เรซูเม resume สิ่งที่ผู้สมัครงานขาดไม่ได้
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 03:23:25 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรซูเม resume สิ่งที่ผู้สมัครงานขาดไม่ได้  (อ่าน 4370 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2023, 09:30:50 am »

https://www.pohchae.com/2023/08/05/resume
เรซูเม resume สิ่งที่ผู้สมัครงานขาดไม่ได้
#เรซูเม  #resume  #สมัครงาน
----------------


เรซูเม (ฝรั่งเศส: résumé) คือเอกสารที่สร้างขึ้นโดยบุคคลหนึ่ง เพื่อนำเสนอประวัติส่วนบุคคลทางด้านการทำงานของคนนั้น ๆ โดยแสดงถึงความสามารถในการทำงาน ความสามารถพิเศษ และรางวัลที่ได้รับ มีการใช้งานเรซูเมแตกต่างกันไปหลากหลายวิธี ในประเทศไทยนิยมใช้เรซูเมเพื่อการสมัครงานกันอย่างแพร่หลาย

เรซูเมโดยทั่วไปจะเป็นเอกสาร “สรุป” ประวัติของบุคคลนั้น ๆ อยู่ภายใน 1 หน้ากระดาษ โดยเน้นที่ประสบการณ์ทำงาน และการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร

เรซูเมนั้นแทบจะเป็นเอกสารชิ้นแรก ๆ ที่นายจ้างจะใช้เพื่อการคัดเลือกพนักงานใหม่ หรือคัดเลือกบุคลากรเพื่อการสัมภาษณ์ก่อนการจ้างงาน


ประวัติ
คำว่าเรซูเม มาจากรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศส résumé ซึ่งแปลว่า “สรุป” ผู้เขียนเรซูเมคนแรกของโลกคือ เลโอนาร์โด ดา วินชี โดยเขาเขียนสรุปประวัติของตนเองลงในจดหมายสมัครงาน เพื่อส่งถึงผู้ว่าจ้างชื่อ ลุโดวิโค สฟอร์ซา ในช่วงปี ค.ศ. 1481 – 1482 หลังจากนั้นก็นิยมใช้เรซูเมเพื่อเป็นเอกสารสรุปประวัติการทำงานส่วนบุคคล ในการสมัครงานกันอย่างแพร่หลาย มายาวนานกว่า 450 ปี

ในช่วงปี ค.ศ. 1900 เรซูเมจะเขียนสรุปเฉพาะรายละเอียดส่วนบุคคลเช่น น้ำหนัก ส่วนสูง เพศ และศาสนา แต่หลังจากปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา เรซูเมก็มีวิวัฒนาการมากขึ้นโดยเพิ่มรายละเอียดทางด้านประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ความสนใจส่วนบุคคล และงานอดิเรกเข้ามาด้วย จนถึงช่วงหลังสุดในปี ค.ศ. 1970 ที่เข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ เรซูเมได้มีวิวัฒนาการอีกครั้งหนึ่งเข้าสู่เอกสารสรุป ที่เน้นแสดงทักษะของตัวเองที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร

ชนิดของเรซูเม

1. Chronological resume – ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทำงาน ด้วยการเรียงลำดับช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยเริ่มจากตำแหน่งหรืองานล่าสุดที่เราทำไล่ไปจนถึงงานแรกที่เราเริ่มทำ ข้อได้เปรียบของการใช้ resume ประเภทนี้ก็คือ เป็นที่คุ้นเคยของคนทั่วไปรวมไปถึงผู้ว่าจ้าง และช่วยเน้นให้เห็นความต่อเนื่องในการทำงาน รวมไปถึงความเติบโตในทางหน้าที่การงานเราอย่างชัดเจน resume ประเภทนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานต่อเนื่อง และมีประสบการณ์หรือเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน

2. Functional resume (or skills resume) – ให้ความสำคัญกับทักษะและความสามารถด้านต่างๆ โดยการเน้นสิ่งที่เราสามารถทำได้หรือสิ่งที่เรามีทักษะ มากกว่าจะเน้นเรื่องลักษณะของงานหรือองค์กรที่เคยว่าจ้างเรา ข้อดีของ resume ประเภทนี้ก็คือ ผู้ว่าจ้างจะเห็นทักษะและความสามารถของเราได้อย่างชัดเจนและเราสามารถอำพรางจุดด้อยของเราได้ resume รูปแบบนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือขาดประสบการณ์การทำงานที่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เราควรคำนึงถึงความไม่เป็นที่แพร่หลายของ resume ประเภทนี้ไว้ด้วย

3. Combination resume – เป็นการผสมผสานระหว่าง resume สองประเภทที่ได้กล่าวมา โดยดึงจุดเด่นของ resume ทั้งสองประเภทนั้นมาใช้ กล่าวคือ เน้นทักษะและความสามารถของเราโดยใช้รูปแบบการเรียงลำดับตามช่วงเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี resume รูปแบบนี้กลับไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนักและอาจมีข้อเสียเปรียบบางประการ กล่าวคือ การผสมผสานรูปแบบต่างๆเข้าด้วยกัน อาจทำให้ resume ของเราไม่กระชับและกินความยาวหน้ากระดาษเกิน 1-2 หน้า..

เรซูเม่ใช้ทำอะไรได้บ้าง

ส่วนใหญ่แล้วในประเทศไทย เราจะใช้เรซูเม่กันเป็นหลักในขั้นตอนของ การสมัครงาน โดยผู้สมัครงานจะต้องเขียนสรุปประวัติส่วนตัวของตัวเอง เพื่อส่งให้กับผู้ว่าจ้าง HR ของบริษัท เพื่อพิจารณารับเข้าทำงาน

แต่ก็มีการใช้งานเรซูเม่ในรูปแบบอื่น ๆ อยู่บ้างประปราย แต่ล้วนแล้วก็จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสมัครต่าง ๆ ดังเช่น

●การสมัครเข้าเรียน บางแห่ง
●การสมัครรับทุน บางแห่ง
●การสมัครเข้าโครงการ บางแห่ง

ต้องใส่อะไรลงในเรซูเม่บ้าง

เรซูเม่ถือเป็น เอกสารสรุป ดังนั้นไม่ใช่ว่าคุณจะใส่อะไรก็ได้ลงไปในเรซูเม่ ในทางกลับกัน คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้อ่านต้องการอ่านข้อมูลอะไรบ้าง หลังจากนั้นคุณถึงจะใส่ข้อมูลสำคัญที่ผู้อ่านต้องการทราบเกี่ยวกับตัวคุณลงไปในเรซูเม่อีกทีหนึ่ง โดยทั่วไปของการสมัครงานแล้ว ผู้อ่านต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ เรียงตามลำดับความสำคัญ..

●ประสบการณ์ทำงาน
●รางวัล ความสำเร็จ (ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร)
●จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective)
●ประวัติการศึกษา
●สกิล และความสามารถพิเศษต่าง ๆ (ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร)
●ข้อมูลส่วนตัว
●รูปถ่ายผู้สมัครงาน (ไม่จำเป็น แต่ถ้าจะใส่ จะต้องเลือกรูปที่สุภาพเท่านั้น)

เรซูเม่ที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร

เมื่อคุณต้องการที่จะสร้างเรซูเม่ขึ้นมาใบหนึ่ง คุณควรจะต้องเห็นภาพกว้าง ๆ ก่อนว่าเรซูเม่ที่ดีเป็นอย่างไร คุณจึงจะสามารถสร้างเรซูเม่ที่ดีขึ้นมาได้ภายในครั้งแรกเลย..

●เรซูเม่ที่ดี จะยาวเพียงหน้าเดียวเท่านั้น
●เรซูเม่ที่ดี จะใช้ตัวอักษร (font) ที่อ่านง่าย อ่านได้ในทุกอุปกรณ์
●เรซูเม่ที่ดี จะใช้กระดาษขนาด A4 และการแบ่งขอบกระดาษที่เหมาะสม
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องเขียนด้วยภาษาอังกฤษ
แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียส และอยากจะ ใช้ภาษาไทยเขียนเรซูเม่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องเป็นไฟล์ PDF เท่านั้น
ส่วนไฟล์อื่นๆอย่าง docx / jpg / png แสดงให้เห็นว่าคุณทำงานไม่เรียบร้อย
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องน่าสนใจ โดยใช้ผู้อ่านเป็นที่ตั้ง
เมื่อเขียนเรซูเม่เสร็จแล้ว ลองใช้เช็คลิสต์นี้ตรวจทานดู สักรอบก่อนส่ง.


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!