ท่องไปกับใจตน-ชมเพลินเกินห้ามใจมหกรรมปั้นทรายโลก

"...ตอกย้ำ ทำดีได้ดี สิ่งนี้ที่เป็นศักดิ์ศรี รู้ไหม ทำดีเข้าไป ถึงไหนก็ไม่มีโง่ เกิดเป็นคนทนโท่ โอ้โห ทำดีได้ดี..."

อยู่ดีๆ เพลง "ทำดีได้ดี" ของพี่น้องสองศรีแห่งวงการดนตรี อัศนี-วสันต์โชติกุล ก็ผุดพรายขึ้นในอารมณ์ ขณะนั่งมองผู้คนมากมายกำลังกราบสักการะหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งลุ่มน้ำบางปะกง ฉะเชิงเทรา คิดเล่นๆ ว่าแต่ละวันมีสาธุชนหลั่งไหลมากราบไหว้ท่านนับหมื่น ถ้าทุกคนอธิษฐานขอท่านแค่คนละอย่าง หลวงพ่อท่านจะแบกรับคำอธิษฐานไว้หนักอึ้งเพียงใด?

เลยตัดสินใจก้มกราบท่านเฉยๆโดยไม่ร้องขออะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือได้ตอกย้ำความมั่นใจว่าถ้าคิดดี พูดดี ทำดี ย่อมได้รับสิ่งดีๆ ตามหลักเหตุและปัจจัย หรือ "อิทัปปัจยตา" ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบสัจธรรมข้อนี้มานานกว่า 2,500 ปีแล้ว อยู่ที่ตัวเราชาวพุทธจะหมั่นเพียรปฏิบัติตาม หรือจะเฝ้ารบเร้าร้องขอจากท่านลูกเดียว เหมือนคำสั้นๆ ที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรี สั่งสอนลูกศิษย์ชาวศิลปากรว่า "...นายคิดถึงฉัน นายทำงาน..." ฉันใด ถ้าคนไทยนับถือพระพุทธเจ้า พึงต้องทำความดีฉันนั้น!

เมืองแปดริ้วแผ่นดินหลวงพ่อพุทธโสธร แต่เก่าก่อนผู้คนจากทั่วสารทิศมุ่งไปกราบไหว้ แล้วก็ซื้อ "ขนมจาก" ต้นตำรับรุ่นที่ยังใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เป็น "แพ็กเกจจิ้ง" สุดจ๊าบกลับบ้านไปคนละห่อ เพราะไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อ มา พ.ศ.นี้ ลุ่มน้ำบางปะกง กลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสุขใจใกล้เมือง รับกับพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อโสธรหลังใหม่ มูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท คือพอกราบหลวงพ่อเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ล่องเรือออกปากน้ำบางปะกงที่อ่าวไทย ไปทักทายคุณโลมา ตัวเป็นปลาแต่เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนคน ที่สำคัญเป็น "โลมาอิระวดี" ที่ใกล้สูญพันธุ์จากลุ่มอิระวดีแดนพม่าแล้ว แต่ยังชุมนุมกันคึกคักที่นี่ แถมขี้เล่นชอบตีลังกาโชว์อีกต่างหาก

หรือจะล่องเรือทวนน้ำบางปะกงกินลมชมวิวป่าชายเลนที่ยังสมบูรณ์ ขึ้นไปจนถึง "ตลาดบ้านใหม่" ที่ใหม่แต่ชื่อ แต่ตัวจริงเป็นตลาดไม้ชายน้ำเก่าแก่กว่าร้อยปีจนเข้าขั้นคลาสสิก แถมของกินอร่อยเพียบ โดนใจทั้งนักชม นักช็อป นักชิม และนักถ่าย (ภาพ) แล้วถ้ายังไม่จุใจ ขากลับจะแวะตลาดร้อยปีอีกแห่งหนึ่งของแปดริ้วคือ "ตลาดคลองสวน" ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ...ก็ยังได้

ล่าสุดมีงานศิลปะระดับโลกมาจัดแสดงให้ชมกันที่เมืองแปดริ้ว แต่พอไม่ใช่ที่ กทม. ข่าวคราวเลยออกจะเงียบไปสักนิด นั่นคือ "มหกรรมปั้นทรายโลก" (World Sand Sculpture Festival) งานแสดงประติมากรรมทรายในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 12 ไร่ ใช้ทรายมากกว่า 4 หมื่นตัน ในการก่อสร้างประติมากรรมชิ้นเยี่ยมกว่า80 ชิ้น จากฝีมือนักปั้นทรายมืออาชีพระดับโลกกว่า70 คน จากเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก ไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และไทย โดยแบ่งเป็นโซนประติมากรรมทรายเฉลิมพระเกียรติ โซนประติมากรรมทรายวรรณประวัติไทยและโซนประติมากรรมทรายนานาชาติ จัดแสดงมาตั้งแต่ปลายปี2550 เนื่องในโอกาสปีมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และจะแสดงต่อไปเรื่อยๆ โดยเพิ่มชิ้นงานให้มากขึ้นเป็นระยะ

ที่ผมประทับใจคืองานปั้นทรายแต่ละชิ้นสามารถต่อยอดความคิดไปสู่องค์ความรู้มากมายหลายแขนง เช่น การตีความพระราชกรณียกิจออกมาเป็นประติมากรรมทราย รูปโครงการฝนหลวง เรือไมโครมด ทรงดนตรีแจ๊ส ชาวเขาในโครงการหลวง ฯลฯ หรือการคัดสรรฉากเด่นในวรรณคดีไทยออกมานำเสนอด้วยทรายปั้น เช่น ฉากสุดสาครขี่ม้านิลมังกร ฉากหนุมานแปลงกายอ้าปากอมพระตำหนักของพระรามไว้ เพื่อป้องกันไมยราพมาลักพาตัว แต่ที่ดึงดูดความสนใจอย่างมาก คือโซนที่นำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศต่างๆ เป็นประติมากรรมทรายนานาชาติ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่ากังหันลม ดอกทิวลิป รองเท้าไม้เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของเนเธอร์แลนด์ แต่ถ้าพูดถึงสเปนก็ต้องนึกถึงระบำฟลามิงโก้ และกีฬาสู้วัวกระทิง

ที่แปลกกว่าใครคือเบลเยียมมีรูปปั้นเด็กยืนฉี่ หรือ "เมนนาเคนพีส" (Mannaken Pis) เป็นเอกลักษณ์ที่คนทั่วโลกรู้จัก ใครเห็นก็ต้องขำหรืออมยิ้ม แต่น้อยคนจะรู้ว่าที่มาของ "บักหำน้อย" หรือ"เจ้าไข่นุ้ย" คนนี้มาจากตำนานเล่าขานว่า กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กน้อยเกิดพลัดหลงกับพ่อที่เมืองหลวงบรัสเซลส์ จน 5 ปีต่อมา พ่อมาเจอเจ้าหนูกำลังยืนฉี่ราดรดเปลวเพลิงที่กำลังเผาผลาญบรัสเซลส์จนดับมอดลง ชาวเมืองจึงยกย่องเจ้าหนูเป็น "พลเมืองกิตติมศักดิ์" ถึงขั้นสร้างอนุสาวรีย์ให้ ที่สำคัญคือในอดีต เบลเยียมตกอยู่ใต้อำนาจกดขี่ของเยอรมนีบ้าง อังกฤษบ้าง ฝรั่งเศสบ้าง เจ้าหนูยืนฉี่จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพในจิตใจชาวเบลเยียม ที่อยากทำอะไรได้อย่างอิสรเสรี โดยไม่ต้องมีใครมาเป็นเจ้านายคอยบงการ

นี่คือกระบวนการเรียนรู้ภูมิสังคมผ่านงานศิลปะการไปชมงาน "มหกรรมปั้นทรายโลก" จึงไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง(Entertainment) ไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็ไม่เคร่งเครียดเหมือนไปเรียนหนังสือ (Education) หากแต่เป็นความบันเทิงที่มีสาระ (Edutainment) ซึ่งถือเป็นแนวโน้มใหม่ของความบันเทิงในโลกปัจจุบันแบบที่มีนักปรัชญาการศึกษาสรุปเป็นคำสั้นๆ ว่า "เพลิน" ซึ่งมาจากคำว่า"เพลย์" (play) แปลว่าเล่นบวกกับ "เลิร์น" (learn) ที่แปลว่าเรียน

"มหกรรมปั้นทรายโลก" จัดที่ลานด้านข้างห้างคาร์ฟูร์ถนนศรีโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากวัดหลวงพ่อโสธรแค่ 800 เมตร สนใจรายละเอียด โทร.0-3851-5120-1 หรือ คลิก www.thaisandcity.co m ถ้าไปชมช่วงวันที่26-30 มีนาคมนี้ ยังแวะไปงาน "เทศกาลท่องเที่ยวมะม่วง อาหารและของดีอำเภอบางคล้า" ณที่ว่าการอำเภอบางคล้า ได้อีกด้วย ในงานมีกิจกรรมให้ "เพลิน" กันทั้งครอบครัว แต่ที่แน่ๆ ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกมะม่วงมากที่สุดถึงกว่า 6 หมื่นไร่ ใครๆ จึงรู้ว่าไม่มีมะม่วงที่ไหน สุดยอดไปกว่ามะม่วงแปดริ้วอีกแล้วล่ะคุณ!