https://www.pohchae.com/2024/06/17/illegal-oil-ship/เจอแล้ว! เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป โผล่สงขลา ของกลางเหลือไม่ครบ
#เรือน้ำมันเถื่อน #โผล่สงขลา
-------
16 มิ.ย.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ยืนยันว่า พบเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ พร้อมลูกเรือบางส่วนเรียบร้อยแล้ว ตำรวจน้ำกำลังนำเรือเข้าฝั่งที่อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา
โดยรายละเอียดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) เป็นผู้แถลงข่าวที่กองกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา..
ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยหลังจากเดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือ และขอความร่วมมือ ในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป ระบุว่า ช่วงบ่ายวานนี้ พบเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว ที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า น้ำมันบางส่วนหายไป เหลือไม่เต็มจำนวน ลูกเรือจากจำนวน 16 คน ตอนนี้ เหลือเพียง 8 คน เท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือ พบว่า มีความพยายามที่จะอำพราง โดยการเปลี่ยนแปลงสีของเรือน้ำมันของกลางอีกด้วย
จากการสืบสวนเบื้องต้น เชื่อว่า เรือทั้ง 3 ลำ เข้าเทียบท่าที่ประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว และมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งฯน้ำมันบางส่วนหายไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จากประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ออกตรวจลาดตระเวนทางทะเล ทำให้เรือทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเรือในกัมพูชา แล้วออกสู่น่านน้ำ เพื่อที่จะหลบหนี
แต่ทั้งนี้ จากการประสานกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถค้นพบเรือทั้ง 3 ลำ ที่บริเวณดังกล่าว และจะนำเข้าฝั่งภายในวันนี้ (17 มิย. 67) โดยเรือหนึ่งใน 3 ลำ ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ จึงต้องเข้าฝั่ง พร้อมกับอีกสองลำที่เหลือ ซึ่งสามารถขับได้ตามปกติ
ขณะที่ ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ ตำรวจน้ำนำเรือไปควบคุมเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ กลับเข้าน่านน้ำไทย และนำกลับเข้าเทียบเรือตำรวจน้ำ 7 สงขลา คาดว่าจะถึงไม่เกินเที่ยงวัน โดยตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะร่วมกันแถลงข่าวเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
มีรายงานว่า ตำรวจได้รับขอมูลจาก นายเล็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกเรือของเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งความจริงจะต้องขึ้นเรือด้วย แต่เนื่องจาก นายเล็ก เมา ทำให้ไม่ได้ขึ้นเรือไปด้วย
นายเล็ก บอกว่า จะไปเกาะกูด แล้วไปน่านน้ำกัมพูชา ซึ่งนายโจ้เป็นคนสั่งการ ให้เรือย้ายน้ำมันขึ้นบอกที่กัมพูชา แต่พอเจอเรือที่สงขลา ทำให้เชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อลวงเจ้าหน้าที่
น้ำมันที่สูญหาย 3.3 แสนลิตร มูลค่าประมาณ 10 ล้าน เชื่อว่าคนร้ายประมาณ 10 คน น่าจะเอาไปขายให้เรือที่กลางทะเล
เชื่อว่าเป็นการใช้ประสบการณ์ แล้วคำนวนจากแผนที่ แล้วตั้งใจนำน้ำมันไปขายกลางทะเล แล้วปล่อยให้ตำรวจ
แต่อีกกระแสก็บอกว่า ความจริงแล้ว ตัวน้ำมันไม่สำคัญเท่าตัวเรือ ซึ่งทำให้เชื่อว่าต้องการนำเรือหนีมากกว่า
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีออกหมายเรียกลูกเรือ 16 คน ที่ไม่ได้ไปกับเรือบรรทุกน้ำมันที่หายไป มาสอบปากคำที่ บก.ปอศ. ในวันจันทร์นี้
ขณะนี้ ได้ออกหมายเรียกไปเรียบร้อยแล้ว นัดหมายช่วงเช้า แต่จะมาครบหรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งหากไม่มา และไม่แจ้งเหตุผลที่เหมาะสม ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนจะออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยยืนยันว่าหากพยานหลักฐานสาวถึงใคร จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเองยอมไม่ได้ เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากระทำเช่นนี้ เหมือนล้วงคองูเห่า
ขณะที่ ผลการตำรวจสอบวินัยตำรวจน้ำที่ดูแลรับผิดชอบเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว ตามกรอบกำหนดให้ 30 วัน แต่ตนเองได้กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจน้ำเร่งสอบสวน ให้มีความคืบหน้าภายใน 7 วัน
โดยหากส่วนใดที่คืบหน้า หรือพบการกระทำความผิด ก็ให้ทยอยดำเนินการเบื้องต้นไปก่อน ตามพยานหลักฐานที่สาวไปถึง แต่เบื้องต้น พบว่า ตำรวจน้ำ 3 4 นายน่าจะเข้าข่ายบกพร่อง ทำให้เสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง ส่วนจะเข้าข่ายความผิดใดอื่นอีกหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ ยืนยันคดีนี้ไม่ล่าช้า ไม่ปล่อยให้ยืดยาวแน่นอน ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้
ส่วนกรณีที่มีคลิปวิดีโอลูกเรือคนหนึ่ง อ้างว่ามี เสธ.คนหนึ่งยังไม่ให้เอาเรือออกนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน เนื่องจากคำว่า เสธ. ประชาชนทั่วไปอาจใช้เรียกบุคคลธรรมดา ที่ไม่ใช่ เสธ. จริง ๆ ก็ได้..