***** โปรดกดปุ่ม F11 ก่อนการทัศนาครับ *****
[/size]
เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด (18/07/51) และเป็นวันเข้าพรรษาพอดี เลยตั้งใจไปไหว้รอยพระพุทธบาท ที่วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี เลยเก็บภาพมาฝาก ภาพอาจจะไม่สวยนะครับ เนื่องสภาพอากาศที่ครึ้มตลอดเวลา กับกล้องคอมแพ็คตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีลูกเล่น ปุ่มปรับอะไรมากมาย บวกกับฝีมือที่ไม่พัฒนาเอาเสียเลย ภาพที่ได้ก็ออกมาอย่างที่จะได้ชมนะครับ
วัดพระพุทธบาท นามทางราชการว่า วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดพิเศษ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อปีพุทธศักราช ๒๑๖๗ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น นับถึงปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๖) วัดพระพุทธบาทฯ มีอายุ ๓๗๙ ปี เนื่องมาจากที่พระองค์ได้ทอดพระเนตรรอยพระพุทธบาทประดิษฐาน ณ ที่นั้นมีพระราชศรัทธาเลื่อมใส โปรดเกล้าฯ ให้ช่างก่อเรือนคฤหหลังน้อยครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นการชั่วคราวก่อน หลังจากได้เสด็จกลับราชธานีกรุงศรีอยุธยา ได้เริ่มงานสถาปนายกสถานที่รอยพระพุทธบาทขึ้นเป็นพระมหาเจดีย์สถานและโปรดให้สร้างพระมหามณฑปครอบรอยพระพุทธบาท พร้อมกับโปรดให้ เจ้าพนักงานสร้างพระอารามสำหรับพระภิกษุ สามเณรอยู่อาศัยประจำ เพื่อการดูแลรักษาและบำเพ็ญสมณธรรมสืบไป
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอพระพุทธบาทเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ปูชนียสถานที่สำคัญคือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี รอยพระบาทมีความ กว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว
ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระมณฑป
พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราว ครอบรอยพระบาทไว้
ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย ลักษณะของพระมณฑป เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น
มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง ปิดทองประดับกระจกโดยรอบ ฝาผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม มีพุ่มข้าวบิณฑ์
บานประตูพระมณฑปเป็นงานศิลปกรรมประดับมุกชั้นเยี่ยมของเมืองไทย พื้นภายในปูด้วยเสื่อเงินสาน (ซึ่งผมดูแล้วน่าจะเป็นทองคำมากกว่า)
ทางขึ้นพระมณฑปเป็นบันไดนาคสามสาย ซึ่งหมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์ หัวนาคที่เชิงบันไดหล่อด้วยทองสำริด เป็นนาค 5 เศียร บริเวณรอบมณฑปมีระฆังแขวนเรียงราย เพื่อให้ผู้ที่มานมัสการได้ตีเป็นการแผ่ส่วนกุศลแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย พระอุโบสถ และพระวิหารต่าง ๆ ที่อยู่รายรอบ ล้วนสร้างตามแบบศิลปกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์
นอกจากนี้ ในบริเวณวัดยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท (วิหารหลวง) ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่ายิ่ง อาทิ เครื่องทรงสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศของพระสมัยต่าง ๆ และท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
วิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท ซึ่งปกติจัดให้มีปีละ 2 ครั้ง คือตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงแรม 1 ค่ำ และตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 จนถึงแรม 1 ค่ำ
มาดูความอลังการ ภายในมณฑป กันดีกว่า
เมื่อเข้ามา ก็จะได้เหยียบย่างลงบนแผ่นเสื่อทองคำ
รอยพระพุทธบาท อยู่ภายใน มณฑป อีกชั้นหนึ่ง
ทุกอย่างล้วนวิจิตรงดงาม มิเว้นแม้แต่เพดาน
ขาลงจาก มณฑป จะแวะตีระฆังเพื่อเป็นศิริมงคลชีวิต
ทางขึ้นอีกด้าน ก็เป็นบันใดนาคเหมือนกัน แต่ทางนี้มีที่สำหรับผู้พิการด้วย
ยอดปราศาทสีขาว นั้นมีพระพุธรูปอยู่ครับ
ก่อนกลับเจอดอกไม้ในกระถาง ก็มิลืมเก็บความงามนี้ไว้