ประเพณี“มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” ..งานบุญใหญ่เดือนสามที่จ.นครศรีธรรมราช
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 09:06:59 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประเพณี“มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” ..งานบุญใหญ่เดือนสามที่จ.นครศรีธรรมราช  (อ่าน 3839 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2019, 08:48:05 am »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาและคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!    www.pohchae.com
.
.      ------------------ ประเพณี“มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” งานบุญใหญ่เดือนสามที่จ.นครศรีธรรมราช ความเป็นมา ในสมัยที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชเป็นกษัตริย์ครองตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) อยู่นั้น ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ครั้งใหญ่และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๑๗๗๓ ขณะที่เตรียมสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น ชาวปากพนังมากราบทูลว่า คลื่นได้ซัดเอาผ้าแถบยาวผืนหนึ่งซึ่งมีภาพเขียนเรื่องพุทธประวัติมาขึ้นที่ชายหาดปากพนัง ชาวปากพนังเก็บผ้านั้นถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช.. [embed]https://www.youtube.com/watch?v=ve05s9UGPE4[/embed] พระองค์รับสั่งให้ซักผ้านั้นจนสะอาดเห็นภาพวาดพุทธประวัติ เรียกว่า “ผ้าพระบฏ” จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธจากหงสากลุ่มหนึ่ง จะนำผ้าพระบฏไปบูชาพระพุทธบาทที่ลังกา แต่ถูกพายุพัดพามาขึ้นชายฝั่งปากพนัง เหลือผู้รอดชีวิตสิบคน.. พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงมีความเห็นว่าควรนำผ้าพระบฏไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ แม้จะไม่ใช่พระพุทธบาทตามที่ตั้งใจ แต่ก็เป็นพระบรมสารีริกธาตุซึ่งเจ้าของผ้าพระบฏก็ยินดี การแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงมีขึ้นตั้งแต่ปีนั้นและดำเนินการสืบต่อมา จนกลายเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน.. ระยะเวลาดำเนินการ แต่เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุนิยมจัดปีละสองครั้ง ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม (วันมาฆบูชา) และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนหก (วันวิสาขบูชา)โดยนำผ้าไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ปัจจุบันนิยมทำกันในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม (วันมาฆบูชา) มากกว่า
“นครศรีธรรมราช” ขึ้นชื่อว่าเป็น “นครสองธรรม” อันเนื่องมาจากความโดดเด่นทั้งในเรื่องของ“ธรรมะ”และ“ธรรมชาติ” โดยเฉพาะเรื่องของธรรมะนั้นจะเห็นได้จากการที่เมืองนครเป็นอาณาจักรโบราณที่มีประวัติศาสตร์ความรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ในฐานะเมืองศูนย์กลางและเมืองท่าสำคัญแห่งแหลมมลายู อีกทั้งเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน

ร่องรอยที่ยังสามารถเห็นได้ชัดเจนก็คือพระธาตุองค์ใหญ่ “พระบรมธาตุเมืองนคร” อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธจากทั่วทุกสารทิศ

พระบรมธาตุเมืองนคร “พระบรมธาตุเจดีย์” หรือ “พระมหาธาตุเมืองนคร” ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของพุทธศาสนิกชน ซึ่งผู้มาเยือนเมืองนครศรีไม่ควรพลาดการไปกราบสักการะด้วยประการทั้งปวง..
พระบรมธาตุเมืองนคร ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม

ตามตำนานเล่าว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854 ด้วยศิลปะแบบศรีวิชัย (มีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า)

ต่อมาในปี พ.ศ.1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้สร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม จากนั้น พ.ศ.1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน มีความสูง 55.78 เมตร องค์ระฆังสูง 9.80 เมตร มีปล้องไฉน 52 ปล้อง
พระบรมธาตุเมืองนคร ได้รับการเรียกขานอีกฉายาหนึ่งว่า พระธาตุไร้เงา พระบรมธาตุเมืองนคร ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม ขณะที่ยามแสงแดดตกต้ององค์พระธาตุ เหลื่อมเงากลับทาบทอดไม่ถึงพื้น จนดูเหมือนพระธาตุไม่มีเงา จึงทำให้ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุไร้เงา” อีกฉายาหนึ่ง

พระบรมธาตุเมืองนคร ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของภาคใต้ และของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งไม่เฉพาะแค่ชาวไทยเท่านั้น หากแต่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่นิยมเดินทางมาสักการะบูชากันอย่างต่อเนื่อง..
ทุกๆ ปีที่พระบรมธาตุเมืองนครจะมีการจัดงานประเพณีสำคัญนั่นก็คือ งาน “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ขึ้น ปีละ 2 ครั้ง ช่วงวันมาฆบูชา (15 ค่ำ เดือน 3) และช่วงวันวิสาขบูชา (15 ค่ำ เดือน 6) โดยจะมีการนำผ้า “พระบฏ” ผ้าผืนยาว (นิยมใช้สีขาว เหลือง แดง)ไปห่มรอบองค์พระธาตุ พร้อมจัดขบวนแห่แหนกันอย่างยิ่งใหญ่

โดยในวันมาฆบูชา ปี 2562 นี้ ก็จะมีการจัดงาน “มาฆบูชาแห่งผ้าขึ้นธาตุ” และสมโภชองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ประจำปี 2562 ขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2562 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และสนามหน้าเมือง ซึ่งถือกันว่าเป็นหนึ่งกิจกรรม มหากุศลที่ชาวพุทธพึงได้บำเพ็ญครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและเป็นการสักการะองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด..
งานนี้ประกอบด้วยกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การเฉลิมฉลองในโอกาสที่พุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชและกรมศิลปกรได้ดำเนินการบูรณะกลีบยอดทองคำและสร้อยสังวาลทองคำ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชาปี 2562 การสมโภชผ้าพระบฎ การกวนข้าวมธุปยาสยาคูในระหว่างวันที่ 15-18 กุมภาพันธ์ 2562 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดบุญนารอบ วัดศาลามีชัย และวัดต่างๆ ในเขตเมืองอีก 5 วัด พร้อมขบวนแห่ผ้าพระบฎในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 15.00 น. จากสนามหน้าเมือง – วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมกิจกรรมเวียนเทียนในคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562
พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช ในพระวิหารหลวง นอกจากจะได้ร่วมทำบุญใหญ่ในเดือน 3 แล้ว เมื่อมาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ก็จะได้สักการะองค์พระบรมธาตุเมืองนคร และเยี่ยมชมสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ภายในวัด อาทิ “พระวิหารหลวง”ที่ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนีศรีธรรมราชอันงดงามเปี่ยมศรัทธา, “วิหารม้า” ที่โดดเด่นไปด้วยภาพพระม้าขนาดใหญ่ รวมถึงมีเท้าขัตตุคาม-รามเทพ ที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพอันลือลั่น และ “พระแอด” หรือ “พระกัจจายนะ” ที่เชื่อกันว่าผู้ที่มากราบไหว้ขอพรท่าน ผู้หญิงที่อยากมีลูกจะได้ลูกสมหวัง อีกทั้งพระแอดยังช่วยในเรื่องสุขภาพ ช่วยให้หายจากความเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดตัว ปวดหลัง.
ขอบคุณ https://nuttamol1307.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0.. https://mgronline.com/travel/detail/.. https://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php https://www.google.com/search?newwindow=1&safe=..  


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2019, 02:33:34 pm »

ชำระ ล้าง ใจ สะมั่ง พรุ่งนี้ก็ ดำเนินตามวิถี มนุษย์



เพิ่งกลับจากวัดมา

นำอาหารมังสวิรัติไปถวายพระเท่านั้น

Only Vegeterian food can be allowed offering to the monks.

วัดนี้ มังสวิรัติ  ล้วนๆ

More than two thousand five hundred years ago in Veluvana Bamboo grove. All 1,250 of the Arahants who had freed themselves of impurities and were ordained by the Lord buddha. They assembled spontaneously to hear the Fortunate One's teaching of the Pvada patimokkha.
กว่าสองพันห้าร้อยปีที่ผ่านมา ในป่าไผ่เวฬุวัน เหล่าอรหันตสาวกทั้ง 1,250 องค์
ผู้ซึ่งได้เป็นอิสระจากความไม่บริสุทธิ์ทั้งปวงและได้รับการบวชโดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านได้มารวมประชุมกันครั้งยิ่งใหญ่เพื่อฟังคำสอนอันทรงคุณค่าในหัวข้อ "โอวาทปาฏิโมกข์"

Ovada Patimokkha is said to be the heart and essence of Buddhist practice for individuals.
แปลว่า โอวาทปาฏิโมกข์เป็นหัวใจของการที่จะปฏิบัติตนของชาวพุทธแต่ละคน

บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2019, 07:47:06 pm »

 THANK!! wav!!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!