คนหาปลาที่หลายคนไม่เคยรู้ท่านคือ ดร.สุรพล สินเกตุนักล่าปลาหมอคางดำปริญญาเอก 3ใบ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 21, 2024, 04:12:41 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คนหาปลาที่หลายคนไม่เคยรู้ท่านคือ ดร.สุรพล สินเกตุนักล่าปลาหมอคางดำปริญญาเอก 3ใบ  (อ่าน 949 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2024, 07:03:24 am »



ดร.สุรพล สินเกตุ คนหาปลาราชบุรี

หลายคนเห็น  คงคิดว่าเป็นแค่คนหาปลา 
แต่ประวัติไม่ธรรมดา เป็นถึงนักเรียนทุน “ อานันทมหิดล ”
ปริญญาเอก 3 ใบ จบกลับมาทำงาน
เขียนขั้นตอนโครงการพระราชดำริ
สมัย ร. 9  กว่า  4,000  โครงการ
ปัจจุบันเป็นจิตอาสาสอนพิเศษนักเรียนฟรี
อยู่ที่บ้านเกิดราชบุรี และเป็นนักล่า
ปลาหมอคางดำมาทำแดดเดียว   

ใครคงเห็นคุณลุงเสื้อแดง ใส่หมวกกันน๊อคน้ำเงิน   
ที่ชอบขี่รถจักรยานยนต์ใช้แหออกตระเวนหาปลา
ไปตามลำคลองต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี
และ จ.สมุทรสงคราม อยู่เป็นประจำ
เพราะลุงคือนักล่าปลาหมอคางดำในยุคแรก ๆ
ที่ยังไม่มีการระบาดมากหนัก
เอามาทำเป็นอาหาร จนปัจจุบันปลาหมอคางดำ
กลายเป็นปัญหาแพร่ระบาดอยู่ในช่วงนี้
ทุกวันยามว่างลุงสุรพล  ได้นำแหไปเหวี่ยงหาปลา
นำมาทำเมนูอาหาร ต้มยำ แกงเขียวหวาน
ทอดแดดเดียว บางครั้งหาปลาได้เยอะ
ก็จะเอาไปแจกชาวบ้านด้วย 

จากการสอบถามเรื่องราวชีวิตของลุงสุรพล
อย่างละเอียดช่วงที่ออกหาปลาในพื้นที่ตำบลสามเรือน
ทราบว่า  นอกจากชอบหาปลาเป็นชีวิตจิตใจแล้ว
ลุงยังใช้เวลาว่างในการสอนหนังสือฟรี
ให้กับนักเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ช่วงวันหยุด
จะมีพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่รู้จักประวัติของลุงสุรพล
ติดต่อพาลูกหลานเข้ามาเรียนที่อาคาร
ตั้งอยู่เลขที่ 65 / 282 ถนนคฑาธร อ.เมือง จ.ราชบุรี 
อีกทั้งเป็นคนที่ชอบสระสมเหรียญสตางค์
และ แบงค์เก่า ๆ จำนวนมากมีแทบทุกรุ่น

จากการไปนั่งดูลุงสุรพล สอนวิชาคณิตศาสตร์
ที่สอนเทคนิควิธีการคิดคำนวณที่แปลก
ส่วนวิชาภาษาอังกฤษ จะสอนไม่เหมือน
การเรียนการสอนทั่วไป 
เด็กแต่ละคนที่มาเรียนพิเศษ
ลุงจะสัมภาษณ์เพื่อทดสอบความรู้
การเรียนว่ามีไอคิวหรือความรู้ที่เข้าใจ
ในแต่ละวิชาเรียนมากน้อยแค่ไหน
โดยมีผู้ปกครองที่ว่างจากงานมาร่วมฟัง
การเรียนการสอนด้วยในบางครั้ง 
แต่หลายคนไม่เคยรู้เลยว่าลุงสุรพล
ที่เคยใช้แห่เหวี่ยงหาปลา
ดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ มีปริญญาถึง 3 ใบ 

วันนี้จึงพาไปรู้จักกับลุงสุรพล คือ

ดร.สุรพล  สินเกตุ อายุ 67  ปี 
ได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตว่า 
ตนเองเป็นนักเรียนทุน “ อานันทมหิดล ” 
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ 

จนจบการศึกษาปริญญาเอกใบที่ 1   
สาขาวิศวกรรมการออกแบบเครื่องจักรกล จากประเทศเยอรมัน 
เมื่อปี   พ.ศ.  2532   

ปริญญาเอกใบที่  2  จบปรัชญาการเมืองการปกครอง จากมหาวิทยาฮาร์วาด  สหรัฐอเมริกา 
เมื่อปี พ.ศ.  2536   

ปริญญาเอกใบที่  3   จบยกร่างกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา
ปี  พ.ศ.  2538 


หลังจบมาแล้วได้เข้าทำงานรับหน้าที่เขียนยกร่าง
ขั้นตอนการนำไปปฏิบัติให้กับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริ มากกว่า  4,000  โครงการ 
สมัยที่ยังคงอยู่รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน 
แต่ปัจจุบันอายุเริ่มมากขึ้นจึงได้ขอหยุดพักผ่อนชั่วคราว   
แต่ช่วงหยุดพัก ก็ยังเป็นจิตอาสา
สอนพิเศษให้กับเด็กที่สนใจเรียนฟรี
วิชาคณิตศาสตร์ที่สอนเทคนิคการคิดคำนวณ
ที่รวดเร็วและแม่นยำ  ส่วนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษนั้น
จะเน้นกิริยาตัวหนึ่งอย่างน้อยต้องผันให้ครบ 5 เท้นท์ ที่ใช้พูด

ดร.สุรพล  สินเกตุ กล่าวว่า  การเป็นจิตอาสาสอนหนังสือนั้น 
เพราะเห็นคนไทย และเด็กไทย 
ส่วนใหญ่ที่เรียนแล้วใช้ระบบตัดเกรด 
คนที่ได้เกรดต่ำกว่า  3  จะมีปัญหา
เรื่องภาษาอังกฤษ กับคณิตศาสตร์ ค่อนข้างมาก

คนที่เก่งจะต้องเรียนภาษาได้  คือ
ภาษาสอนให้คนให้สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ 
คณิตศาสตร์สอนให้รู้จักคิดเป็น
และรู้จักวางแผนเป็นขั้นตอนเป็นระบบ 

ตนเองจบวิศวกรรมการออกแบบเครื่องจักรกล จากประเทศเยอรมัน 
จบปรัชญาการเมืองการปกครอง จากมหาวิทยาฮาร์วาด 
จบยกร่างกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอแนล สหรัฐอเมริกา 

เป็นทุนเล่าเรียนหลวง
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง  3  ทุน 
เกิดจากเงินบริจาคของตระกูลใหญ่ในประเทศไทย
เวลาสอนเด็ก ๆ จะสอนว่า 
ถ้าเข้าใจให้ขอบคุณพระเจ้าอยู่หัว 
อย่าลืมนึกถึงบุญคุณของคนที่ส่งให้เรียน   
หลังจบมาจากเมืองนอก
หน้าที่ของตนเองแล้วแต่พระองค์ท่าน
เพราะเรียนด้วยทุนหลวง
จึงเป็นจิตสำนึกที่จะต้องปฏิบัติต่อยอดให้กับคนอื่น ๆ 

ตลอดระยะเวลาที่ทำงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา 29  ปี 
ตอนที่พระองค์ท่านเสด็จพระดำเนินไม่ได้ 
แต่โครงการยังมีและคนที่จะสานงานต่อ คือ   องคมนตรี
ซึ่งจะต้องมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ 
ท่าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ท่านดูเรื่องมูลนิธิชัยพัฒนา 
ท่านประสงค์ พิทูรกิจจา คนราชบุรี 
ซึ่งท่านอยู่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ 
จะมีนักวิชาการกว่า  50  คน 

คนจบดอกเตอร์ที่เป็นนักเรียนทุน
เป็นใครก็จะรับหน้าที่ของตัวเองไปทำแต่ละด้านที่เรียนมา 
ส่วนตนเองมีหน้าที่เขียนขั้นตอนเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ 
เขียนขั้นตอนนำไปปฏิบัติใช้ 
ซึ่งนักวิชาการอื่น ๆ เขาได้เขียนมาหมดแล้ว 
ว่าอันนี้เป็นอย่างไร แก้ไขปัญหาอย่างไร   
เวลาสอนนักเรียนจะบอกวิธีคิด ทำระบบ คือ
ได้ไปเรียนยกร่างกฎหมายมาแล้ว
คิดว่าเป้าประสงค์แรกที่พระเจ้าอยู่หัวให้ไปเรียน
คงจะให้มาเขียนยกร่างพระราชดำรัส 
เป็นการเขียนขั้นตอน
พระองค์ท่านคงเห็นความสามารถเรื่องตรงนี้   

ส่วนการสอนนักเรียนฟรี ผลการเรียนของเด็กปรากฏว่า 
ไม่เห็นคุณค่า  มาเรียนบ้าง ไม่มาบ้าง 
แต่ผู้ปกครองต้องการให้สอน
เนื่องจากสอนแล้วประสบความสำเร็จ เช่น
เด็กสมาธิสั้นมาเรียนกับตน แล้วสอบได้ที่  1   
เรียนอยู่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ
จึงบอกให้สอบเข้าเรียนนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลปรากฏว่าสอบเข้าได้ติดคนที่   1   
พอเรียนจบจุฬาฯแล้วให้ต่อปริญญาโท
และให้สอบเนติบัณทิตไทย จะได้เป็นผู้พิพากษา
หรือ อัยการ ผลปรากฏว่าเขาได้เป็นผู้พิพากษาแล้วในปัจจุบัน   


ตนเองใช้การสรุปจากข้อสอบเก่าหลายปี
อย่างเคยสอบได้ที่  1  ของประเทศ
เป็นเพราะความขยันเอาข้อสอบประมาณ  10  ปีมานั่งทำ
แล้วมาเขียนว่าข้อไหนเหมือนกัน
คิดว่าที่เหมือนกันคงมีความสำคัญ 
จนสามารถสอบเทียบ มศ.  5  ได้

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มีรับสั่งให้ตนเข้าเฝ้า เพราะเห็นชื่อ
จากที่ได้คะแนน  98.28   คะแนน
รับสั่งจะพระราชทานทุนให้ไปเรียน 
ตนเองบอกกับพระองค์ท่านว่า
ต้องการเป็นบาทหลวง
ขออนุญาตเรียนเป็นบาทหลวง
พระองค์มีรับสั่งว่า “ งั้นตามใจลูก ” 
หลังจากที่ตนเองจบจากที่นี่แล้ว  จริง ๆ
จะต้องไปเรียนที่บ้านเณรกลาง ที่ จ.นครราชสีมา 
และเตรียมเข้าแสงธรรม 
สำหรับการใช้ภาษาตอนนี้มีหลายภาษา
แต่หากไม่ได้ใช้ก็จะทำให้หลงลืมได้
จึงจำเป็นต้องพูดทุกวัน  คิดว่าถ้ากลับมาสอนเด็ก ๆ
จะได้ไม่หลงลืม อย่างภาษาอังกฤษ
เด็กจะได้คำศัพท์ จากที่ลงมือเขียนจำได้แน่นอน

โดยตลอดระยะเวลา  29  ปี ที่ผ่านมา
ซึ่งได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่  9  มานั้น
ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้
และคงเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะต้องกลับไปทำงาน
เขียนขั้นตอนการปฏิบัติให้กับหน่วยงาน
โครงการต่าง ๆ ในปัจจุบันอีกครั้ง 
         
นี้คือประวัติของคนหาปลา
ที่หลายคนไม่เคยรู้ 
ท่านคือ ดร.สุรพล  สินเกตุ 
นักล่าปลาหมอคางดำ
ปริญญาเอก 3 ใบ

โดย:ดุสิต จิรภัทรากร

โค๊ด:
https://www.siamrath.co.th/n/554222

 ping!


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!