วอลลุ่มมาสเตอร์ค่าเท่าไรดี

[sompop]

อยากทราบว่าวอลลุ่มมาสเตอร์หน้าเพาว์เวอร์แอมป์ควรมีค่าเท่าไรดี 100Kหรือ50K ค่าน้อยหรือค่ามากดีกว่า และถ้าไม่ใส่ต่อสัญญาณอินพุท  เข้าโดยตรงกับผ่านวอลลุ่มอย่างไหนจะดีกว่าครับ

[BenQ]

100KA ครับ หากค่าน้อย เวลาเบาเสียงจะมีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมาได้ครับ 

[หลง สุรินทร์]

100KB ครับ  คงไม่ต้องถามรายละเอียดหรอกนะครับ ว่าทำไมต้องใช้ค่านี้

[พรเทพ-LSV team♥]

น้อง Q ทำอะไร?ครับ  
(เลียนแบบหรือล้อเลียนครับ)

[พรเทพ-LSV team♥]

ตกลงว่า แบบ A หรือแบบ B ครับ ผม งง ครับ   

[BenQ]

น้อง Q ทำอะไร?ครับ  
(เรียนแบบหรือล้อเรียนครับ)

ทั้งเลียนแบบและล้อเลียนพี่เทพครับ    

แบบ A คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับความดังของเสียง

แบบ B คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับเสียงทุ้ม แหลม

[พรเทพ-LSV team♥]

เอามาฝากครับ เพื่อนๆจะได้เข้าใจแบบถูกต้องและเข้าใจง่ายขึ้นครับ 

[BenQ]

ขอบคุณครับ                        

[sab]

น้อง Q ทำอะไร?ครับ  
(เรียนแบบหรือล้อเรียนครับ)

ทั้งเลียนแบบและล้อเลียนพี่เทพครับ    

แบบ A คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับความดังของเสียง

แบบ B คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับเสียงทุ้ม แหลม

แก้ไขให้ :-ครับ
แบบ A คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับความดังของเสียง
แบบ B คือ แบบที่เมื่อปรับแล้ว ค่าความต้านทานจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง  ส่วนใหญ่จะใช้ในการปรับเสียงทุ้ม แหลม
 

[หลง สุรินทร์]

ผมใช้ แบบA ปรับทุ้มแหลม
ผมใช้ แบบ B ปรับเสียง....................
ดูจากค่า log แล้วคงเข้าใจนะครับ ..............

[BenQ]

ยืนยันแบบพี่เทพครับ ................

ชัวร์แท้แน่นอน 

[nongsound]

ผมเคยเห็นแบบ Eและแบบ Cครับอยู่ตามcrossover แต่แบบEนี้กราฟเป็นยังไงครับใครทราบบอกหน่อย

[win]

ขึ้นอยู่กับ input impedance ของวงจรอย่าให้ห่างกันมาก
เช่นถ้า 47k ก็ใช้ 50-100k หรือ 22k ก็ใช้ 10-20k จะดี หรือใช้น้อยกว่า input imp ก็ได้
ยิ่งค่ามากเกินไป ก็จะเกิด น้อยซ์ได้ง่ายเพราะว่ากระแสโหลด VR จะน้อย ทำให้ น้อยซ์จะขยับ
เข้าใกล้กับกระแสโหลดมากขึ้น
ถ้าใช้ค่า VR น้อยๆ เสียงจะเร็วและสดเบสจะดูเหมือนหาย
ถ้าใช้ VR ค่ามากๆเสียงจะออกหนาๆ ดูเหมือนแหลมจะหายไป

ส่วนจะใช้แบบไหนให้ใช้ แบบ A เพราะว่าลักษณะของเสียงจะคล้ายๆกับความไวของหูคนเรา
ส่วนแบบ B จะใช้กับ Tone ที่ต่อวงจรแบบ BAXANDALL
แบบ C ใช้กับ Tone ที่ต่อแบบ passive ที่สมัยก่อนต่อกัน แต่ก็จะมีเอามาใช้กับแบบ active เหมือนกันโดยต่อท้าย ตรง output ของจงจรหรือ opamp แล้วค่อยป้อนกลับไปชดเชย
ซึ่งต่างกับ BAXANDALL ที่ผ่านชุด tone network ก่อนเหมือนในลักษณะ inverting amp

แบบ B จะใช้กับ Volume ก็ได้แต่การปรับละเอียดเวลาจะฟังเบาๆถึงปรานกลางจะปรับได้ลำบาก แบบ A จะปรับดังค่อยช่วงแรกๆได้ละเอียดแล้วจะกระโดดตอนท้ายๆ