เตือนนักแคมปิ้งระวัง "ไรป่า" กัดถึงตาย

เตือนนักแคมปิ้งระวัง "ไรป่า" กัดถึงตาย

เตือนภัยนักท่องเที่ยวเข้าป่าสัมผัสธรรมชาติ อาจถูกไรป่ากัด ติดเชื้อไข้รากสาดใหญ่ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ สสจ.เชียงใหม่ เผยยอดผู้ป่วยล่าสุดสูงเกือบสามร้อยคน

นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าและกางเต็นท์พักแรมในช่วงฤดูหนาวระวังการติดเชื้อไข้รากสาดใหญ่ โดย นพ.วัฒนา กาญจนกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ กล่าวเตือนภัยนักท่องเที่ยวเข้าป่าสัมผัสธรรมชาติว่า อาจติดเชื้อสครับไทฟัส หรือไข้รากสาดใหญ่ จากการถูกไรป่ากัด จนอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยขณะนี้มีผู้ป่วยไข้รากสาดใหญ่จากการถูกไรป่ากัด ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแม่อาย 91 คน โรงพยาบาลสะเมิง 46 คน และโรงพยาบาลแม่แจ่ม 32 คน ซึ่งจำนวนผู้ป่วยดังกล่าวเป็นจำนวนที่สูงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

สำหรับผู้ป่วยที่ถูกไรป่ากัด ในช่วงแรกจะมีรอยแดงบริเวณที่ถูกกัด หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วัน จะกลายรอยคล้ำคล้ายถูกไฟบุหรี่ หรือธูปจี้ตามผิวหนังทั่วร่างกายจนกลายเป็นแผลเป็น จากนั้นจะมีอาการปวดหัวรุนแรง มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย และหนาวสั่น และหากผู้ป่วยเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน อาจทำให้สมองและปอดติดเชื้อจนเสียชีวิตได้ในที่สุด

นายแพทย์ สสจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินป่า และกางเต็นท์นอนชมธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้ ต้องแต่งกายให้มิดชิด นอนในเต็นท์ที่ปิดมิดชิด และหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในพุ่มไม้ และหลังเดินทางออกจากป่า หากมีอาการไข้ให้รีบพบแพทย์พร้อมแจ้งด้วยว่ากลับมาจากป่า เพื่อให้แพทย์จัดยารักษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อสครับไทฟัส