รักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยวิธีการธรรมชาติ

ผม, ครูจริณ แก้วสนิท ครูเก่า วฉ. รายงานตัวครับ
ผมห่างหายไปนานด้วยว่าไปรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
ด้วยวิธีการธรรมชาติบำบัดสูตรของผม + การประยุกต์ความรู้จากคลิปในมือถือ
สนใจไหมครับ ?
ผมรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งฯ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 66 (วันครู)
กว่าได้ผ่าตัดก็ 18 ก.พ. ที่ มอ. ด้วยฝีมือของ
คุณหมอสิริพงศ์ ชีวธนกรณ์กุล
หมอฯ ส่งตัวให้ผมรักษาด้วยเคโมกับหมออีกคน เมื่อ 28 กพ.
ต้องกินยาเคโม 8 โดส ๆ ละ 21 วัน วันละ 7 เม็ด,
หลังอาหารเช้า 4 หลังอาหารเย็น 3 เม็ด
กินยาฯ 14 วัน หยุด 7 วัน แล้วเริ่มโดสที่สอง

ผมกินยาได้เพียง 7 วัน โดสแรก ผมโดดหนียาเคโม
ด้วยว่าแพ้ยาอย่างแรง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ กินไม่ได้
ถ่ายไม่ออก ผิวเนื้อดำคล้ำ (ปกติตัวผมก็ดำอยู่แล้ว)

7 มี.ค. ผมไปหาหมอเคโมที่ มอ. บอกเลิกการรักษาด้วยวิธีนี้
หมอ(ผู้หญิง) ถามผมด้วยความห่วงไยว่า ลุงรักษาวิธีไหน
ผมตอบว่า "วิธีของผม" หมอเกิดอาการงง

ในช่วงที่ผมกินเคโมโดสแรก
ผมเปิดมือถือพบคลิป
"บรรยาย การวิเคราะห์โรคจากเลือดและปัสสาวะ
เพื่อบำบัดโรคกลุ่ม NCDs"
ของคุณหมอบุญชัย อัครพิสิษฐ์
เวลาในคลิป 4 ชม.38 นาที
ผมดูคลิปนี้ไปเรื่อยๆจนถึง เวลาในคลิป ชม.ที่ 2.45 - 2.50 นาที
คุณหมอนำภาพเคลื่อนไหวของเม็ดเลือดขาว(WBC) ที่กำจัด (กิน) เซลล์มะเร็ง
ผมเกิดอาการ"ตาแจ้ง" ในการรักษามะเร็งขึ้นมาโดยพลัน

ต่อไปนี้เป็นวิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ของผม
ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ถึงวันที่ 24 เม.ย. 2566

1. กินน้ำมันกัญชาแบบเจือจาง
(สูตรของหมอเดชา ศิริภัทร - ผมได้มาจาก รพ. การแพทย์แผนไทยฯ กระทรวงสาธารณสุข
(โทรฯ 02 244 3261)โดย พท. สุเมธี นามเกิด พท. = แพทย์แผนไทย)
กินก่อนนอน 10 หยด, (บีบขวดน้ำมันฯ ลงในช้อนชานับให้ได้ 10 หยด)
น้ำมันกัญชาทำให้นอนหลับสนิทติดต่อกัน 6 - 8 ชม.
ทำให้ร่างกายฟื้นตัว มีการสร้างเม็ดโลหิตขาวที่สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อไปสู้กับมะเร็ง

2. กินน้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น 1 ช้อนโต๊ะ หลังตื่นนอนเช้า ก่อนแปรงฟัน
จะไปเสริมความแกร่งของเม็ดโลหิตขาว

3. (สำคัญที่สุด) ออกกำลังกายให้ร่างกายถูกแสงแดดอ่อนตอนเช้า หรือตอนเย็นวันละ 1 ชม.
ที่ผมทำ คือ ผมไปเดินที่สนามกิฬา ม.ทักษิณ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 08.00 น. ทุกวัน
ช่วงที่แดดดีที่สุดคือเวลา 06.30 น. - 07.30 น.
แสงแดดอ่อนๆ จะมีวิตามินดี ซึ่งหาไม่ได้จากอาหารใดๆนอกจากแสงแดดอ่อนๆ เท่านั้น
วิตามินดีจะเข้าไปเสริมความเข้มแข็ง ความแกร่งของเม็ดโลหิตขาวได้ดีที่สุด เพื่อจะไปต่อสู้กับมะเร็ง

4. งดอาหารหวาน มัน เค็ม อาหารหมัก ดอง เหล้า เบียร์ บุหรี่

5. งดกินโปรตีนที่ได้จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เช่น วัว หมู ฯลฯ กินโปรตีนจากไข่
เห็ด ฯลฯ แทน กินวิตามินซีเม็ด เสริม ถ้าพบมะขามป้อม ก็ซื้อมากิน กินวันละลูก พอ

6. อย่าเครียด มะเร็งชอบความเครียด คนไหนเครียดนั่นแหละมะเร็งจะมาหา

ผมไปพบหมอสิริพงศ์ฯ เมื่อ 20 เม.ย. 66 เล่าเรื่องการรักษามะเร็งแบบที่ว่าให้หมอทราบ
คุณหมอว่า ถ้าให้แน่ว่ามะเร็งในตัวผมหายไปหรือยังคงอยู่ให้ผมไป กทม.
ไปตรวจหามะเร็งด้วยวิธี PET Scan ที่ รพ. จุฬาภรณ์
ค่าใช้จ่าย 40,000 บาท ข้าราชการบำนาญ จ่าย 20,000 บาท

25 เม.ย. ผมไปตรวจฯ ที่รพ. จุฬาภรณ์ (แถวๆหลักสี่)

27 เม.ย. ผลการตรวจฯ ปรากฏว่า ในตัวผมไม่มีมะเร็งอยู่อีกเลย

วันที่ 7 พ.ค. ผมไปเลือกตั้งล่วงหน้าที่ศาลากลาง จ.นนทบุรี

23 พ.ค. กลับสงขลา

29 พ.ค. ผมพาผลการตรวจฯ ไปให้คุณหมอสิริพงศ์
วินิจฉัย เพื่อยืนยันผลฯ อีกครั้ง คุณหมอบอกผมว่า ยินดีกับลุง
ไม่พบเชื้อมะเร็งในตัวลุงเลย แสดงว่าวิธีการรักษาฯ ของลุงได้ผล
แต่เพื่อความแน่ใจ ครบ 3 ปี ให้ลุงมาส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่อีกครั้ง
ผมเขียนเล่ามายาวนานอ่านจนเบื่อ ต้องขอโทษ
แต่น่าจะเกิดประโยชน์กับเพื่อนพ้องน้องพี่ครูอาวุโส วฉ. บ้าง ตามสมควร
พบกันวันที่ 24 มิ.ย. 66 ที่ วฉ. นะครับ น้องวันชัยฯ โทรฯมาบอกแล้วเมื่อวันวาน

-----------------------------------------------------------
เท่าที่ติดตาม ได้ผลมากกับมะเร็งระยะแรกๆ

ถ้าระยะ 4 หรือระยะสุดท้าย เอาไม่อยู่เหมือนกัน