.อยากให้คุณเทพ ลงบทความประสบการณ์งานติดตั้งเสาอากาศครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

โอ้!!!!!! พระเจ้า เขาคิดได้ยังไงเนี้ย  ถึงทำแบบนี้ได้  เขาฉลาดเกินคนหรือไม่มีความรู้อะไรเลยในด้วยสายอากาศทีวีถึงทำแบบนี้  ได้   
             พอเช็คมาถึงตรงนี้ ก็ได้เข้าใจหมดทุกปัญหาแล้ว ว่า ทำไหมระบบเดิมไม่เอาสัญญาณ VHF เข้าไปขยายในบูสเตอร์   ก็ เพราะว่าเอาเข้าไปแล้ว มันมีปัญหา สัญญาณแรงเกินไป เขาคงแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ เขาเลยคิดวิธีที่สุดยอดที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอมา และด้วยวิธีเดียวกันนี้ ช่อง 32 ก็เลยชัดไปด้วยเลย เพราะสัญญาณเข้าไประบบโดยตรงไม่ต้องผ่าน MIX
  แต่สิงที่เกิดตามานี้สิ เขาแก้ไม่ได้ นั้นคือ ช่อง 5-7-11 ไม่ชัด  ดังนั้นวิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ผิดนะครับ ช่างๆทั้งหลายอย่าเอามาใช้นะครับ วิธีแก้ไขปัญหามันมีอยู่หลายวิธีมาก แต่ว่าจะเอาวิธีไหนมาใช้ก็ตาม ควรเป็นวิธีที่ถูกต้องเท่านั้นครับเช่น กรณีนี้ วิธีที่แก้ไขง่ายสุดก็คือ ใช้บูสเตอร์ ที่ขยายเฉพาะย่าน UHF ก็พอครับ ส่วนย่าน VHF สัญญาณแรงพอแล้วไม่ต้องไปขยายหรอกครับ เมื่อได้บูสเตอร์UHFมาแล้ว ปัญหาการกวนของย่าน VHFก็หมดไป ส่วนย่านUHFมันอ่อนกว่ามันได้ขยายสัก20-30dBก็พอนะครับ สัญญาณก็จะได้มีความแรงเท่ากับย่านVHF เมื่อสัญญาณ 2 ย่านเท่ากันแล้ว การส่งสัญญาณเข้าไปสู้ระบบก็หมดปัญหาการกวนหรือปัญหาย่านUHFไม่ชัดอีกต่อไป
      เห็นไหมครับ ว่าถ้าเราทำอะไรก็ตามแต่  ถ้าเราไม่ได้ศึกษาความรู้นั้นๆปัญหามันก็เกิดตามมาต่างๆนา แต่ถ้าเรามีความรู้ทำแบบมีความรู้ อะไร อะไรมันก็ง่ายไปหมดครับ
        สำหรับฉบับนี้ขอก็ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ สำหรับท่านที่สนใจที่จะเรียนวิชาติดตั้งสายอากาศทีวี ท่านสามารถสมัครเรียนได้ที่  www.tv59.net
 ครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

สวัสดีครับ ก็ผ่านไปหลายตอนแล้วนะครับ เกี่ยวกับการออกแบบผิดๆ ของช่างที่ทำงานอย่างเดียว โดยไม่ใช้สมองเท่าที่ควร มาตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องการออกแบบผิดๆอีกเช่นกันครับ โดยเริ่มจากการออกแบบบ้านผิดกันเลยครับ  ที่พูดเช่นนี้ก็เพราะคนเขียนแบบบ้านไม่เคยเขียนแบบบ้านให้มีที่ติดตั้งสายอาการทีวี หรือจานดาวเทียมเลย  คือตั้งหน้าตั้งตาเขียนแบบบ้านอย่างเดียว ไม่เคยคิดเลยว่าบ้านทุกบ้านต้องมีที่ติดตั้งสายอากาศทีวี และจานดาวเทียม ผลออกมาก็เลยเป็นเหตุว่า ไม่มีที่ติดตั้งสายอากาศทีวีและจานดาวเทียม แต่เรื่องสายอากาศทีวียังเป็นเรื่องเล็ก เพราะพอที่จะหาที่ติดตั้งได้เพียงแต่ จะทำให้บ้านไม่สวยหรือสวยน้อยลงไปหน่อยก็เท่านั้น แต่เรื่องจานดาวเทียมนี้สิ เรื่องใหญ่เลย ครับ เพราะไม่สามารถหาที่ติดตั้งได้เลยครับ นั่นคือความผิดของการออกแบบบ้านผิดข้อที่ 1  ดูรูปที่1และ2ประกอบครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

รูปที่1 จะเห็นได้ว่า ที่ติดสายอากาศทีวีไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และทำให้บ้านที่สวยๆ หมดสวยไปมากเลย

รูปที่ 2 ดูกันให้ชัดๆ  ว่าที่ติดตั้งมันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และไม่ถูกที่ถูกทางด้วย  ที่ต้องติดแบบนี้เพราะมันไม่มีที่ติดครับ

ส่วนความผิดข้อที่ 2 ผมไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดของคนเขียนแบบหรือคนสร้างบ้าน เพราะไม่มีช่อง SERVICE หรือช่องขึ้นฝ้า ดูสิเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังผิดได้  คนเราทำอะไรไม่ใช้สมองเต็มที่ก็เป็นแบบนี้เหละครับ  เมื่อผิดแล้ว   จากเรื่องเล็กๆก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที  เพราะช่างไม่สามารถขึ้นไปทำงานหรือซ่อมแซมบนฝ้าได้ ดังนั้นความผิดที่ช่างชุดอื่นก่อขึ้น ก็จะตกมาที่เรา คือต้องตัดฝ้าหรือผ่าฝ้าออกเพื่อให้ช่างสามารถขึ้น  ไปทำงานบนฝ้าได้ ดูรูปที่3และ4ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

รูปที่3 กำลังผ่าฝ้าเพื่อขึ้นไปบนฝ้า

รูปที่ 4 ผ่าเสร็จแล้ว ช่างสามารถขึ้นไปทำงานได้แล้ว

ที่นี้มาดูว่าทำอะไรผิดอีก ก็หลังจากช่างได้ขึ้นไปทำงานต่างๆ(ทำการตั้งตั้งสายอากาศทีวี+สายอากาศTTV และMIXระบบ)จนเสร็จ จากนั้นก็จ่ายสัญญาณเข้าสูงระบบ แต่เราหาสายนำสัญญาณที่เป็นเส้น INPUT ไม่เจอครับ (หมายถึงดูด้วยตาเปล่าไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นINPUT) เพราะสายนำสัญญาณมีทั้งหมด 7 เส้น แต่ไม่ได้เขียนไว้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นอะไร  เช่น เส้นไหนเป็นINPUT สายอากาศทีวี เส้นไหนเป็นเส้น INPUT ดาวเทียมหรือเป็นINPUT  UBC  เมื่อไม่ได้เขียนไว้จึงเรียกได้ว่า  เป็นการว่างระบบที่ผิดหลักการ  เป็นการว่างระบบที่ไม่มีหลักการ เป็นการวางระบบที่แย่มากๆ เป็นการวางระบบที่ ไม่ใช้สมองครับ ดูรูปที่5ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเส้นไหนเป็นเส้น INPUT  ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นต้องวัดสายนำสัญญาณที่ละเส้นจนกว่าจะเจอสาย INPUT ครับ ดูรูปที่ 6 ประกอบ
 

[พรเทพ-LSV team♥]

กว่าจะหาเจอก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องต่อสายทีละเส้น ทีละเส้น ต่อไป5เส้นครับ เส้นที่ 5 มีสัญญาณมาครับ และอ่านค่าความแรงสัญญาณที่ย่านVHF ได้ที่ 93dBโดยประมาณ ดูรูปที่ 7 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

เมื่อได้สายINPUT แล้วก็จ่ายเข้า TAP-OFF 2 WAY เพราะชั้น 3 มีเพียง2จุดเท่านั้นครับ ท่านผู้อ่านคงเริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมว่า มีแค่ 2 จุดแล้วทำไมถึงมีสายตั้ง 7 เส้น คืออย่างนี้ครับ ในหนึ่งจุดมี 2 เส้นครับ เพราะระบบที่วางไว้มี 2 ระบบครับ คือเส้นหนึ่งเป็นสายนำสัญญาณของทีวีครับ ส่วนอีกเส้นหนึ่งเป็นสายนำสัญญาณของดาวเทียมหรือของUBCครับ ดูรูปที่8 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

จากรูปที่ 8 นี้จะเห็นได้ว่าคนวางฝังเขาวางฝังไว้ดีและระบบถูกต้องนะครับ คือเราหรือผู้ใช้สามารถเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เส้นไหนเป็นของดาวเทียมหรือUBCและเส้นไหนเป็นของสายอากาศทีวีแต่ที่ผิดก็คือคนเดินสายนำสัญญาณหรือคนคุมงานครับเพราะ ไม่ได้เขียนไว้ว่าเส้นไหนเป็นสายอะไร และไม่ได้แยกให้ชัดเจนว่า ชุดไหนเป็นสายนำสัญญาณของดาวเทียมหรือ UBCและชุดไหนเป็นสายนำสัญญาณของสายอากาศทีวี  จริงๆแล้วควรจะใช้สายต่างสีกัน เช่นสายนำสัญญาณของชุดดาวเทียมหรือUBCให้ใช้สีดำ ส่วนชุดสายนำสัญญาณของสายอากาศทีวีให้ใช้สีขาว เพียงเท่านี้ ระบบจะดูดีขึ้นมากเลยครับ
แต่คนวางระบบมีความรู้น้อยไปหน่อย เลยทำให้ระบบดูยุ่งยากมากขึ้น  แต่ถ้าคนที่วางระบบมีความรู้มากกว่านี้สักหน่อยใส่ใจทำงานมากกว่านี้สักหน่อยก็จะวางระบบได้ดีขึ้นกว่านี้ครับ
 ที่นี้ก็กลับมาคุยเรื่องการจ่ายสัญญาณกันต่อนะครับ  คือว่าสาย OUTเรายังไม่รู้ครับ เรารู้แต่ว่าสายIN เรารู้แล้ว เราพร้อมจ่ายสัญญาณแล้ว แต่เราจะจ่ายไปเส้นไหนเราไม่รู้ ดังนั้นเราก็ต้องไปวัดสัญญาณรอไว้เลยครับ แล้วค่อยจ่ายสัญญาณไปทีละเส้น ดูสิว่าเส้นไหนใช่ครับ เมื่อได้เส้นที่1 แล้วก็ย้ายไปวัดเส้นที่ 2 รอครับ แล้วก็จ่ายสัญญาณไปทีละเส้นจนกว่าจะเจอครับ  เมื่อเจอ2เส้นแล้ว ก็เป็นอันว่าชั้น 3 จ่ายสัญญาณได้เรียบร้อยแล้ว ด้วยความยุ่งยากพอสมควร ทั้งๆไม่ควรยุ่งยากแต่ก็ต้องยุ่งยากนะครับ  นี้แค่ชั้นเดียวนะครับ คุณผู้อ่านแค่อ่านคุณไม่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์คนทำงานที่ต้องทำอะไรที่ไม่ใช่เรื่อง แบบนี้ได้ครับ แต่ถ้าท่านใดเป็นช่างก็จะรับรู้ถึงอารมณ์คนทำงานด้วยกันได้ดีครับ ว่ามันเซ็งแค่ไหน เมื่อเจองานที่เขาทำมาผิดๆแต่เราต้องมารับกรรมแทน ด้วยเหตุแค่ว่า คนวางระบบผิดๆวางแบบขอไปทีเท่านั้นเอง
   ทีนี้มาต่อชั้น 2 ครับ (ด้วยอารมณ์เซ็งมาจากชั้น3) พอมาถึงชั้น 2 ก็จะบวกอารมณ์เซ็งขึ้นไปอีหลายเท่าตัวเลยครับ เพราะว่าชั้น 2 มีสายทั้งหมด 14 เส้นครับพี่น้องทั้งหลาย แต่ไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้น MAIN IN จากชั้น 3 และชั้น 3 ก็มีสายที่ว่างอยู่ 4 เส้น ซึ้งไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นไหนเป็นMAIN OUTที่เอาไว้จ่ายลงชั้น 2  ท่านผู้อ่านลองนึกภาพเล่นๆดูนะครับ ว่าช่างกว่าจะหาที่ติดตั้งเสาได้ กว่าจะผ่าฝ้าได้ และกว่าจะหาเส้นINPUTเจอกว่าจะจ่ายสัญญาณชั้น 3 เสร็จ แล้วมาเจอ ชั้น 2 อีก แล้วช่างจะเซ็งแค่ไหน นอกจากความเซ็งแล้ว ยังมีความหิวและความเหนื่อยอีก แต่ก็ต้องทำต่อไปครับ เพราะงานยังไม่เสร็จทั้งๆไม่ใช่เรื่องไม่ใช่ความผิดของเราเลย และที่สำคัญ คิดเงินเพิ่มก็ไม่ได้ด้วยนะครับ  (ก็แค่เล่าให้ฟังนะครับ อิอิ ) ดูภาพที่9 ประกอบครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

จากรูปที่ 9 คงเห็นได้ว่ามีสายอยู่มากถึง 14 เส้น แต่ไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้น MAIN IN เลยต้องวัดทั้งหมด 14 เส้น4รอบ(14X4=56เส้น) ที่พูดแบบนี้เพราะว่า ชั้น 3 ก็มี 4 เส้น ซึ้งไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นไหนเป็นเส้น OUT ลงมาชั้น 2 ดังนั้นจึงต้องจ่ายจากชั้น3มาทีละเส้น เมื่อจ่ายแล้วก็วัดที่ชั้น2ทีละเส้นเช่นกัน วัดจนหมดทุกเส้นไม่เจอก็เปลี่ยนเส้นที่ชั้น 3 แล้วจ่ายมาใหม่ แล้วก็วัดที่ชั้น 2 ทีละเส้นจนหมดถ้าไม่เจอก็เปลี่ยนเส้นชั้น 3 ใหม่ แล้ววัดที่ชั้น2ทีละเส้น ทำแบบนี้จนกว่าจะเจอสาย MAIN IN ของชั้น 2 เมื่อเจอสาย MAIN IN ของชั้น 2  แล้ว ก็จ่ายสัญญาณเข้า TAP-OFF 4 WAYก่อน เพราะชั้น 2 มี 5 จุด เมื่อจ่ายสัญญาณเข้าIN TAP-OFF แล้วก็ต้องไปหาสายตามจุด OUT LETS ต่างๆอีก 5 จุด (ทำเหมือนชั้น3) เมื่อหาสายตามจุด OUT LETS ครบแล้ว ก็ลงมาที่ชั้น 1 ครับ
   ชั้นหนึ่งก็มีสายนำสัญญาณ12เส้นครับ ส่วนชั้น 2 มี 14 ใช้ไปแล้ว 6เหลืออีก 8เส้น   ก็เท่ากับว่าชั้นหนึ่งนี้ ต้องหาสาย 12เส้น 8 รอยครับ(12x8=96 เส้น) คือทำเหมือนกับชั้น 2 ครับ คือจ่ายสัญญาณจากชั้น 2 มาทีละเส้น แล้วมาวัดที่ชั้น 1ทีละเส้น+ 8รอบครับ พอหาสาย MAIN IN ของชั้น 1 เจอ ก็จ่ายเข้า TAP-OFF 4    WAY แล้วก็ไปวัดสัญญาณตามจุด OUT LETS รอไว้ แล้วก็จ่ายสัญญาณไปทีละเส้นว่าเส้นไหนใช่ ทำแบบนี้จนเจอครบ ทั้ง 5 จุด ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นเก็บของและเก็บเงินเก็บทองแล้วก็กลับบ้าน  เฮ้ย กว่าจะเสร็จได้ทุ่มกว่าแล้วครับ เวลาเขียนเล่าประสบการณ์ให้ฟัง คนฟังหรือคนอ่านอาจรู้สึกว่าไม่ยากเท่าไร แต่คนทำจริงๆ มันยากมากๆนะครับและเสียเวลามากเลยทีเดียวละ  แต่ถ้าช่างทุกคนยอมเรียนรู้ให้มาก ทำให้ดีๆ ทำให้ได้มาตรฐาน   เรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นครับ ดังนั้นผมหวังว่าเพื่อนช่างทั้งหลายจะเรียนรู้วิชาชีพที่ตัวเองทำอยู่ให้ดีขึ้นไปเรื่องๆ ทำงานออกมาอย่าให้คนเขาว่าตามหลังได้หรือทำงานออกมาแล้ว ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน  จากตัวอย่างประสบการณ์ที่ผมเอามาเล่าให้ฟังนี้ แค่แยกสายให้เป็นกลุ่มหรือเป็นชุดๆ  งานก็จะทำได้ง่ายและเร็วขึ้นกว่านี้มากเลยครับ ส่วนสาย MAIN ก็ใช้สีที่ต่างกัน หรือเขียนชื่อติดไว้ ก็ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหาสาย MAIN กัน เมื่อไม่ต้องเสียเวลาหาสายMAINงานก็จะเดินหน้าได้เร็วและเสร็จเร็วไงครับ  การวางระบบที่ดี วางระบบที่ถูกต้อง ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผ่านช่างซ่อมมากี่รอบแล้วก็ตาม ช่างที่มาทำทุกๆช่าง ทุกๆชุด ก็จะไม่ งง คือเห็นสายแล้ว สามารถเข้าใจระบบได้เลย  แต่ถ้าวางระบบผิดๆอยู่ ถ้าเปลี่ยนช่างมาซ่อม เขาอาจจะทำระบบเสียหายได้ เนื่องจากความรู้ของช่างแต่ละชุด มีความรู้ไม่เท่ากัน ดังนั้น ถ้าระบบไม่ดี บวกกับช่างที่มีความรู้น้อยเข้าไปซ่อมระบบเขาอาจจะ งง และทำให้ระบบเสียหายได้และถ้าทำ หลายๆครั้งเข้า ระบบก็จะเสียหายจน ระบบทั้งระบบใช้การไม่ได้เลยนะครับ เมื่อระบบใช้การไม่ได้แล้ว ก็ต้องเรียกช่างที่มีความรู้เข้าไปแก้ไขอีก เมื่อช่างที่มีความรู้เข้าไป ก็ต้องมาเริ่มต้นหาระบบกันใหม่ แบบที่ผมเล่าประสบการณ์ให้ฟังในตอนต้น อีกครั้ง ดังนั้นช่างๆทั้งหลายควรเรียนรู้ วิธีการวางระบบสายอากาศทีวีให้ถูกต้องนะครับ

    สุดท้ายนี้ผมหวังอย่างยิ่งว่า เพื่อนๆช่างคงได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย และหวังอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆช่างคงวางระบบเป็นและถูกต้องกันแล้วนะครับ

สำหรับตอนนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนครับ ท่านที่สนใจที่จะเรียนรู้เทคนิคการติดตั้งสายอากาศ สามารถที่จะเรียนได้ที่ www.tv59.net  ครับ

[ช่างเล็ก(LSV)]

  เยี่ยมครับ .... คุณเทพโดนฝุ่นผมขาวหมดเลย 

[พรเทพ-LSV team♥]

 

[แวมไพร์-LSVteam♥]

จริงๆครับ 

[e21fnw-LSV team♥]

สำหรับเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำเป็นประจำ และสำคัญของผม ขอยกเป็นตัวอย่างเสริมสักเล็กน้อย

ในการออกแบบ  ติดตั้ง ซ่อมบำรุง ทั้งในบ้านพักอาศัย  ไปจนถึงอพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม โรงแรม  ซึ่งมีจุดรับชมเป็นจำนวนมาก

- อุปกรณ์ระบบต่าง ๆ เช่น Tap-off , Splitter  และอื่น ๆ
- สายนำสัญญาณที่มีจำนวนหลายเส้น เห็นเป็นกำ ๆ อย่างนั้น 

ต้องเขียนรหัส , เครื่องหมาย , เลขหมาย กำกับ อย่างชัดเจน และ อ้างอิงตรงกับแผนผังระบบที่เราออกแบบ

- ใบปฎิบัติงาน  จะประกอบด้วย 
   +  แผนผังระบบบ 
   +  ตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ 
   +  รายละเอียดต่าง ๆ ที่สามารถอ้างอิงตรงกับ  อุปกรณ์ และ สายนำสัญญาณต่าง ๆ ที่ต่ออยู่ในระบบ
   +  ค่าความแรงสัญญาณ ณ จุดสำคัญต่าง ๆ เพื่อไว้อ้างอิง และ ตรวจสอบภายหลัง

ทั้งนี้เพื่อมาตรฐานในการปฎิบัติงาน  ง่ายต่อการตรวจสอบ  แก้ไข  และ ซ่อมบำรุงในครั้งต่อไป

[พรเทพ-LSV team♥]

 

[e21fnw-LSV team♥]

พอนึกได้บ้างก็ลงเสริมนะครับ

ที่พบได้บ่อย ๆ เรื่องสายนำสัญญาณ และ การเข้าหัว F-Type  เรื่องง่าย ๆ  แต่ถ้ามือใหม่ ๆ ก็ไขปัญหาไม่ออก

- บ่อยครั้งที่มีการต่อสายนำสัญญาณแบบข้าวต้มมัด อ.พรเทพ ได้กล่าวไว้แล้ว

- สายนำสัญญาณที่เดินลอยบนฝ้าบางครั้งเสียได้เช่น
  + หนูกัดสาย
  + ชิลด์ กับอินเนอร์ช๊อทถึงกันเนื่องด้วย ที่เคยเจอเช่น น๊อทขันผ้าทีบาร์  ขันทะลุชิลด์ ไปชนอินเนอร์ ด้วยความบังเอิญ

- เข้าหัว F-Type , ตัวผู้ - ตัวเมีย 75 โอห์ม ไม่ได้มาตรฐาน  เช่น ฝอยชิลด์  ไปแตะอินเนอร์  หรือ  ไม่ได้ปลอกชิลด์ แล้วทบเมื่อตอนเข้าหัว

ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องอาศัยประสบการณ์ ปฎิภาณ  ไหวพริบ  ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายดาย

ตอนนี้ผมก็ ฝุ่นจับเส้นผม  ไม่แพ้ อ. พรเทพ แล้วครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

    คุณต้นที่มาช่วยเสริมครับ

[chin252782]

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

เห็นด้วยเรื่องอะไรละครับ   

[พรเทพ-LSV team♥]

เทคนิคการติดตั้งสายอากาศภาคสนาม ตอนที่ 33

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน  ก็ได้อ่านผ่านกันไปหลายตอนแล้วนะครับ เกี่ยวกับการติดตั้งสายอากาศทีวี ที่ผิดหลักการ การวางระบบที่ผิดๆ และการใช้ บูสเตอร์หรือการเลือก บูสเตอร์ที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน  แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น และในตอนนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ออกแบบผิดๆ  มาดูรูปที่1 ประกอบครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

จากรูปที่ 1 จะเห็นได้ว่า สายอากาศแผง VHF ใหญ่มากๆ  ซึ้งใหญ่เกินความจำเป็น   แต่สายอากาศ UHF กับ เล็กมากๆ ซึ้งเรียกได้ว่าเล็กเกินไปหรือเล็กเกินความควรจะเป็น  ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าออกแบบระบบผิดหลักการครับ และเนื่องจากออกแบบมาผิดหลักการ ดังนั้น สัญญาณจึงไม่สามารถจ่ายเข้าสู้ระบบได้  ดังนั้น ทางทีมงาน TV59.NET จึงเข้าไปแก้ไข ระบบให้ใหม่ โดยการเปลี่ยนสายอากาศชุดใหม่ครับ ดูรูปที่ 2 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูจากรูปที่ 2 แล้วจะเห็นความแตกต่างของสายอากาศทีวีที่ทาง ทีมงานเราเลือกใช้กับของช่างทีมเก่าติดตั้งไว้  ว่าแตกต่างกันมากๆเลยทีเดียว   ความแตกต่างอันแรกเลยก็คือ  สายอากาศของเรา มีจำนวนแผงที่น้อยกว่าและน้ำหนักเบา แต่สายอากาศแผง UHF ของเราใหญ่กว่าของเขาครับ ที่เราเลือกใช้สายอากาศแผง UHF ใหญ่กว่าเพราะ สัญญาณ UHF รับได้อ่อนกว่าสัญญาณVHF ครับ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้สายอากาศUHFที่ใหญ่ขึ้นครับ
   ส่วนสายอากาศแผง VHF เล็กลง เพราะสัญญาณ VHF รับได้แรงกว่า สัญญาณ UHF ครับ ดังนั้นจึงใช้สายอากาศVHFที่เล็กลงครับ  เพื่อให้ความแรงสัญญาณที่รับได้มีความเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุดครับ
   ทีนี้มาดูความแรงสัญญาณที่รับได้ครับ ว่าแรงแค่ไหน ดูรูปที่ 3 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูรูปที่ 3 แล้ว จะเห็นได้ว่า ความแรงสัญญาณรับได้ตั้ง 102 dB เลยครับ  เราใช้แผงแค่ 10 E ก็รับสัญญาณได้ตั้ง 102 dB แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะใช้สายอากาศที่ใหญ่กว่านี้แล้วครับ เพราะความแรงสัญญาณระดับนี้สามารถจ่ายไปยังระบบที่มีหลายร้อยห้องได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องใช้บูสเตอร์ขยายสัญญาณเพิ่มอีกครับ
เมื่อติดตั้งสายอากาศเสร็จแล้ว ก็ลงไปดูภาพ ผลออกมาภาพยังไม่ดีเลยครับ เมื่อภาพยังไม่ดีก็ต้องไปดูระบบที่ HEAD END ครับ และเมื่อเห็นระบบที่ HEAD END  แล้ว ก็รู้ได้เลยว่าระบบนี้ได้ผ่านช่างซ่อมมาหลายช่างแล้ว เพราะตรงHEAD END มีอุปกรณ์หลายตัววางไว้ไม่ได้ใช้  แล้วสาเหตุที่ไม่ได้ใช้ก็เพราะอุปกรณ์นั้นๆ ไม่เหมาะกับงานนี้ครับ ดูรูปที่ 4 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

จากรูปที่ 4 จะเห็นได้ว่ามีบูสเตอร์อยู่ตัวหนึ่งแต่ไม่ได้ต่อใช้งาน  ที่ไม่ได้ต่อใช้งานก็เพราะว่าสัญญาณIN PUT แรงเกิดไป จึงไม่สามารถใชงานได้ แต่ที่ซื้อมาเพราะตอนซื้อไม่ได้รู้เลยว่า  สัญญาณรับมาแรงแค่ไหน  ควรจะใช้บูสเตอร์รุ่นไหน ดังนั้นเขาจึงเลือกซื้อตัวที่ใหญ่ที่สุดมา เพราะคิดเอาเองว่าใหญ่ที่สุดคงจะดีที่สุด แต่นั้นเป็นแค่ความคิดของคนที่ไม่มีความรู้ด้านสายอากาศทีวีเท่านั้น ซึงความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น  ผลออกมาก็คือ บูสเตอร์ตัวนี้ขยายสัญญาณ 40dBโดยประมาณ แต่ OUTPUT แค่ 115 dB เท่านั้นเอง ดังนั้น เมื่อเอาสัญญาณ INPUTที่มีความแรงมากกว่า 100 dBมาขยายอีก40dB ผลออกมาก็คือได้ สัญญาณOUTPUTที่มากกว่า 140 dB แต่OUTPUTที่บูสเตอร์ทนได้คือ 115 dBเท่านั้น ดังนั้นจึงเกิดอาการภาพลาย และภาพกวนกันและ ช่องกวนกันจนดูไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต่อบูสตัวนี้ใช้งาน และด้วยเหตุที่เขาไม่มีความรู้ ด้านสายอากาศทีวีแต่ไปรับงานใหญ่ๆมาทำในที่สุดก็ปิดงานไม่ได้และก็หนีไป (อันนี้เจ้าของบ้านบอกมานะครับ )
   จากนั้นผมก็ไม่ทราบว่าช่างที่ไหนมาแก้งานให้ และก็ได้เอาบูสเตอร์มาอีกตัวหนึ่ง มาเพื่อใช้กับงานชิ้นนี้แต่ก็ปิดงานไม่ได้ ทิ้งบูสเตอร์ไว้ดูต่างหน้า อีกหนึ่งตัว ดูรูปที่ 5 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูรูปที่ 5 แล้วก็คงเห็นนะครับว่า บูสเตอร์ตัวนี้ มีMax. Output ที่ 85 dB เองครับ แล้วอย่างนี้จะเอาบูสเตอร์ตัวนี้มาใช้งานที่นี้ได้อย่างไร ในเมื่อสัญญาณที่นี้มีสัญญาณINPUTมากกว่า 100 dB ซึ้งเป็นสัญญาณที่สูงกว่าสัญญาณ  Max. Output ของบูสเตอร์ตัวนี้ เมื่อเขาไม่มีความรู้ด้านสายอากาศทีวี เขาจึงไม่สามารถแก้งานชิ้นนี้ได้ ดังนั้นเขาก็ทิ้งบูสเตอร์ไว้ดูต่างหน้าแล้วเขาก็จากไป ครับ
        เมื่อเห็นระบบแล้ว ทางทีมงานก็ทำการจัดวางระบบและจ่ายสัญญาณไป ผลออกมา ชั้น 1 ชัดหมดทุกช่องทุกห้อง  ชั้น 2 ช่อง 29 และช่อง 32 ไม่ค่อยชัด แต่ระบบถูกฝังไว้หมดแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้  ระบบที่วางไว้คือ มีสายแมน 1  เส้นขึ้นไปที่ชั้น 2 จากนั้นก็จะแยกไปสัก  4-5 จุด การที่สัญญาณจ่ายขึ้นไปเป็น 100 dB โดยประมาณ เมื่อสัญญาณขึ้นไปถึงชั้น 2 แยกไปสัก 5 จุด ถ้าจ่ายระบบเป็น วางระบบที่ถูกต้อง สัญญาณศูนย์เสียไม่ถึง 10  dB แต่ระบบที่เขาวางไว้ทำมันมันศูนย์เสียมากจัง เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางทีมจึงจำเป็นต้องบูสสัญญาณ UHF เพิ่ม  เมื่อบูสแล้ว ช่อง 29 และ ช่อง 32 ก็ชัด หมดทุกจุด เป็นอันว่า ระบบ HEAD END   เสร็จ สมบูรณ์    ดังรูปที่ 6

[พรเทพ-LSV team♥]

เมื่อ  HEAD END  เสร็จ ชั้น ต่างๆทุกจุดก็ชัดแล้ว นึกว่าจะได้เก็บเงินกลับบ้านแล้ว เพราะเริ่มหมดแรง แต่กับพบว่าห้อง VIP ไม่มีสัญญาณไปเลยครับทางทีมงานพยามซ่อมตามจุด   OUT LETS แล้วก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย เนื่องด้วย  จุดๆนี้เป็นชุดเฟอร์นิเจอร์บิวอิน  ดูภาพที่ 7 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูจากรูปที่ 7 คือว่าทางทีมงานได้เอาสายนำสัญญาณมาวัดสัญญาณดูแล้ว ผลคือไม่มีสัญญาณมาเลยครับ ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่มาบิวอิน   คงไม่ได้ต่อสายนำสัญญาณเส้นนี้เข้ากับระบบครับหรือไม่ก็คงต่อซ็อตอยู่ อันนี้ไม่มีใครตอบได้แต่ที่แน่ๆคือ ไม่มีสัญญาณมาเลยครับ แล้วห้องนี้ก็เป็นห้องรับแขกระดับสูงสักด้วยแต่ทีวีกับดูไม่ชัดเลย ดูสิ ทำกันได้ แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีละครับ เดินสายใหม่ก็ยากมากๆนะครับ ดูภาพรูปที่ 8 ประกอบ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูจากรูปที่  8  แล้ว คงทราบได้ว่า ห้องนี้ VIP แค่ไหนครับ แค่แจกันใบเดียวราคาก็เป็นหลายแสนแล้ว  ม้าตัวหนึ่งก็หลายๆหมื่น แต่ทีวีไม่ชัดซึ้งเป็นอะไรที่เจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรงสำหรับเจ้าของบ้าน  ส่วนข้างๆที่แสงสว่างๆนั้นเดินออกไปคือสระว่ายน้ำครับ  ในเมื่อห้องนี้สำคัญขนาดนี้ ยังไงๆ ก็ต้องทำให้ทีวีชัดอยู่แล้ว จะยากแค่ไหนก็ต้องทำ และแล้วทางทีมงานก็ได้เดินสายนำสัญญาณเส้นใหม่มาเข้าห้องนี้ได้สำเร็จ ท่านเจ้าของบ้านซึ้งนอนอยู่ในห้องเมื่อรู้ว่าห้อง VIP ดูทีวีชัดแล้วถึงกับลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาดูภาพด้วยตัวเองเลยทีเดียว  จากนั้นก็ได้ให้แม่บ้านจัดกับข้าวกันปลาให้ทางทีมงานกินข้าวกินปลากันอิ่มแล้วก็จ่ายเงินจ่ายทองให้อย่างมีความสุขทั้งผู้รับและผู้ให้ ครับ  แถมรูปที่ 9ให้อีกรูปนะครับ

[พรเทพ-LSV team♥]

ดูจากรูปที่ 9  คงจะเห็นความใหญ่โตของบ้านหลังนี้นะครับและก็คงเห็นสายอากาศที่ทาง TV59.NETตั้งตั้งให้นะครับ ว่าเล็กนิดเดียวเอง แต่ความแรงที่รับได้ ไม่เล็กอย่างที่เห็น ในมุมกลับกัน สายอากาศที่ช่างชุดก่อนติดตั้งไว้ใหญ่โตมากๆเลยทีเดียว แต่กับใช้การไม่ได้ ซึ้งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนะครับ ที่เขามี วาสนา และโอกาสที่ได้งานใหญ่ๆทำ  แต่ไม่มีความรู้ที่จะไปทำ ดังนั้นผมจึงมีความคิดและความหวังที่จะให้ช่างสายอากาศทีวีทุกๆคนมีความรู้ด้านสายอากาศทีวีอย่างถูกต้อง ครับ
  สุดท้ายนี้ก็คงเหมือนๆกันกับทุกๆตอนคือ ผมหวังอย่างยิ่งว่า เพื่อนๆช่างทุกๆทคนคงได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย และหวังอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆช่างคงวางระบบเป็นและถูกต้องกันมากขึ้นนะครับ

สำหรับฉบับนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนครับ ส่วนท่านที่สนใจที่จะเรียนรู้เทคนิคการติดตั้งสายอากาศ เพิ่มขึ้นสามารถที่จะเรียนได้ที่www.tv59.net
 ครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก www.tv59.net

[พรเทพ-LSV team♥]

เทคนิคการติดตั้งสายอากาศภาคสนาม ตอนที่ 34

เนื่องจากผมได้เขียนเกี่ยวกับการออกแบบผิดๆมาหลายตอนมากแล้ว ในตอนนี้ก็จะมาคุยถึงเรื่องการออกแบบที่ดี แต่ดีเกินไปให้ฟังบ้างนะครับ ท่านผู้อ่านอาจจะ  งง  กับเรื่องที่ผมพูด ว่า ออกแบบไม่ดีก็ว่าออกแบบไม่ดี พอออกแบบดี ก็มาบอกว่า ออกแบบดีเกินไป มันหมายความว่าอย่างไร ครับ ก็ไม่ต้อง  งง กันนะครับ อ่านไปเรื่อยๆเดียวก็เข้าใจเองละครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า บ้านหลังนี้เจ้าของบ้านเป็นคนละเอียดอ่อนมากๆถึงมากที่สุดเลยละครับ  เริ่มจากการมาติดต่อให้ทางทีมงานtv59.netไปติดตั้งสายอากาศให้ ท่านก็ขอดูภาพการติดตั้งและตัวสายอากาศและอุปกรณ์ทุกตัว ทุกส่วน อย่างละเอียด  และก็ตกลง ตัดสินใจให้ทางทีมงานtv59.netไปติดตั้งให้ จากนั้นก็วาดแผนที่ให้ช่างไปที่บ้านของท่าน ก็วาดเสียละเอียดมากๆเลย ละเอียดจนมองอะไรไม่ออกเลย 55555  คือเขียนข้อมูลมากเกินไป จนตัวหนังสือเต็มไปหมดจนมองไม่รู้เรื่องเลยครับ  (จริงๆแค่บอกว่าลาดพร้าว 115 ช่างก็ไปถูกแล้ว) พอไปถึงบ้าน ท่านก็ออกแบบให้ช่างติดตั้งขาตัว M ต้องติดอย่างนี้นะ ต้องติดอย่างนั้นนะ ต้องต่ำลงมาจากเสา 6 ซม.นะ มิเช่นนั้นจะไม่แข็งแรงนะเพราะด้านในไม่มีเหล็ก ต้องว่างตัว M ให้ได้กึ่งกลางนะ มิเช่นนั้นจะไม่สวย ต้องใช้พุกเหล็กนะ เสากลางต้องสูงเท่านั้นเท่านี้นะ  ตัว MIXER ต้องหันด้านเดียวกับกำแพงบ้านนะ และต้องอย่างนั้นอย่างนี้อีก ฯลฯ   พอติดตั้งเสร็จจ่ายสัญญาณเข้าสู่ระบบแล้ว  ก็ต้องขึ้นไปใช่ TAP-OFFและ SPLITTERS บนฝ่า และก็ขอให้เจ้าของบ้านบอกว่าทางขึ้นฝ่าว่าอยู่ตรงไหนและให้เจ้าของบ้านพาไป  โดยทั่วไปเจ้าของบ้านก็แค่พาไปชี้จุดทางขึ้น ก็จบ จากนั้นช่างก็จะขึ้นไปทำงานเองโดยไม่ต้องให้เจ้าของบ้านพาขึ้นบนฝ่า แต่บ้านนี้ไม่เป็นเช่นนั้น  พอช่างขึ้นไปแล้ว เจ้าของบ้านมีบ่นเล็กน้อยถึงปลานกลางว่าขึ้นไปได้ยังไง ขึ้นก็ไม่มีทางหาเจอหรอกว่าสายอยู่ตรงไหน  ต้องรอผมพาไป ใจร้อนจังเลย   และแล้วเจ้าของบ้านก็ขึ้นไป ผลออกมาไม่ใช่ขึ้นไปช่วยให้ช่างทำงานได้เร็วขึ้นนะครับ  แต่ขึ้นไปขัดขวางการทำงานของช่างให้ช้าลง  เรื่องก็มีอยู่ว่า บ้านหลังนี้ได้ออกแบบระบบไว้ 2 ระบบ คือ ระบบUBCไว้  5  จุดและสายอากาศทีวีไว้ 8 จุด   ทีนี้เรื่องเกิดก็ตรงนี้เหละ พอเจ้าของบ้านคนเก่งขึ้นไปเพื่อบอกช่างว่าสายเส้นไหนเป็นเส้นไหน แต่พอขึ้นไปท่านเจ้าของบ้านแกหาสายไม่เจอว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน ที่แกหาไม่เจอ เพราะรหัสลับที่ช่างไฟทำไว้ให้มันไม่เป็นสากล ที่ถูกต้องคือต้องแยกสีไปเลย ตามที่ผมเคยเขียนไปไหนตอนที่ผ่านๆมาเช่นสีดำเป็น UBCสีขาวเป็นของทีวี เรื่องก็ไม่เกิด หรือจะให้ดีกว่านี้ก็ให้เขียนชื่อติดว่าที่สายเลยครับ จะได้รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน จะได้จ่ายสัญญาณถูกเส้นที่ต้องการใช้ แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้นไว้ เรื่องเลยเกิด และแกก็ไม่ยอมให้ช่างหาให้ แกเล่นถือสายทั้งหมดไว้ในมือคนเดียวคือท่านหมั่นใจเต็มร้อยว่าแกต้องรู้และถ้าแกไม่รู้ช่างยิ่งไม่มีทางจะรู้ได้ แกคงไม่รู้ว่าช่างเรามีความสามารถในการหาสายนำสัญญาณสูงมาก เพราะเราหาอยู่ทุกวันหาทุกงานหามาเป็นสิบๆปีแล้ว เพราะบ้านทุกบ้านก็ทำมาแบบนี้เหละ ด้วยเหตุว่าแก่หมั่นใจมากเกินไป ทำให้งานไม่สามารถเดินต่อได้ จนนานมากหลายชั่วโมงผ่านไปในที่สุด ก็ต้องให้ทางเราเช็คสัญญาณจากข้างล่างให้ คือว่า ก็ทำแบบที่ช่างเขาทำกันประจำนั้นเหละ  คือเอาทีวีไปต่อสายที่จุดที่ต้องการรับภาพรอไว้ แล้วให้ช่างที่อยู่บนฝ่าจ่ายสัญญาณมาทีละเส้นจนกว่าจะเจอ (จนกว่าภาพหน้าจอจะชัด)เรื่องยังไม่จบนะครับ  พอเจอสายจุดต่างๆเสร็จหมดแล้ว ผมและทีมงานก็นึกว่าปิดงานได้แล้ว ที่ไหนได้ ท่านเจ้าของบ้านกับมีความคิดใหม่เกิดขึ้นมาอีก ว่า จะจัดระบบใหม่โดยให้จุดรับทีวีทั้ง 4  จุดของชั้นล่างให้ต่อกลับ SPLITTERS และจุดรับทั้ง  4 จุดด้านบนให้ต่อกับ TAP-OFF  ดังนั้น ทางทีมงานก็ต้องทำงานแบบเดิมๆอีกหนึ่งครั้ง เพื่อให้รู้ว่าสายเส้นไหนเป็นของชั้นล่างเพื่อจะได้เอามาต่อกับ SPLITTERS (ถึงตรงนี้บอกตรงๆว่าช่างเริ่มมีอาการ เซ็ง เกิดขึ้นครับ) เมื่อเสร็จจากเรื่องนี้ก็เป็นอันว่าจบเรื่องการจ่ายสัญญาณ จากนั้นทีมช่างที่อยู่บนฝ่า ก็ลงมาพร้อมกับท่านเจ้าของบ้าน และก็ดูภาพกัน ผลออกมา ช่อง 5และ ช่อง 7 มีเงาเล็กหน่อย ทำให้เจ้าของบ้านผิดหวังอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขให้ท่านได้ เนื่องด้วยสถานที่ ที่จะติดตั้งถูกออกแบบมาเป็นแบบตายตัวไม่สามารถย้ายได้ดังนั้น ท่านเจ้าของบ้านก็ต้องยอมรับสภาพไปครับ และผมก็ขอบอกเพื่อนๆทุกท่านให้ทราบเลยว่า ในเขตนี้ช่อง 5-7 เงาเป็นเรื่องปกติครับ แต่จะเงามากหรือเงาน้อยก็ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละที่ครับ
****จากประสบการณ์ที่ผมเล่าให้เพื่อนๆฟัง  เพื่อนๆหรือท่านที่กำลังสร้างบ้านหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง คงจะทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วครับว่า
1.สายแต่ละเส้นควรที่จะแยกให้ชัดเจน มันเป็นตัวบอกถึงความรู้และความเป็นสากลของชิ้นงานของผู้ที่ออกแบบชิ้นงานนะครับ
2.การติดหลอดไฟบนฝ่า เพื่อใช้ในตอนขึ้นฝ่าจะได้มองอะไรต่ออะไรได้ ข้อนี้ผมว่าสำคัญมากๆนะครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นมีบ้านที่ทำกันหรือผู้ออกแบบระบบทำกัน มากนะ  นานๆจะเห็นสักหลังหนึ่งที่ขึ้นไปบนฝ่าแล้ว ปิดไฟได้ด้วย 
 อย่างไรก็ตามผมก็แค่บอกให้รู้ถ้าผู้ใดเห็นว่าดีก็เอาความคิดหรือแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ได้ ถ้าผู้ใดเห็นว่าไม่จำเป็นก็ไม่เป็นไรและผมก็หวังอย่างยิ่งว่า สังคมเราจะ เจริญ ขึ้นนะครับ ก้าวหน้าขึ้น ไปเรื่อยๆ นะครับ    ดูรูปที่ 1 ประกอบ