งูเห่าพันธุ์ใหม่ใหญ่สุดในโลก พิษร้ายฉกเดียวตายได้ถึง 20 คน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 22, 2024, 07:34:18 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: งูเห่าพันธุ์ใหม่ใหญ่สุดในโลก พิษร้ายฉกเดียวตายได้ถึง 20 คน  (อ่าน 6888 ครั้ง)
winai4u-LSV team
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน673
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3025



« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2007, 04:14:45 pm »

เนชันแนลจีโอกราฟิก/เอเอฟพี - งูเห่ายักษ์ "นาจา เอาเชอิ" แห่งแอฟริกา นอกจากได้รับการบันทึกว่าเป็นพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบที่ใดมาก่อนแล้ว ยังได้รับการบันทึกอีกว่าเป็นงูเห่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์รู้จัก แถมปริมาณพิษร้ายแรงที่ปล่อยได้จากการฉกเพียงครั้งเดียว ทำมนุษย์ตายได้ถึง 20 คน

เจ้าหน้าที่จากไวล์ดไลฟ์ไดเรค (WildlifeDirect) ในเคนยา ประกาศเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า พวกเขาค้นพบงูเห่ายักษ์สายพันธุ์ใหม่ ทั้งดุร้ายและมีพิษร้ายแรง โดยสามารถฆ่าคนกว่า 20 รายแค่กัดเพียงครั้งเดียว อีกทั้งเป็นงูเห่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะเมื่อโตเต็มที่งูเห่าชนิดนี้จะมีความยาวได้กว่า 2.6 เมตร
     
      งูเห่ายักษ์นี้ได้รับการตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า "นาจา อาเชอิ" (Naja ashei) ตามชื่อเจมส์ อาเช (James Ashe) ผู้ค้นพบที่ล่วงลับไปแล้ว โดยงูเห่าอาเชปรากฎตัวเป็นครั้งแรกที่ฟาร์มเพาะเลี้ยงงูไบโอ-เคน ที่อาเชเป็นผู้ก่อตั้ง (Bio-Ken Snake Farm research center) ในเมืองวาตามู ประเทศเคนยา (Watamu, Kenya) เมื่อเดือนมิ.ย.47
     
      แม้ว่าอาเชผู้ค้นเชื่อว่าพบงูชนิดนี้แตกต่างจากงูเห่าอื่นๆ แต่เบื้องต้นได้รับการบรรจุให้อยู่ในสายพันธุ์เดียวกับงูเห่าคอดำ และเมื่อภายหลังนำเลือดและเนื้อเยื่อไปพิสูจน์ว่าเป็นงูสายพันธุ์ใหม่ หนึ่งใน 30 สายพันธุ์งูเห่าที่รู้จักกัน และนับเป็นงูเห่าสายพันธุ์ที่ 6 ที่พบในแอฟริกา
     
      อย่างไรก็ดี เมื่อนำงูเห่า "นาจา อาเชอิ" ไปคัดพิษพบว่าสามารถหลั่งพิษได้สูงสุดที่ 6.2 มิลลิลิตร นับเป็นปริมาณพิษสูงสุดที่ได้จากงูในการคัดพิษเพียงครั้งเดียว ซึ่งพิษจำนวนนั้นมากพอที่จะคร่าชีวิตมนุษย์ได้ถึง 20 คน
     
      งูเห่าสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถพบได้ตามที่ราบแห้งแล้งทางภาคเหนือและตะวันออกของเคนยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูกันดา รวมทั้งภาคใต้ของเอธิโอเปียและโซมาเลีย แต่พบบ่อยที่สุดในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งของเคนยา
     
      ทั้งนี้ องค์ความรู้ในการจำแนกสายพันธุ์ของงูเห่ายังมีจำกัด โดยเมื่อพิจารณาข้อมูลทางชีวภาพและลักษณะทางสัณฐานวิทยาระหว่างงูเห่าดำและน้ำตาล ทำให้เห็นว่าเกิดความแตกต่างระหว่างวิวัฒนาการของแต่ละเชื้อสาย รวมถึงลักษณะเฉพาะของงูเห่าแอฟริกาตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ
     
      ด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้งูสายพันธุ์นี้ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แต่ก็ควรได้รับการอนุรักษ์ เนื่องจากเสี่ยงต่อผลกระทบจากการกระทำและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ โดยเชื่อว่านอกจากงูสายพันธุ์นี้ ก็น่าจะมีสัตว์ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักอีกหลายชนิดที่กำลังสูญพันธุ์จากผลกระทบของการถูกรุกล้ำ
ถิ่นที่อยู่อาศัย

เครดิต : www.manager.co.th


บันทึกการเข้า

Liang
member
*

คะแนน16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 399


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2007, 06:26:56 pm »

           ดูภาพแล้วน่ากิน  เอ้ย  น่ากลัวครับ   ถ้าอยู่แถวบ้านผมจะจับผัดเผ็ดซะเลย  ผัดเผ็ดงูเห่าเป็นสิ่งที่ผมชอบทานมาก
เมื่อก่อนผมชอบไปหาจับงูตอนกลางคืน    งูเห่ามันชอบมาหากินกบเขียดริมบ่อน้ำ     แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันกว่าจะได้อาหารอันโอชะ
             ขอติงนิดนึงครับ    เจ้าหน้าที่ก็คุยโวเกินไป    งูพิษต่อให้มีพิษร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะฉกครั้งเดียวทำให้คนตายถึง
20 คนหรอกครับ   ถ้าฉก20ครั้งผมจะเชื่ออยู่หรอก   ร่างกายคนเราไม่ได้ต่อกันนะครับ     
บันทึกการเข้า
somkeat_sin
วีไอพี
member
***

คะแนน71
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 484


รักและเข้าใจ คือหัวใจผู้บริหาร


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2007, 08:18:12 pm »

ในสารคดีคงหมายถึงจำนวนน้ำพิษมากกว่าที่มากพอจะทำให้คนตายได้20คน
บันทึกการเข้า

somkeat_sin
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!