โทษของการติเตียนพระอริยะ
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โทษของการติเตียนพระอริยะ  (อ่าน 4576 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 22, 2008, 09:51:43 am »

Credit zone-it.com

โทษของการติเตียนพระอริยะ


ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสื่อต่าง ๆ มักนิยมนำข่าวพระสงฆ์มานำเสนอ โดยส่วนมากจะนำเสนอในทางที่ไม่ดี
และผู้คนก็จะวิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์ไปต่าง ๆ นานา ตามแต่กิเลสของแต่ละคน แล้วคุณเคยติเตียนพระบ้างหรือไม่...?

ถ้าท่านทำผิดจริงก็เป็นกรรมของท่านไป แต่หากบังเอิญว่า พระสงฆ์ที่เรา
ติเตียนนั้น ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีตรงตามพระธรรมวินัย แต่ถูกใส่ร้ายเพราะมีผู้
ต้องการทำลายชื่อเสียง ซึ่งนำไปสู่การทำลายพระพุทธศาสนา ยิ่งไปกว่านั้น

ท่านพระกรรมฐานบางรูปท่านปฏิบัติจนได้ธรรมะชั้นสูงถึงขั้นเป็นพระอริยะเจ้าแล้ว ก็มาก เช่น

หลวงปู่บุดดาให้โยมผู้หญิงทาแป้งให้
หลวงปู่เจี๊ยะใช้ตีนโบกรถสิบล้อ
หลวงปู่ตื้อเทศนาอันร้อนแรง เป็นต้น

ท่านเหล่านี้จะประพฤติอย่างไรก็ไม่มีกรรม เพราะท่านอยู่นอกเหนือกรรมแล้ว
แต่ถ้าบังเอิญเราทั้งหลายเป็นผู้โง่เขลาไปกล่าวติเตียนท่าน จะเป็นอย่างไร...?

ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต พยสนสูตร
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสเรื่องของการติเตียนพระอริยเจ้าไว้ว่า


'' ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษ
พระอริยะ ภิกษุนั้นจะพึงถึงความพินาศ 10 อย่าง อย่างใดอยางหนึ่ง


ความพินาศ 10 อย่างเป็นไฉน คือ

ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ 1
เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว 1
สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว 1
เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย 1
เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง 1
ย่อมถูกโรคอย่างหนัก 1
ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน 1
เป็นผู้หลงใหลการทำกาละ(ตาย) 1
เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก 1

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย
กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นพึงถึงความฉิบหาย 10 อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง"

...ถึงพระท่านจะเป็นอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเราเป็นฆาราวาส ก็มีศีลน้อยกว่าท่าน เราก็ไม่น่าเสี่ยงกับความพินาศที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีกว่า...


ใครมาด่าพระพุทธเจ้าอย่าไปโกรธ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์.
ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น. เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง
หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น,
อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.
ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ จะรู้ได้ละหรือว่า
คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต) ?

"ไม่ทราบ พระเจ้าข้า."
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง
ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง
ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้."


ที่มา พระไตรปิฏก
พรหมชาลสูตร ๙/๓




บันทึกการเข้า

พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 22, 2008, 10:19:14 am »

เรื่องแบบนี้  เป็นจริง แต่จะมีใครสักกี่คนที่ทราบ

***  ที่สำคัญกว่านี้ คนบางคน เขาเกิดมา เขาก็มีญาณชั้นสูงติดตัวมา  แล้วคนทั่วๆไป ที่ชอบดูถูกคน ก็ไปดูถูกเขา  แล้วชีวิตของคนๆนั้นก็ตกต่ำลง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ชีวิตแย่ลงเรื่องๆ   

ที่เล่าให้ฟังนั้นเป็นเรื่องจริง  ผมเห็นกับตา และมีตัวตนอยู่ให้เห็นหลายคน ที่ตายไปก็หลายคน

แต่ผมไม่ทราบทางแก้  ผมก็สงสารเขา  ที่เขาทำผิดโดยไม่รู้ตัว   ทำให้ชีวิตทั้งชีวิต แย่ไปเลย 
บันทึกการเข้า

แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 22, 2008, 10:24:24 am »

ขอบคุณครับพี่ Smiley
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: