ภาคใต้ก็ปลูกได้/ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 09:54:10 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคใต้ก็ปลูกได้/ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย  (อ่าน 1402 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2021, 10:51:37 am »

ภาคใต้ก็ปลูกได้/ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขายhttps://108kaset.com/2021/12/14/betong-avocado
ภาคใต้ก็ปลูกได้..ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย
#ภาคใต้ก็ปลูกได้    #ชาวเบตงปลูกอะโวคาโด  #พันธุ์ต้นกล้าavocado
--------------------
ยะลา – ชาวเบตงใช้เวลาว่างหลังเลิกงานขายลูกอะโวคาโด ผลไม้ยอดฮิตของคนรักสุขภาพ และเป็นที่นิยมในการซื้อไปรับประทาน และยังเพาะกล้าพันธุ์ขายสร้างรายได้อีกทาง

..25 มิ.ย. ที่หลังอาคารอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางปรีดา ธิวัง อายุ 55 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานเทศบาลเมืองเบตง ดูแลอาคารอเนกประสงค์ของเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่นิยมชมชอบรับประทานลูกอะโวคาโด ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ หลังจากรับประทานแล้วได้ลองนำเอาเมล็ดไปเพาะพันธุ์ดู ปรากฏว่า ขึ้นง่ายโตไว ตนเองเลยทำการเพาะเมล็ดพันธุ์อะโวคาโดขาย

โดยขณะนี้อายุของต้นกล้าอะโวคาโดที่ได้พันธุ์มาจากเพื่อนชาว จ.น่าน เพียง 1 ต้น ซึ่งเป็นพันธุ์โพลล็อค ได้มาทดลองปลูกซึ่งปลูกมาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ในช่วงแรกหลังรับประทานได้ลองนำเอาเมล็ดไปลองเพาะพันธุ์ดู ปรากฏว่า ผ่านไป 6 เดือน ต้นอะโวคาโดขึ้นง่าย และโตไว และมีคนต้องการซื้อ ตนเองเลยทำการเพาะเมล็ดพันธุ์อะโวคาโดขาย ในราคากล้าละ 300 บาท ใครสนใจติดต่อได้ที่ 06-2997-0877

ที่ผ่านมา ตนเองใช้เวลาว่างช่วงวันหยุด และเลิกงานนำเมล็ดที่เหลือจากการรับประทานมาเพาะต้นกล้าขาย ดูแลมาเป็นเวลา 8 เดือน ขณะนี้ต้นอะโวคาโดพร้อมที่จะนำไปปลูก

การปลูกอะโวคาโด ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่ายแทบไม่ต้องมีการดูแลมากมายอะไร สามารถปลูกแซมในสวนผลไม้อื่นได้ เหมือนสวนของ นางปรีดา ที่ปลูกแซมพืชผักสวนครัว ถ้าพันธุ์ที่ต้นเล็กจะมีทรงพุ่มเล็ก ก็จะสามารถปลูกโดยใช้ระยะปลูก 6 เมตรต่อ 1 ต้น หากเป็นพันธุ์ที่ต้นใหญ่จะใช้ระยะปลูก 8 เมตรต่อ 1 ต้น เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป เมื่อต้นสูงประมาณ 1 เมตร ก็ให้ปุ๋ยบ้าง 1-2 เดือนครั้ง อะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ

หลังปลูกผ่านไป 3 ปี ก็สามารถให้ผลผลิต และเก็บเกี่ยวได้แล้ว และจะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่ออายุ 5-6 ปี สำหรับต้นอะโวคาโด ของ นางปรีดา ผลผลิตต้นหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 100-200 กก. อะโวคาโด จะให้ผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี แต่จะมีผลผลิตมากในช่วงเดือน มิ.ย-ก.ค. หรือในช่วงฤดูฝนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา

วิธีการปลูกต้นอะโวคาโด
เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด มี 3 แบบ คือ..

►แบบแรกคือ แบบทั่วไปทำง่าย โดยการใช้ไม้จิ้มฟันเสียบรอบเมล็ดอะโวคาโด ไม้จิ้มฟันเป็นตัวค้ำยัน แล้วจุ่มแช่น้ำเอาไว้จนกว่ารากจะงอก

►แบบที่ 2 แบบมีวัสดุช่วย คือ ห่อกระดาษชำระ ควรเลือกกระดาษชำระที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน เพราะหากกระดาษชำระมีสารเคมี เช่น สารเพิ่มกลิ่นหอม หรือสารเพิ่มความขาว เมล็ดจะไม่งอก และจะเน่าไปเลย โดยสามารถนำกระดาษชำระมาห่อเมล็ดเพียงครึ่งลูกแล้วจุ่มน้ำจนชุ่ม รอให้รากงอก

►แบบที่ 3 แบบมีวัสดุช่วยอื่นๆ เช่น ขุยมะพร้าว หรือดินใส่ลงไปแล้วก็จัดการกดเมล็ดอะโวคาโดให้จมลงครึ่งลูก รดน้ำให้ชุ่ม

โดยทั้ง 3 วิธีนี้เมื่อทำเสร็จแล้วให้จัดการปิดขวดจนกว่าจะมีราก และยอดแทงออกมาจากเมล็ดอะโวคาโด จึงค่อยเปิดฝา และเติมน้ำอย่าให้ขาด ระยะเวลารากงอกนั้นรอไปอีกสัก 2-3 เดือนจนกว่ารากจะงอกออกมายาว และแข็งแรงพอ และมีใบอ่อนสัก 5-6 ใบ จากนั้นจึงจะสามารถนำไปปลูกลงดิน หรือลงในกระถางได้

ขั้นตอนต่อไปเมื่อได้ต้นกล้าแล้วควรจำไว้ว่า ต้นอะโวคาโดชอบแดดจัดแต่ไม่ชอบร้อน จึงควรวางกระถางในที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มวันในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อบอ้าว หากอากาศร้อนเกินควรพรางแสงด้วยการวางกระถางไม้อื่นเพื่อช่วยเป็นพี่เลี้ยง หรือปลูกลงดินในที่ที่มีแสงไม่จัดมากก็ได้ เช่น ปลูกใต้ต้นมะละกอแซมในสวนผลไม้อื่น หรือหาวัสดุมาพรางแสงมาบัง

..จากนั้นให้รดน้ำ 2 วันครั้ง ต้นอะโวคาโดไม่ชอบน้ำแต่ก็ไม่ควรให้ขาดน้ำ รดน้ำไม่ให้แฉะและไม่ชื้นจนเกินไป มิฉะนั้นรากจะเน่า ดินต้องระบายน้ำได้ดี แนะนำดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวสับ การแยกต้นกล้าลงดินไม่ควรให้น้ำท่วมราก รากจะเน่า ต้นอะโวคาโดหาน้ำเองเก่ง หากเพาะเมล็ดให้เกิดรากแก้วจะดูแลง่ายกว่า

เมื่อต้นอ่อนในกระถางมีความสูงประมาณ 6-7 นิ้ว ให้ตัดยอดออก เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการแตกยอดใหม่ และเมื่อมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว ก็ให้เด็ดยอดอ่อนออกให้แตกยอดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ทรงพุ่มสวย รอบโคนต้นไม่ควรมีวัชพืช เพราะจะมาแย่งอาหารหมดทำให้ต้นโตช้า

นางปรีดา บอกอีกว่า ในสถานที่หลังโรงยิมเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ตนยังเพาะต้นกล้าอะโวคาโดขายเพื่อเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ และประกอบกับตนเองชอบต้นไม้อยู่แล้ว จึงเห็นว่าเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้หลังเลิกงาน และในวันหยุด ต้นอะโวคาโด เพียงต้นเดียว สามารถขายลูกอะโวคาโดได้ลูกละ 80 บาท และเพาะกล้าอะโวคาโด กล้าละ 300 บาทขายด้วย

“โดยในรุ่นแรกสามารถสร้างได้เมื่อปี 2559 ได้เงินมา 2,500 บาท ต่อมา ในปี 2560 ได้เงินมา 4,000 กว่าบาท และรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 ในปี 2561 คาดว่าอาจสร้างรายได้ถึง 5,000 บาทเศษ ส่วนต้นกล้าต้นอะโวคาโด เพาะมากี่ต้นก็ไม่พอขายต่อความต้องการของผู้ที่สนใจ” นางปรีดา กล่าว

ติดตามคลิปภาพและเนื้อหาทั้งหมดได้ที่นี่ > https://www.pohchae.com/2021/12/14/betong-avocado/


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2021, 05:49:32 pm »

ที่บ้านลูกชอบสั่งมาทีเป็น ลัง ได้ถูก กว่า ครึ่ง

เหนื่อย เราสิ

อะโวคาโด  สุกได้ที่  3 ลูก หั่นเป็นชิ้นๆ

นมจืด ทุกยี่ห้อ ได้หมด

น้ำผึ้ง กะเอา

น้ำแข็งทุบ

เอามาปั่น เป็น smoothies

ที่บ้านกินกันทุกวัน

ตอนนี้พัฒนาเป็น โยเกิร์ต แทน นมจืด(ไม่ต้องใส่น้ำผึ้ง)

เปรี๊ยวๆ มันๆ รับรอง 1000% ท้องไม่เสีย ดีต่อสุขภาพ

 ping!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!