วัตต์ rms
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 26, 2024, 03:51:25 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัตต์ rms  (อ่าน 12194 ครั้ง)
marnop nuamdoang ♥
วีไอพี
member
***

คะแนน100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 19, 2008, 12:22:39 pm »

ทานใดทราบวิธีคำนวนวัตต์ rms ของเพาเอ่อร์แอมป์บ้าง ช่วยตอบด้วยขอบคุณครับ


บันทึกการเข้า

midi sound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 19, 2008, 08:11:56 pm »

นี่เลยครับ    P  = กำลังขยาย (Wrms)
                   E  = แรงดัน out put ( V ) 
                   I   = กระแส out put ( A )
                   R  = Impedance ของลำโพง (โอห์ม)
สูตร    P = E.I
          P = I.R.I
          P = E.E/R
     
    ................... ................  Wink   ..........  ลองคำนวนดูครับ Tongue
บันทึกการเข้า
dekwat♥
member
*

คะแนน458
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 19, 2008, 09:35:20 pm »

รู้สึกเคยผ่านตาอยู่กระทู้ไหนจำไม่ได้แล้วครับ
คร่าว ๆ  นะครับ  P = E.E/R
สมมติว่าเราต่อดัมมี่โหลด 8(R) โอมห์  ด้านเอาท์พุทเพาเวอร์แอมป์   จากนั้นปล่อยสัญญาณ 1 กิโลเฮิร์ต เข้าด้านอินพุทเร่งจนสัญญาณคลิป ตั้งมิเตอร์ย่าน AC วัดสัญญาณขาออกว่าได้เท่าไหร่
สมมติอีกแหละว่า วัดได้ 50(E) โวลท์     ก็จะได้     P = 50*50/8           
                                                                                P = 2500/8
                                                                                P = 312.5
เพาเวอร์แอมป์เครื่องนี้ มีกำลัง 312.5 วัตต์ที่โหลด 8 โอมห์
บันทึกการเข้า
marnop nuamdoang ♥
วีไอพี
member
***

คะแนน100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 19, 2008, 10:50:29 pm »

ขอบคุณมากครับที่มีความเมตตาช่วยตอบ
บันทึกการเข้า
kakinang_live
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 22, 2008, 04:20:17 pm »

r ดัมมี่โหลดเป็นยางไงไม่เคยเห็นเห็นแต่เขาเรียกมีรูปลงให้ดูหน่อยครับ
บันทึกการเข้า
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 23, 2008, 02:23:19 am »

ดัมมี่โหลด  ก็คือ  ความต้านทานเสมือนเป็นโหลดจริง

อย่างวงจรขยายเสียงต้องการลำโพงเป็นโหลดที่มีค่าความต้านทานรวม(ความต้านทานไฟสลับ+ความต้านทานไฟตรง)เป็น 8 โอห์ม   เมื่อเราประกอบวงจรเสร็จอยากจะทดลองวัดค่ากำลังของเครื่องได้เท่าไร  ครั้นจะเอาลำโพงมาต่อแล้วทดลอง  ก็จะมีเสียงดังรบกวนชาวประชากันขนาดไหน  ยิ่งถ้าวงจรทำงานไม่สมบูรณ์ พังขณะที่ทดลอง  ลำโพงที่ต่อไว้ก็มีสิทธิ์พังตามไปด้วย  เขาก็เลยใช้  สิ่งที่เป็นตัวต้านทานทางไฟฟ้า ทำให้มันได้ความต้านทานเท่ากับที่วงจรต้องการ  สมมติว่า 8 โอห์ม 1000 วัตต์  อาจจะใช้ไส้ความร้อนของเตาอบ  หรือหลอดไฟแบบไส้  หรือตัวต้านทานค่าสูงหน่อยและวัตต์พอประมาณเอามาต่อขนานกันเข้าไปให้มันได้ความต้านทานกับค่ากำลังได้ 8 โอห์ม 1000 วัตต์  ควรจะเป็นความต้านทานเพียวๆ  ที่ไม่มีผลกับเรื่องของสัญญาณ AC อย่างพวกขดลวด  แล้วค่อยมาต่อกับวงจรขยายเสียงที่เราจะทดลอง  เมื่อเราทดลองก็จะไม่มีเสียงไปรบกวนชาวบ้านเหมือนใช้ลำโพงจริงๆต่อเข้ากับวงจร
นะครับท่าน
บันทึกการเข้า
kakinang_live
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 23, 2008, 04:41:42 pm »

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ขดลวดเตาอบมีอิมพิแดน 8 โอม ผมไม่เคยทำเคยแต่ เสร็จก็เสียบลำโพงเลย

ถ้ามีดำมี่โหลดเราก็ทำการทดลองสัก ครึ่งวันช่วงเวลากลางคืนได้อย่างสบายใจไม่มีเสียงรบกวนแต่ทดสอบเหมือนจริง

ผมเข้าใจถูกใหม่

แล้วถ้า 1000w เนี่ยไม่ใช่ มันร้อนจนแดงวาบเลยหรือเปล่า แล้วถ้าเราไม่นั่งเฝ้าก็มีโอกาสไฟไหม้บ้านได้ด้วย

ที่ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ
บันทึกการเข้า
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 23, 2008, 07:10:51 pm »

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ขดลวดเตาอบมีอิมพิแดน 8 โอม ผมไม่เคยทำเคยแต่ เสร็จก็เสียบลำโพงเลย

ถ้ามีดำมี่โหลดเราก็ทำการทดลองสัก ครึ่งวันช่วงเวลากลางคืนได้อย่างสบายใจไม่มีเสียงรบกวนแต่ทดสอบเหมือนจริง

ผมเข้าใจถูกใหม่

แล้วถ้า 1000w เนี่ยไม่ใช่ มันร้อนจนแดงวาบเลยหรือเปล่า แล้วถ้าเราไม่นั่งเฝ้าก็มีโอกาสไฟไหม้บ้านได้ด้วย

ที่ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ

 -  ใช้ โอห์มมิเตอร์  วัดเอา   ถ้ามันเป็นความต้านทานเพียวๆ ก็ใช้ได้เลย  แต่ถ้ามีความต้านทานทางกระแสสลับจากการที่โหลดเป็น L ก็ต้องหา อิมพีแดนซ์ อีก แล้วทำให้มันได้ 8 โอห์มจากการคำนวณ อิมพีแดนซ์  ไม่ใช่เอาโอห์มมิเตอร์มาวัด

 -  เข้าใจถูกเก่า(เข้าใจถูกแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว เก่าแล้ว)  ไม่ได้เข้าใจถูกใหม่

 -  ไม่รู้ว่ามันจะแดงวาบหรือเปล่า  อาจจะแดงระเรื่อ ระเรื่อ ก็ได้  ไม่ก็แดงจายวาย  หรือ อาจจะ แดงแจ๊ดแจ๋ ก็ได้ครับ

  จะเอาหลอดไฟกลมไส้หลอดธรรมดา ขนาด 220 โวลท์ 100 วัตต์  มาต่อขนานกัน 60 หลอด ก็จะมีความต้านทานประมาณ 8 โอห์ม ทนกำลังได้ 6000 วัตต์ ครับ  เอามาทำเป็น ดัมมี่โหลดได้อยู่  จะเอามาลองแอมป์ได้ไม่เกิน 6000 วัตต์ครับ  แต่ไม่รู้ว่าใครจะลงทุนทำขนาดนี้หรือเปล่า เพราะยุ่งยาก  สิ้นเปลือง
  ใครมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้ครับ 
 

 
บันทึกการเข้า
taud
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 23, 2008, 11:09:42 pm »

ขอผู้รู้จริงมาตอบเถอะ ที่ผ่านมายังจริงไม่หมด ต้องมีคนรู้กว่านี้นะ
บันทึกการเข้า
FIR2029
วีไอพี
member
***

คะแนน19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839


FIR2029@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 24, 2008, 01:00:13 am »

เห้อ........น่าเศร้าใจจริงๆ
ลองยกกรณีตัวอย่างมาสิครับ เผื่อ จะมีใครมาเล่าให้ฟัง ว่าคิดยังไง
บันทึกการเข้า

การเสียสละของเราเพียดนิด  อาจเป็นหนทางสว่างของใครหลายๆคน
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 24, 2008, 07:12:05 am »

ขอผู้รู้จริงมาตอบเถอะ ที่ผ่านมายังจริงไม่หมด ต้องมีคนรู้กว่านี้นะ


ใช่  ใช่  ใช่   ว่าแต่ว่า  ใครล่ะ    Sad
บันทึกการเข้า
supasorn
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


BLACK MAN_MUSIC

kaongammee@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 26, 2008, 12:52:25 am »

About Power
We already discussed a little bit about power - RMS and PMP ratings. Well, RMS is what matters, here, because it is needed in order to use some simple mathematics. (Don't scream. I'm no good at maths so it HAS to be simple!)

Supposing you decide that you can afford a 1000 Watt RMS Amp and four 300 Watt speakers. Never mind the cost, think about the power.

Most amps are about 80 percent efficient at best. That means that 20 percent of the input power is wasted as heat. So, to get 1000 Watts out, you have to put 1250 Watts of energy in. Where does this come from?

NO! Not the stereo, you idiot! I knew you'd say that.
The energy comes from the BATTERY. (The stereo equipment just supplies the signal).

OK, so it's a 12 volt battery in most vehicles (which is usually giving 12 - 13 volts in practice - call it 12.5 volts) and there's a simple mathematical formula.

Watts = Volts x Amps

So, to get 1250 Watts out of a 12.5 volt battery we need 1250/12.5 = 100 Amps !!!

Now, just use your imagination. Your average car starter motor needs about 100 Amps to turn the engine over. Imagine the engine won't start. How long will the battery last while the starter motor turns the engine? Two minutes continuously? Maybe 5 minutes if the battery is fully charged.

Oops!

So, you've gotten your car to the car park, opened the rear lid, there's your beautiful sub, amps and speakers on display and you are broadcasting to the town....

for 5 minutes - then you are asking for a push-start Shocked(

Are you going to look Kool or Fool ?

So, you have a problem. Your car alternator supplies maybe 45 Amps (check your handbook). 45 Amps at 12.5 volts gives you 562.5 Watts continuously as long as your engine runs. Bearing in mind the 80 percent rule, your amplifier will produce just 450 Watts. Pump up the volume and your battery goes flat (at best. At worst, the battery plates buckle and your alternator burns out!)

Fitting an additional or larger battery gives you a few more minutes but that's all. You either make do with a 450 Watt Amp or else you fit a bigger alternator (or two).

But, hey! Why are we worrying. If you can *afford* a 1000 Watt RMS Amp, you can afford to get the electrics uprated, yes? Shocked)
Heat

I want to backtrack to the top of this page. I mentioned that an 80 percent efficient Amp wastes 20 percent of the power going in as heat. So, out of 1250 Watts going in, 250 Watts is coming out of the heatsink fins and the metal casing as HEAT.

Where's it gonna go? Have you ever held a 250 Watt light bulb in your hand while it's on? No, you don't want to try it.

So, the Amp has to be positioned where it can get rid of that heat, otherwise it'll get hotter and hotter and hotter and..

Did you ever wonder why Karl keeps on burning out his Amps? Could it be because he fixes them under the carpet under the front passenger seat? Think about it. Maybe he didn't think about it. Maybe the guy who sells these Amps didn't bother to TELL him. ( Who would you rather buy off. A guy who tells it like it is or a guy who says it's all your fault but he'll sell you another replacement for "only" 500 quid? )

OK, here's a little secret: Hot air rises.

You knew that already! But you always thought "well, if it *can't* rise it just *has* to go sideways".

WRONG! Hot air rises. If it can't rise, it just gets hotter. The only way to move it sideways is to physically move it - with a fan, for example, or a breeze of air from an open door or window.

So, here's what you must do;
Mount the Amp so that its heatsink fins are vertical - this allows maximum airflow to take the heat away.
Mount the Amp near the bottom of a large chamber (eg. a car boot space) with as much air space above as possible. Hot air will be able to rise above the Amp.
Mount the Amp firmly to a metal surface with heatsink compound on the mating surfaces. This allows maximum heat transfer between the Amp and the metal surface.
Oh, yeah, and for goodness sake, mount it where it won't get wet!
บันทึกการเข้า
supasorn
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


BLACK MAN_MUSIC

kaongammee@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 26, 2008, 01:01:28 am »

About Power
We already discussed a little bit about power - RMS and PMP ratings. Well, RMS is what matters, here, because it is needed in order to use some simple mathematics. (Don't scream. I'm no good at maths so it HAS to be simple!)

Supposing you decide that you can afford a 1000 Watt RMS Amp and four 300 Watt speakers. Never mind the cost, think about the power.

Most amps are about 80 percent efficient at best. That means that 20 percent of the input power is wasted as heat. So, to get 1000 Watts out, you have to put 1250 Watts of energy in. Where does this come from?

NO! Not the stereo, you idiot! I knew you'd say that.
The energy comes from the BATTERY. (The stereo equipment just supplies the signal).

OK, so it's a 12 volt battery in most vehicles (which is usually giving 12 - 13 volts in practice - call it 12.5 volts) and there's a simple mathematical formula.

Watts = Volts x Amps

So, to get 1250 Watts out of a 12.5 volt battery we need 1250/12.5 = 100 Amps !!!

Now, just use your imagination. Your average car starter motor needs about 100 Amps to turn the engine over. Imagine the engine won't start. How long will the battery last while the starter motor turns the engine? Two minutes continuously? Maybe 5 minutes if the battery is fully charged.

Oops!

So, you've gotten your car to the car park, opened the rear lid, there's your beautiful sub, amps and speakers on display and you are broadcasting to the town....

for 5 minutes - then you are asking for a push-start Shocked(

Are you going to look Kool or Fool ?

So, you have a problem. Your car alternator supplies maybe 45 Amps (check your handbook). 45 Amps at 12.5 volts gives you 562.5 Watts continuously as long as your engine runs. Bearing in mind the 80 percent rule, your amplifier will produce just 450 Watts. Pump up the volume and your battery goes flat (at best. At worst, the battery plates buckle and your alternator burns out!)

Fitting an additional or larger battery gives you a few more minutes but that's all. You either make do with a 450 Watt Amp or else you fit a bigger alternator (or two).

But, hey! Why are we worrying. If you can *afford* a 1000 Watt RMS Amp, you can afford to get the electrics uprated, yes? Shocked)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!