วนศิลปินก็โดนหลังๆ คนฟังมีตั้งแต่ผู้ใช้แรงงานยันอาจารย์ ด็อกเตอร์ ดังนั้นจะเปิดเพลงสักเพลงเราต้องเลือก บางทีภาษาได้ประเด็นได้ แต่ทัศนคติไม่ได้ เช่น ช่วงที่เพลงลูกทุ่งอีสานดังมาก อกหัก - ดื่มเหล้า ซึ่งบางเพลงคนฟังรับไม่ได้

เพลง “จุดเทียนเวียนเมีย” เคยขึ้นชาร์ตของลูกทุ่งมหานคร

จุดเทียนเวียนเมียของลูกคลัก ตอนแรกเขาส่งมาแบบศิลปินสมัครเล่น คือเรามีช่วงศิลปินช้างเผือกซึ่งจะโปรโมตเพลงที่ไม่ใช่ค่ายใหญ่ ตอนแรกเราแนะนำศิลปินวงนี้เป็นศิลปินช้างเผือก แต่ทำไปทำมาพอชุดที่สองเพลงจุดเทียนเวียนเมีย ติด ดัง เพลงนี้เนื้อหาไม่สองแง่สองง่าม แต่ทำนองเหมือนเพลงชาละวันของวงศาลา ทำให้คนนึกว่าเพลงเดียวกัน ซึ่งเนื้อเพลงมันจะประมาณว่า ผู้ชายแอบเมียหนีไปเที่ยวแบบว่าเป็นผู้ชายเลวครบสูตรเลย ไม่ได้ส่อไปถึงเรื่องเพศแต่อย่างใด

ทิศทางของเพลงลูกทุ่งปัจจุบันเป็นอย่างไร

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เพลงลูกทุ่งตอนนี้จะมาพูดถึงท้องไร่ท้องนา ประเภทเพลง “เราชาวนาอยู่กับควาย” ไม่มีแล้ว แต่จะเป็นเรื่องวิถีชีวิตทั่วไปของคนสมัยนี้ เลิกงานไปไหน โทร.หากัน ส่วนมากค่ายเพลงเขาจะทำเป็นเสียงรอสาย มันจึงมีเพลงที่เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเยอะ เดี๋ยวนี้ขายเพลงอย่างเดียวอยู่ไม่ได้ เขาจึงต้องแต่งเพลงมาซัปพอร์ตธุรกิจของเขาด้วย

ลพ บุรีรัตน์
สองแง่สองง่าม ต้องมีศิลปะ

เพลง “ทหารเรืออ้อนรัก” ประกอบละคร “ผู้การเรือเร่” ทางช่อง 3 ขณะนี้ เป็นฝีมือการแต่งคำร้อง – ทำนอง โดยครูวิเชียร คำเจริญ และอีกนามหนึ่งที่ใช้ในการเขียนเพลงสนุกแบบเซ็กซี่เบาๆคือ “ลพ บุรีรัตน์” ผลงานจากการประพันธ์ของท่านมีมากกว่า 2 ,000 เพลง ต้องมีสักเพลงที่คุณคุ้นเคย

บ้านเรือนเคียงกัน (ชาย เมืองสิงห์), เข้าเวรรอ – มอเตอร์ไซค์ทำหล่น (ศรเพชร ศรสุพรรณ), 30 ยังแจ๋ว (ยอดรัด สลักใจ), ขอใช้สิทธิ์ (ฝน ธนสุนทร) ฯลฯ
เพลงสนุกสนานในยุคของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็น กระแซะเข้ามาซิ,อื้อฮื้อหล่อจัง, ผู้ชายในฝัน, ห่างหน่อยถอยนิด, พี่ไปดูหนูไปด้วย, หนูไม่รู้, หนูไม่เอา ฯลฯ เพลงเหล่านี้ก็ล้วนเกิดจากฝีมือครูทั้งสิ้น ย้อนไปไกลกว่านั้น นักฟังเพลงรุ่นเก่า จะรู้จักกันดี เพลง “หมอคะ” โดย เรณู เบ็ญจวรรณ ก็เป็นฝีมือของครูวิเชียร คำเจริญ

“คุณหมอคะ หนูมาให้หมอช่วยตรวจ
จะบีบจะนวด เชิญหมอตรวจให้ซึ้งใจ
ตั้งแต่เจอหมอ เมื่อตอนหมอมารักษาพิษไข้
โรคนั้นมันหายขาดไป มีโรคอะไรไม่รู้มาแซง”

ครูลพ บุรีรัตน์เลือกใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย สื่อความหมายได้ชัดเจน เพลงเร็วให้ความรู้สึกสนุก เพลงช้าสร้างความซาบซึ้ง กินใจ ถึงขั้นบีบน้ำตาคนฟังได้

ครูลพ บุรรีรัตน์ กล่าวถึงเทคนิคศิลปะการใช้ภาษาในเพลงสองแง่สองง่าม เชิงอุปมาอุปไมย เหมือนจะหมิ่นเหม่ แต่ทว่าไม่เคยล้ำเส้น ไม่ต้องให้ตัวเอง และผู้อื่นเซ็นเซอร์

“บางเพลงที่เป็นเพลงสองแง่สองง่ามจะมีการใช้เทคนิคในการแต่ง โดยไม่ใช้ภาษาที่สื่อออกมาตรงๆ ซึ่งคนฟังแล้วต้องไปตีความหมายเอาเอง ... เรื่องนี้ มันขึ้นอยู่กับคนแต่งว่าใครมีศิลปะในการใช้ภาษา เขียนเพลงออกมาแล้วไม่ให้มันดูทะลึ่งจนเกินไป เขียนแต่เรื่อง กอดๆ จูบๆ ลูบๆ คลำๆ มันจะดูกร้านเกินไป ถ้ายิ่งเขียนให้ผู้หญิงร้อง มันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ คนฟังแล้วจะรู้สึกไม่ดี เราจะไม่เปรียบเทียบเป็นคำนะครับ เราก็จะหาสำนวนมาแทนที่ หรือหาคำมาขยายความให้แปลว่าอย่างนั้น อย่างนี้ และบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับคนฟัง ถ้าคิดว่ามันหยาบก็หยาบ ถ้าคิดว่า มันไม่หยาบก็ไม่หยาบ

ณ วันนี้ ครูลพ บุรีรัตน์ กล่าวว่า การแต่งเพลงสมัยนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับครูเพลงเพียงฝ่ายเดียวแล้ว
“เดี๋ยวนี้ จะไปโทษนักแต่งเพลงอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเขาอาจจะถูกทางค่ายเพลงวางรูปแบบในการแต่งเพลงมาแล้วว่า ต้องแต่งเพลงเร็ว เพลงช้า หรือไม่ก็แต่งเพลงโดยใช้ภาษาที่ไม่ค่อยสุภาพ แต่เพลงพวกนี้มันขายได้ไงครับ มันไม่เหมือนเพลงที่มีการใช้ศิลปะของภาษา เป็นภาษาของกวี ของปราชญ์ ซึ่งจะมีภาษาที่ไพเราะเพราะพริ้ง เพลงพวกนี้ก็จะดัง ต้องฟัง ต้องพิจารณาคำและความหมายอย่างลึกซึ้ง

ผมเชื่อว่า นักแต่งเพลงทุกคนเขามีจิตวิญญาณที่ต้องการให้ผลงานตัวเองออกมาดี โชว์ผลงานที่ดี อย่างน้อยก็ให้คิดสักนิดก่อนที่จะแต่งเพลงขึ้น อย่างน้อย คนฟังจะได้รับประโยชน์หรือข้อคิดดีๆจากบทเพลงที่เราแต่ง”

วาทะคนลูกทุ่ง !!

“บ้านเราเป็นเมืองพุทธ ต้องประณามคนแต่งเพลงพวกนี้ บริษัทที่ผลิตออกมาเป็นคนไทยรึเปล่า กลุ่มลูกทุ่งต้องระดมการต่อต้านอย่างจริงจัง ตอนนี้ทุกสมาคมมีหลักฐานหมดแล้ว รัฐต้องจัดการให้ถึงที่สุด”
พนม นพพร นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย

“เรายอมไม่ได้ที่พวกมันมาทำลายเพลงลูกทุ่งที่เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ”
ไพฑูรย์ ขันทอง เลขาสมาคมนักแต่งเพลงแห่งประเทศไทย

“ในบางครั้งอาจมีทะลึ่งตึงตังบ้าง แต่เป็นทะลึ่งแบบปราชญ์ ไม่ใช่แบบเปรตอย่างที่พวกมันทำ”
เอกชัย ศรีวิชัย ขุนพลเพลงลูกทุ่งปักษ์ใต้

''เพลงชุดนี้ถือว่ายอมไม่ได้ เพราะตั้งแต่สมัยครูเพลงรุ่นเก่าๆ อย่าง ครูสุรพล สมบัติเจริญ หรือ ครูไพบูลย์ บุตรขัน ก็ไม่เคยมีเพลงในทำนองนี้ ซึ่งหน้าปกอัลบั้มนี้ในชื่อว่า ลูกทุ่งทะลึ่ง แต่เนื้อหาข้างในกลับไม่ใช่ มีแต่คำที่อุบาทว์และหยาบโลนทั้งสิ้น ทั้งการนำทำนองเพลงเก่ามาใส่เนื้อใหม่ ที่ทราบข่าวเพลงชุดนี้ออกมาได้ประมาณ 3 เดือน และมียอดขายมากกว่าแสนก๊อบปี้ไปแล้ว หากปล่อยไปนานกว่านี้วงการลูกทุ่งอาจจะถึงคราววิบัติได้ ''
จิตรกร บัวเนียม นายกสมาคมนักแต่งเพลงแห่งประเทศไทย

อัลบั้ม “ลูกทุ่ง ทะลึ่ง”

ผลงาน 10 เพลงในชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นจดหมายข่าว และอัลบั้มปก ไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก ไม่ว่าจะเป็นที่มา ที่ไป ไม่มีชื่อผู้แต่ง – ผู้ร้อง แต่พยายามย้ำและเน้นว่า “ เพลงเฉพาะ ไม่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี”

อัลบั้ม “ชาละวัน” วงศาลา

ภัทรธร หนูคง, จิราภรณ์ ทองทิพย์ คือนักร้องใต้ดินวงศาลา จากเกาะสมุย ก่อนหน้านี้ทำเพลงมาหลายชุด แต่ไม่ประสบความสำเร็จทางการตลาด จนได้มารู้จักกับ ชัย สานุวัฒน์ อดีตศิลปินหนุ่มจากเมืองนราธิวาส ค่ายแกรมมี่โกลด์ เพลงที่ทุกคนรู้จักเขากันเป็นอย่างดีคือ “วอนพ่อขุน” เพื่อให้ช่วยทำดนตรีให้

เพลงอื่นในอัลบั้มชุดนี้เช่น อายหมาข้างหนน, นายเจ้าชู้ประตูดิน,ไม่มีน้ำยา, ได้แค่นี้, รถรุน, เพื่อนสนิท, พักใจ, โทรศัพท์จากลูก, เหตุผลไม่พอ, วอนสายลมผ่าน และ เพราะเรามีกัน

เพลง “ชาละวัน” เป็นเพลงเดียวในอัลบัมชุดนี้ ที่ขายให้เรื่องของเพลงสนุกสนาน เริ่มจากฟังเพลงผ่านอินเทอร์เน็ต จนกลายเป็นเพลงดัง และมีผู้ก๊อบปี้งานเพลงไปขายก่อนที่อัลบั้มจริงจะวางแผง ต่อมา โอเชี่ยนมิวสิก ปัตตานี เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์มาสเตอร์ไปจัดจำหน่าย จนต่อมาต้องเปลี่ยนเนื้อร้องใหม่ในบางท่อน เพื่อลดความแรงลง

ลูกทุ่งเซ็กซี่ – อัลบั้ม “โชคดีที่มีผัว”

บางเพลงจากอัลบั้มชุดนี้เช่น โชคดีมีผัว, พี่ไม่ต้องน้องทำเอง, ความในของคนไข่ตาย, มาเอากันไหม, เรียนปวดหัวมีผัวดีกว่า, กางเกงในสีแดง, โดนจูบ, ปริ้นเลย, ตีท้ายครัว

หัวข้อ: แถลงการณ์ เนื่องจากประเด็น อัลบั้มเพลง ลูกทุ่งเซ็กซี่

ซึ่งมีเพลงอย่าง โชคดีมีผัว และเพลงอื่นๆ ที่ตอนนี้ฮิตระบาดไปทั่วอินเทอร์เน็ต และโดนเพ่งเล็งจากทางกระทรวงวัฒนธรรม ถึงความไม่เหมาะสมในเนื้อหาของบทเพลง

ข้าพเจ้า...ในฐานะเว็บมาสเตอร์ www.bananamag.net ( ที่ตอนนี้ได้ยุติการให้บริการไปเนื่องจากเซิร์ฟเวอร์เดี้ยง! ) ที่เป็นเว็บแรกที่ให้บริการฟังเพลงในอัลบั้มนี้ จนต่อมามีผู้นำไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซต์ต่างๆ

ล่าสุดถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ใน "รายการร่วมด้วยช่วยกัน" ทางช่อง ITV เมื่อเที่ยงของวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่าคนแต่งเพลงเหล่านี้เป็นพวกจิตวิปริต และคนแต่งเพลงใต้ดิน เป็นพวกสถุน เป็นคนชั่ว ฯลฯ (แรงไปมั้ย!!!)

ข้าพเจ้า...ซึ่งเป็นทีมงานหนึ่งที่ร่วมกันผลิตงานเพลงเหล่านี้ อยากจะขอความเป็นธรรมกับคนทำงานเพลง ถึงสิทธิในการนำเสนอผลงานผ่านที่สาธารณะ ว่าเหตุใด หนังสือโป๊ เรตอาร์ (ซึ่งเป็นเรตเดียวกับงานเพลงในอัลบั้มนี้) หรือภาพยนตร์ต่างๆ จึงนำเสนอพฤติกรรมเหล่านี้ได้ แต่กับสื่อบทเพลงกลับถูกปิดกั้น ทั้งๆ ที่จุดประสงค์ในการผลิตเพลงเหล่านี้ เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มุ่งเน้น หรือชักจูงให้คนฟัง เกิดความรู้สึกต่ำช้าอย่างที่สื่อช่องหนึ่งได้รายงานข่าวออกไป

ถึงเวลาหรือยัง...ที่เราจะประกาศให้คนทั้งประเทศได้เห็นถึงความเป็นไปของสังคมเพลงใต้ดิน ว่าปัจจุบันเปลี่ยนไปในทิศทางใดบ้าง และเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่ทางกระทรวงฯ จะต้องมีขอบเขตการทำงานศิลปะที่ชัดเจน และเป็นธรรมมากกว่านี้ เพราะพวกเราเป็นคนมีการศึกษาพอที่จะยอมรับกฎหมายบ้านเมือง ถ้าหากว่าเราสมควรจะได้รับการตัดสินคดีนี้ เผื่อต่อไปในภายภาคหน้า คนทำงานเหล่านี้ในรุ่นหลัง จะได้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

เราจึงจะนัดรวมตัวกัน...เพื่อขอชี้แจงกับกระทรวงวัฒนธรรมฯในประเด็นนี้ ในเร็ววัน...จึงขอเชิญเหล่าสาวกสมาคมชาวหัวกล้วยแห่งประเทศไทยทุกคน ที่มีความรู้สึกเดียวกันว่า งานเหล่านี้เป็นเพียงแค่ความบันเทิงด้านหนึ่งเท่านั้น...เตรียมตัวเพื่อการนี้ จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน

เอส กล้วยไทย...
นายกสมาคมชาวหัวกล้วยแห่งประเทศไทย
http://www.eskimoproject.net/community/index.php?topic=494.msg26940#msg26940

โดย ผู้จัดการออนไลน์