LCD (Liquid Crystal Display)เป็นจอภาพที่ใช้อยู่ในเครื่องโน้ตบุ๊ค และกำลังได้รับความนิยมในเครื่องเดสก์ทอป เนื่องจากมีขนาดเล็ก ไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน มีสีสันที่สวยงาม ความละเอียดที่พัฒนาขึ้นมาก และราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนสามารถซื้อหามาใช้งานได้อย่างไม่ลำบากนัก จอ LCD มี 2 แบบใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบ Active-matrix LCD (AMLCD) หรือเรียกว่า TFT (Thin Film Transister) กับแบบ Passive-matrix LCD หรือเรียกว่า STN (Super Twisted Nematic) หรือบางครั้งเรียกว่า แบบ Dual Scan STN (DSTN) ปัจจุบันนิยมใช้งานแบบ Active-matrix มากกว่า
หลักการทำงานของจอ LCDจอภาพ LCD จะประกอบด้วยชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น ได้แก่
ชั้นในสุดเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ ทำหน้าที่ให้แสงสว่างออกมา
Diffuser เป็นกระจกฝ้าทำให้แสงที่กระจายออกมามีความสว่างสม่ำเสมอ
Polarizer เป็นฟิลเตอร์ที่ยอมให้คลื่นแสงในแนวใดแนวหนึ่งผ่านได้ เช่นแนวนอน แต่ไม่ยอมให้แสงอีกแนวหนึ่งผ่านไป เช่นแสงแนวตั้ง
Glass substrate ชั้นแก้วที่ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับขั้ว electrode
Liquid crystal ชั้นของผลึกเหลว
แผ่นแก้ว ทำหน้าที่ปิดผนึกไว้ไม่ให้ผลึกเหลวไหลออกมาได้
Polarizer มีฟิลเตอร์อีกชั้นหนึ่งที่วางทำมุมกับฟิลเตอร์เดิม 90 องศา ถ้าเป็นจอสีจะมีฟิลเตอร์สี ( แดง,เขียว,น้ำเงิน) ก่อนถึงตัวฟิลเตอร์นอกสุด
ในการทำงานของจอภาพ เริ่มจากปล่อยแสงออกจากหลอดไฟ ผ่าน Diffuser ออกมา เมื่อแสงผ่านตัว Polarizer แสงที่กระจัดกระจายจะถูกกรองให้เหลือแต่คลื่นแสงในแนวนอน จากนั้นแสงจะมากระทบที่ชั้นผลึกเหลว ซึ่งจะถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าที่ไหลผ่านขั้วไฟฟ้าบน Glass substrate ผลึกเหลวที่ถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจะมีการบิดตัวของโมเลกุล โดยบิดมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณไฟฟ้าที่ใส่เข้าไป โดยจะบิดตัวได้มากที่สุด 90 องศา ลำแสงที่ตกกระทบผลึกเหลวจะมีการบิดตัวตามไปด้วย เมื่อแสงเดินทางมาถึงตัว Polarizer ชั้นนอก คลื่นแสงที่บิดตัวเป็นมุม 90 องศาก็จะผ่านได้ เกิดเป็นจุดสว่างบนจอภาพ
เครดิต
Se-edปล.วงจรผมมี ถ้าอยากได้ส่งแผ่นเปล่ามาหาผมจะไลท์ส่งไปให้ฟรีครับ