ใครชอบทานรถด่วนบ้าง..บอกกันมั่ง....
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 02:02:18 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครชอบทานรถด่วนบ้าง..บอกกันมั่ง....  (อ่าน 5707 ครั้ง)
watchareeya
member
*

คะแนน175
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 08, 2007, 11:10:17 pm »

“รถด่วน” สุดยอดอาหารบำรุงสมอง 


รถด่วนทอด หรือ หนอนเยื่อไผ่ เป็นเมนูเด็ดที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยมากมักพบขายรวมอยู่กับแมลงทอด ไม่ว่าจะเป็นตั๊กแตน ด้วง จิ้งหรีด แต่ที่แตกต่างจากแมลงทั่วไปคือ หนอนเยื่อไผ่เป็นอาหารชั้นดี มีราคาแพง หากินได้ยาก และยังบำรุงสมองอีกด้วย

มนัชยา มรรคอนันตโชติ นักวิชาการ หัวหน้าฝ่ายการแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลเม็งราย จ.เชียงราย ได้ทำการวิจัยการจัดการป่าเพื่อได้อาหารจากป่าอย่างยั่งยืน ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หนอนใยไฝ่หรือด้วงไม้ไผ่มีชื่อเรียกหลายชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น
       
       เช่น ภาคเหนือ เรียกว่า “แด้ไผ่หรือด้วงไผ่” ชาวเขาอีก้อ เรียกว่า “ฮาโบลัว” เผ่ากะเหรี่ยงเรียกว่า “คลีเคล้อะ” ชาวพม่าเรียกว่า “จูซุง” ซึ่งหนอนเยื่อไผ่เป็นตัวหนอนของผีเสื้อกลางคืน(moth) สกุล Pyralidae และจัดอยู่ในพวกแมลงเขตร้อน พบมากในภาคเหนือและภาคอีสาน
       
       มนัชยา บอกว่า รถด่วนเป็นอาหารที่บริโภคในท้องถิ่นมาเป็นระยะเวลายาวนาน และมีความเชื่อว่า หนอนเยื่อไผ่จะอร่อยที่สุดในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคมซึ่งเป็นช่วงที่หนอนอยู่ในระยะฟักตัว รสชาติของหนอนเยื่อไผ่จะมีกลิ่นหอมและมัน นอกจากจะนิยมนำไปคั่วกับเกลือหรือทอดแล้ว ยังสามารถใช้ประกอบอาหารหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นคั่ว ตำน้ำพริก อบทรงเครื่องเป็นที่ถูกอกถูกใจของทั้งเด็กและผู้ใหญ่
       
       สำหรับ ข้อมูลด้านโภชนาการพบว่า หนอนเยื่อไผ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปริมาณ 100 กรัม มีโปรตีน 25.5 กรัม มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 8 ชนิด เช่น leucine tyrosine lysine ฯลฯ นอกจากนี้มีคาร์โบไฮเดรต 11.0 กรัม ไขมัน 55.3 กรัม เถ้า 3.7 กรัมแคลเซียม 41.1 กรัม ฟอสฟอรัส 356.0 มิลิกรัม เหล็ก 2.7 กรัม โพแทสเซียม 609.2 มิลลิกรัม พลังงาน 643.7 กิโลแคลอรี่ ดังนั้น หนอนเยื่อไผ่จึงถือเป็นอาหารที่ช่วยสร้างเสริมบำรุงสมอง รับประทานง่าย ย่อยง่าย แต่วิธีรับประทานที่ถูกต้องก็ควรรับประทานตามฤดูกาลเพื่อช่วยไม่ให้หนอนเยื่อไผ่ถูกทำลายจากการเก็บในปริมาณมากเพื่อการขายตอบสนองการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
       “รถด่วนเป็นอาหารที่ได้จากธรรมชาติจึงปลอดภัยจากสารเคมี 100% แต่ปัจจุบันมีนักวิจัยหันมาให้ความสนใจหนอนเยื่อไผ่มากขึ้น มีการเพาะเลี้ยงเร่งให้ฮอร์โมนซึ่งน่าจะส่งผลเสียต่อวงจรชีวิตของหนอนเยื่อไผ่และรสไม่อร่อยเท่ากับหนอนเยื่อไผ่ในธรรมชาติ”
       
       มนัชยา อธิบายว่า วงจรชีวิตของหนอนเยื่อไผ่จะกินเยื่อไผ่ กว่าจะเก็บนำมารับประทานได้ หนอนเยื่อไผ่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในปล้องไม้ไผ่ประมาณ 8-9 เดือน เริ่มจากผีเสื้อกลางคืนวางไข่ลงบนกาบของหน่อไม้ ที่กำลังแตกกอในช่วงฤดูฝนจากนั้นหนอนจึงฟักตัวออกมาอาศัยและกินอาหารอยู่ในลำต้นไผ่ ผ่านการลอกคราบหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นตัวเต็มวัยและแพร่พันธุ์ต่อไปเป็นวรจรชีวิต ซึ่งในช่วงที่ชาวบ้านเก็บหนอนเยื่อไผ่นั้นจะเป็นช่วงที่ หนอนเยื่อไผ่อยู่ในระยะฝังตัว ตัวหนอนมีสีขาวบริสุทธิ์ ลำไผ่ 1 ปล้อง จะได้หนอนเยื่อไผ่ 2-3ขีด และไผ่ทั้งลำจะได้หนอนเยื่อไผ่ 7-8 ขีด ซึ่งจะขายได้ราคากิโลกรัมละ 200 บาท และสามารถเก็บไว้ได้ 2-3 ปี แต่หากลวกแล้วสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งเก็บไว้ได้นานเช่นกัน
       
       “หนอนเยื่อไผ่จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งของอาหารประเภทโปรตีนที่มีประโยชน์สารอาหารครบถ้วน เหมาะสำหรับเด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์ สำหรับหนอนเยื่อไผ่ หรือรถด่วนทอดที่ขายทั่วไป คุณค่าทางอาหารลดลงไปมากเนื่องจากกรรมวิธี ขั้นตอนการปรุงที่ไม่ถูกต้อง และอาจจะได้ของแถมจากการใช้น้ำมันเก่าทอดครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย ดังนั้นการปรุงอาหารรับประทานเองจึงทำให้ได้ประโยชน์จากอาหารมากกว่า”
       มนัชยา สรุปทิ้งท้ายว่า แหล่งโปรตีนจากป่ายังมีอีกหลากหลายชนิด ที่สามารถสลับผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น รังผึ้ง น้ำผึ้ง ตัวต่อ แตน มิ้ม ไข่มดแดง ไข่มดฮี้ ด้วงกุดจี่เบ้า จักจั่น แมลงกินูน แมลงตับเต่า ตั๊กแตน แมลงกระชอน แมลงดานา ซึ่งแมลงเหล่านี้เป็นแมลงที่มีคุณค่าทางโภชนาการมีโปรตีนสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป สิ่งสำคัญคือจะต้องรู้จักบริโภค รู้จักรักษาป่าซึ่งเป็นที่มาของแหล่งอาหารธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์
       
       สารพัดสูตรอร่อย คั่ว ทอด ข้าวปั้น “หนอนเยื่อไผ่”
       เคล็ดลับการประกอบอาหารจากหนอนเยื่อไผ่ด้วยตนเองแบบอร่อยถูกใจ มีหลักวิธีง่ายๆ ที่สำคัญ คือ ควรซื้อหนอนสดๆ ใหม่ๆ ในช่วงที่อร่อยที่สุด คือ ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม แล้วนำมาประกอบอาหาร สำหรับสูตรอาหารนี้เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตกทอดสั่งสมกันมานาน…
       
       เมนูแรก หนอนเยื่อไผ่คั่ว ก่อนอื่นล้างหนอนให้สะอาดแล้วนำไปลวกในน้ำต้มเดือดจนสุก นำลงกระทะ ใส่เกลือเล็กน้อย ยกตั้งไฟอ่อนๆ คนไปมาตลอดเวลาจนน้ำหนอนแห้งงวดและคนจนหนองพองตัวแล้วไม่ยุบ จะมีสีเหลืองอ่อนๆ กรอบอร่อย ยกขึ้นจากกระทะแล้วรับประทานได้ทันที
       
       ส่วนหนอนเยื่อไผ่ทอด วิธีทำไม่ต่างจากการคั่วมากนัก คือ หลังจากล้างและลวกจนสุกก็ยกขึ้นตั้งไฟพอน้ำงวดดีก็ใส่น้ำมันลงไปทีละน้อยและคนจนหนอนพองไม่ยุบตัวจะมีสีเหลืองอ่อนๆ พอกรอบตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันออก แล้วเอาเกลือป่นคลุกให้มีรสพอดี
       
       หากครัวไหนไม่ชอบรับประทานแบบทอด หากที่บ้านมีเตาไมโครเวฟก็สามารถนำเข้าเตาอบใส่เกลือเล็กน้อย หรือปรุงได้ตามใจชอบทั้งเนย น้ำตาล ซอส ใช้เวลาอบ 10-15 นาที ก็ได้รสชาติดีไม่แพ้กัน

       เมนูเด็ดถัดมา เป็นหนอนเยื่อไผ่ทรงเครื่อง โดยการนำหนอนที่ผ่านการปรุงและอบกรอบแล้วนำมาคลุกกับหอมแดง ใบเตย และใบมะกรูดหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแห้งทอดกรอบรับประทานกับใบชะพลูโดยไม่จำเป็นต้องปรุงรสเพิ่ม และหากต้องการเอาใจเด็กๆ ก็สามารถดัดแปลง หนอนเยื่อไผ่ เป็น ข้าวปั้นหนอนเยื่อไผ่ โดยนำข้าวเหนียวนึ่งปั้นกับหนอนที่ปรุงรสเรียบร้อยแล้ว เพิ่มสีสันหน้าตาด้วยการห่อสาหร่ายก็กลายเป็นของโปรดของเด็กในทันที
       
       นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำน้ำพริกหนอนเยื่อไผ่ ด้วยวิธีการทำง่ายๆ นำพริกหนุ่มปิ้งไฟจนสุกปอกเปลือกออก 100 กรัม หอมแดงหมกไฟปอกเปลือกออก 5 หัว กระเทียม 1 หัว เกลือ 1 ช้อนชา เอาทุกอย่างมารวมกันโขลกให้ละเอียด และเอาหนอนเยื่อไผ่ที่คั่วหรือลวกสุกใส่แล้วโขลกพอแหลกให้เข้ากันกับเครื่องปรุง ใส่ต้นหอมผักชี2-3ต้น รับประทานกับข้าวและมีผักลวงจิ้มเช่น หน่อไม้ เป็นเครื่องเขียง จะเข้ากันได้ดี
ภาพและข่าวจาก หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!