พิษเศรษฐกิจสาวแห่ลงอ่างเป็นหมอนวดหารายได้เสริม
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 02:14:43 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พิษเศรษฐกิจสาวแห่ลงอ่างเป็นหมอนวดหารายได้เสริม  (อ่าน 5181 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2008, 06:01:56 am »

พิษเศรษฐกิจสาวแห่ลงอ่างเป็นหมอนวดหารายได้เสริม



มีตั้งแต่ข้าราชการยันพนักงานออฟฟิศ นักศึกษาเผยเพื่อนขายบริการทั้งกลุ่มหาเงินซื้อเสื้อผ้า เที่ยวเตร่ แถมแม่ลูกสองยังรับจ๊อบหาค่าเทอมลูก มาม่าซังแฉ กลุ่มบ้านนอกแทบไม่เหลือ สาวเมืองแห่สมัครด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านนายหน้า พบ 80 เปอร์เซ็นต์มีงานประจำทำ

วิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังกระหน่ำซ้ำเติมคนไทยทั้งประเทศโดยเฉพาะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อยๆจนทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นตาม รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะสาวๆ หลากหลายอาชีพตัดสินใจสมัครเป็นพนักงานอาบ อบ นวด ขายบริการทางเพศ

"คม ชัด ลึก"  ได้สำรวจสถานอาบ อบ นวดหลายแห่งในเขต กทม. พบว่าปัจจุบันแทบทุกแห่งมีหญิงสาวมาขายบริการทางเพศในรูปแบบสาวไซด์ไลน์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก บางแห่งมีปริมาณมากกว่าพนักงานประจำหลายเท่า โดยเฉพาะหญิงสาวเหล่านี้มีมาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ แม่ค้า และนิสิต นักศึกษา ที่สำคัญหญิงสาวกลุ่มนี้นับวันอายุเฉลี่ยลดน้อยลงเรื่อยๆ

"กีย์" มาม่าซังวัย 50 ปีของสถานอาบ อบ นวดชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก เปิดเผยว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา อาบ อบ นวดแทบไม่ต้องพึ่งพาเอเย่นต์จัดหาเด็กสาวมาขายบริการทางเพศ เพราะเด็กสาวจะเข้ามาสมัครทำงานด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านนายหน้า ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ต้องการทำงานแบบไซด์ไลน์ หรือเลือกทำงานเฉพาะในวันที่สะดวกเท่านั้น

"หญิงสาวที่มาสมัครงานมีตั้งแต่ข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ แม่ค้าและนักศึกษา ตอนสัมภาษณ์ก็แทบไม่เชื่อว่าคนที่มีหน้าที่การงานดีแบบนี้จะมาขายตัว แต่เมื่อได้พูดคุยแล้วก็เข้าใจเพราะส่วนใหญ่เดือดร้อนเรื่องเงิน จากค่าครองชีพที่สูงขึ้นขณะที่รายได้เท่าเดิม" กีย์กล่าว

มาม่าซังรายเดิมกล่าวด้วยว่าหญิงสาวที่เข้ามาสมัครงาน 10 คน มี 7-8 คน ที่มีงานประจำทำหรือไม่ก็เป็นนักศึกษา และหากเปรียบเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าปัจจุบันมีหญิงสาวเข้ามาสมัครงานขายบริการทางเพศสูงขึ้นถึงร้อยละ 50

ขณะที่นายเทียนชัยผู้จัดการอาบ อบ นวดชื่อดังย่านถนนเพชรบุรี เปิดเผยว่า ผู้หญิงขายบริการในปัจจุบันแตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง สมัยก่อนจะเป็นเด็กสาวจากภาคเหนือหรือภาคอีสาน เข้ามาขายตัวโดยสังกัดเอเย่นต์ ส่วนมากมีความรู้ต่ำ แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้ามเด็กสาวมีการศึกษาสูง มีงานประจำทำ เข้ามาทำโดยไม่จ่ายค่าหัวคิวให้ใคร

"เดี่ยวนี้ค่าครองชีพสูงเงินเดือนประจำเขาไม่พอใช้ จึงมาหาลำไพ่พิเศษเดือนละ 2-3 วัน โดยเลือกวันมาเอง หากรายที่เป็นนักศึกษาส่วนมากต้องการค่าหอพัก ค่าเทอม บางรายมีแผงขายโทรศัพท์มือถือแต่พอหมุนเงินไม่ทันก็มาทำงาน ซึ่งครั้งแรกจะทำใจยากหน่อย พอครั้งต่อๆ ไปก็ชิน" นายเทียนชัยกล่าว

ทั้งนี้หญิงสาวขายบริการที่ทำงานในรูปแบบสาวไซด์ไลน์จะถูกแยกจากที่นั่งพนักงานประจำ โดยจะนั่งอยู่นอกตู้ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มนักเที่ยวมากเป็นพิเศษ เพราะมีทัศนคติว่า สาวเหล่านี้ไม่ใช้มืออาชีพ มาทำงานเพียงครั้งคราวผิดกับพนักงานในตู้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานเก่าที่คุ้นหน้าคุ้นตาไม่น่าตื่นเต้นเท่าสาวไซด์ไลน์

อย่างสถานอาบอบ นวดของนายเทียนชัย มีการจัดพื้นที่ให้พนักงานไซด์ไลน์นั่งอยู่บริเวณชั้น 3 ซึ่งจัดพื้นที่คล้ายกับร้านอาหาร มีดนตรีจัดแสดง และจะมีพนักงานบริการเดินถามตามโต๊ะพร้อมแนะนำลูกค้าต้องการใช้บริการจากสาวแบบใด ส่วนใหญ่จะเชียร์สาวไซด์ไลน์มากกว่าเนื่องจากค่าตัวแพง สถานบริการได้เงินมากกว่า

"อรวรรณ" หญิงสาววัย 25 ปี เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจนต้องหันมาหาลำไพ่พิเศษในอาบ อบ นวด บอกว่า จำเป็นต้องหาเงินส่งค่างวดธนาคาร เนื่องจากนำที่ดินของพ่อแม่ไปจำนองไว้สมัยที่สามีต้องการเงินไปลงทุนทำธุรกิจ แต่ขณะนี้สามีเสียชีวิตแล้ว จึงไม่มีเงินจ่ายหนี้ ค้างชำระมากกว่า 10 งวด จนธนาคารส่งหนังสือแจ้งเตือนว่าจะฟ้องศาล

"ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาขายตัว แต่มันจำเป็นไม่อยากให้ที่ดินของพ่อแม่โดนยึด พอหมดหนทางก็ต้องยอม วันแรกที่โทรศัพท์มาถามที่อาบ อบ นวดหน้าชาไปหมด รู้สึกกระดากอาย จากนั้นเขาก็นัดให้มาดูตัวเพื่อตกลงค่าแรง ซึ่งไม่มีเงินเดือนจะมีรายได้จากการขายบริการ โดยจะแบ่งกับเจ้าของอาบ อบ นวดคนละครึ่ง แรกๆ ก็ทำงานทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้ทำเฉพาะสัปดาห์แรกของเดือนและวันศุกร์กับวันเสาร์เพราะลูกค้าจะเยอะ" อรวรรณกล่าว   

เหตุผลของอรวรรณก็ไม่แตกต่างจาก"เจี๊ยบ" แม่ลูกสองวัย 29 ปี พนักงานรับโทรศัพท์บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ต้องเข้ามาสมัครเข้าทำงานอาบ อบ นวดแห่งหนึ่ง เพื่อหาเงินเป็นค่าเล่าเรียนบุตร   

"สามีตกงานได้ 10 เดือนแล้วเพราะบริษัทขาดทุน แค่เงินเดือนของเราก็ไม่พอใช้ ต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่พัก แถมทุกวันนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เงินเลยไม่พอใช้ต้องแอบมาขายตัวทุกวัน กลัวคนรู้จักมาเห็นเหมือนกัน แต่ทำอย่างไรได้เพราะอาชีพนี้รายได้ดี สามารถช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้" พนักงานรับโทรศัพท์ที่ผันตัวมาเป็นพนักงานอาบ อบ นวดกล่าว

ขณะที่ "ก้อย" นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ยอมรับว่า สาเหตุที่มาขายบริการทางเพศเพราะต้องการนำเงินไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และใช้เที่ยวเตร่กับเพื่อนๆ เพราะเงินที่พ่อและแม่ให้มาไม่พอใช้ อีกทั้งเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันก็ขายบริการทางเพศกันแทบทั้งกลุ่ม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากหญิงสาวจะหาลำไพ่พิเศษโดยการสมัครเข้าทำงานในอาบ อบ นวดแล้ว ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกหาลำไพ่พิเศษโดยการประกาศขายบริการทางเพศตามเว็บบอร์ดต่างๆ ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งโปรแกรมสนทนาออนไลน์ ซึ่งวิธีการเสนอขายบริการทางเพศชนิดนี้ ผู้ขายบริการจะได้ค่าแรงในอัตราที่สูงกว่ากลุ่มที่ทำงานในอาบ อบ นวดเสียอีก เพราะไม่ต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งให้แก่เจ้าของอาบ อบ นวด และยังไม่ต้องเขินอายผู้คนในสถานบริการ เพราะการติดต่อซื้อขายรู้กันระหว่างผู้ซื้อบริการและผู้ขายบริการเท่านั้น

ปลดหนี้และรักษาแม่ได้แล้ว ก็จะเลิก"

เลขาฯแพทย์เปิดใจ

คงไม่มีสาวคนไหนคิดจะขายเรือนร่างตัวเองเพื่อแลกกับเงินแต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจรุมเร้า ก็ไม่มีหนทางเลือก

"อรพิน" หรือ "กวาง" หญิงสาวจาก จ.สกลนคร วัย 25 ปี ปัจจุบันเธอทำงานเป็นเลขานุการของนายแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องขายเรือนร่างเพื่อแลกเงิน

ตั้งแต่อายุ19 ปี หญิงสาวผู้นี้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหนีชีวิตที่ยากจนจากครอบครัวที่เป็นเพียงชาวนาจนๆ

"จำได้ชัดเจนว่าวันแรกที่ออกจากบ้าน เป็นเพราะแม่โทรศัพท์ไปหานายหน้าที่จัดหาคนงานไปทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งเรารู้ดีว่านายหน้าคนนั้นคงส่งคนไปขายตัว เลยหนีออกจากบ้านตั้งใจมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ด้วยการทำงานส่งตัวเองเรียนโดยไม่รบกวนทางบ้าน" กวางเล่าความเป็นมา

ระยะแรกที่เข้ามาในกรุงเทพฯ"กวาง" พักอาศัยอยู่กับเพื่อนๆ เพื่อช่วยกันเฉลี่ยค่าเช่าห้อง และต้องไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว จนกระทั่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งเธอจึงย้ายออกมาอาศัยอยู่ตามลำพัง พร้อมกับสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง และคาดหวังว่าหลังจากเรียนจบจะมีหน้าที่การงานที่ดี หลุดพ้นจากชะตาชีวิตที่เป็นมาในอดีต

แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความฝันของเด็กสาวจากต่างจังหวัดอย่างเธอเพราะหลังจากเรียนจบ "กวาง" ไม่มีโอกาสได้ทำงานตามที่เล่าเรียนมา เพราะจำนวนนักศึกษาที่จบมามากเกินกว่าที่ตลาดแรงงานจะรองรับได้

"กวาง" จึงต้องเบี่ยงเบนเข็มทิศชีวิต หันไปสมัครเข้าทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ฯ โดยทำหน้าที่เป็นเลขานุการของนายแพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาลคนหนึ่ง

"ครั้งแรกดีใจคิดว่ารายได้จากการทำงานในโรงพยาบาลดังกล่าวจะทำให้วิถีชีวิตเรากับครอบครัวดีขึ้น แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อแม่เกิดล้มป่วย ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาพยาบาล อีกทั้งที่นาที่นำไปจำนองไว้กับนายทุนกำลังจะโดนยึด เราเลยต้องตัดสินใจหาทางออก" กวางเผยที่มาก่อนตัดสินใจเป็นหมดนวด ทั้งๆ ที่เธอเคยหนีมันมาตั้งแต่อดีต

"กวาง" เล่าว่า ครั้งแรกที่ขายบริการ ใช้วิธีประกาศผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยเข้าไปโพสต์ข้อความไว้ในบอร์ดสนทนาแห่งหนึ่ง ว่าต้องการผู้ใหญ่ใจดีรับเลี้ยงโดยขอเงินเดือนละ 20,000 บาท โดยยอมแลกกับเรือนร่าง แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ครั้งแรกได้เงินมาเพียง 5,000 บาท

"ตอนที่เจอผู้ชายคนหนึ่งเขาบอกว่ายินดีช่วยแต่ขอแบ่งจ่าย 4 ครั้งต่อเดือน สัปดาห์ละ 5,000 บาท โดยอ้างว่ากลัวเราหนี ก็ยอมไปพอเขาจ่าย 5,000  มาหาถึง 3 ครั้งในสัปดาห์เดียว หลังจากนั้นก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย" กวางเล่าเหตุการณ์ในอดีต

หลังจากการขายบริการทางเพศครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ"กวาง" จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่ฝ่ายบุคคลสถานอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ย่านสุทธิสาร สมัครเป็นพนักงานไซด์ไลน์ ซึ่งผู้บริหารก็เรียกไปดูตัวและรับเข้าทำงาน โดย "กวาง" ได้ค่าแรงจากค่าตัวที่ขายบริการให้ลูกค้าในแต่ละรอบแบ่งกับเจ้าของสถานบริการคนละครึ่ง โดยไม่มีเงินเดือนประจำ

กวางเล่าด้วยว่า ทุกวันนี้ไปทำงานทุกวันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์ ช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยอาบอบนวดตั้งค่าตัวไว้ที่ 2,400 บาท หลังหักส่วนแบ่งแล้วจะได้เงิน 1,200 บาทต่อรอบ โดยเริ่มงานตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. แต่หากวันไหนโชคดีลูกค้านัดไปใช้บริการนอกสถานที่ ก็จะได้ค่าแรงรอบละ 2,500 บาทเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งให้ใคร เฉลี่ยแล้วต่อวันจะได้เงินค่าตัวประมาณ 4,000-5,000 บาท

"แม้จะทำงานมา 8 เดือนแล้ว ก็ยังแอบร้องไห้ทุกวัน ทุกครั้งที่นอนกับผู้ชายแปลกหน้ามันเจ็บปวดนะ บอกไม่ถูก ตั้งใจว่าหลังจากปลดหนี้และหาเงินรักษาแม่ได้แล้ว ก็จะเลิก และจะไม่หวนกลับมาทำงานในอาชีพนี้อีก" เลขาผู้บริหารโรงพยาบาลกล่าวทิ้งท้าย


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2008, 06:32:41 am »

สนใจเป็นพิเศษ ข่าวนี้  Grin Grin
บันทึกการเข้า
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2008, 06:42:16 am »

พี่ชาจะไปใช้บริการหรือไปสมัครงานครับ Grin Smiley
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2008, 07:28:47 am »

ชอบไปใช้บริการครับ
บันทึกการเข้า
noi3535-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1706



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2008, 10:43:52 am »

ชอบไปใช้บริการครับ
Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

884-200-9496      ชื่อบัญชี นายนพดล  รอดภัย
      ไทย พาณิชย์ สาขาย่อยบิ๊กซีเพชรบุรี       ออมทรัพย์
   086-3119516 -ทรูมูฟ  088-2356231-ดีแทค
   083-5565916-ดีแทค
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!