สรุปเลิกระบบ "แอดมิชชั่น" เหลือเพียง "รับตรงกลาง" ดึงทุกสถาบันอุดมฯเข้าร่วม

สรุปเลิกระบบ "แอดมิชชั่น" เหลือเพียง "รับตรงกลาง" ดึงทุกสถาบันอุดมฯเข้าร่วมคัดเด็กเริ่มปี 61

ผลสรุปร่วม "ศธ.-ทปอ.-สกอ.-สทศ.-ม.รัฐ-เอกชน" ยกเลิก "ระบบแอดมิชชั่น"
และให้ใช้ระบบรับตรงกลางร่วม หรือเคลียริ่งเฮาส์แทน เริ่มปี 2561
โดยให้ มรภ.มทร.เข้าร่วมด้วย เปิดโอกาสให้เด็กใช้คะแนน GAT/PAT และ 9 วิชาสามัญ
ยื่นสมัครได้ 2 ครั้ง กับมหาวิทยาลัยที่ต้องการเรียน "กำจร"
เชื่อแก้ปัญหาเด็กวิ่งรอกสอบ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.)
กล่าวภายหลังการประชุมแก้ไขปัญหาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา
ที่มี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน ว่า
ที่ประชุมซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากมหาวิทยาลัยรัฐ ผู้แทนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
พร้อมด้วยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
ได้หารือถึงการปรับระบบการรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหามหาวิทยาลัยเปิดสอบรับตรงเป็นจำนวนมาก
ทำให้เด็กต้องวิ่งรอกสอบหลายที่ อีกทั้งยังเกิดความเหลื่อมล้ำ
เพราะเด็กที่ฐานะดีจะมีโอกาสเข้าสอบมากกว่าเด็กที่ฐานะยากจน
ดังนั้นจึงต้องปรับระบบรับตรงใหม่ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว

ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการรับตรงแบบใหม่เบื้องต้น
จะเปิดช่วงเวลาเพื่อจัดการสอบต่างๆ ทั้งวิชาความถนัดทั่วไป หรือ GAT
และวิชาความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT และ 9 วิชาสามัญ หรืออื่นๆ
ถ้ายังมีความจำเป็น โดยการจัดสอบจะต้องจัดหลังจากที่เด็กเรียนครบหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว
หรือช่วงปลายเดือนมีนาคม เพราะการจัดสอบในปัจจุบันทำให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เตรียมสอบกันโกลาหล และในระบบการรับตรงใหม่นี้เด็กจะทราบคะแนนของตัวเองก่อน
จากนั้นจะเปิดรับสมัครด้วยระบบรับตรงกลางร่วมกัน หรือเคลียริ่งเฮาส์
โดยเด็กสามารถนำคะแนนไปยื่นเลือกสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ 4 อันดับ
ซึ่งมหาวิทยาลัยจะประกาศกติกาและคุณสมบัติของเด็กที่จะเข้าเรียนในแต่ละสาขาให้ทราบล่วงหน้า
เพื่อให้เด็กได้พิจารณา และมีสิทธิ์ในการเลือก 2 ครั้ง แต่หากมียื่นไปแล้ว
เด็กติดสาขาที่ต้องการและตกลงว่าจะเรียนในสาขานั้น ระบบก็จะต้องคัดชื่อเด็กรายดังกล่าวออกจากระบบคัดเลือกครั้งที่ 2 ทันที

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2560 เนื่องจากมีการประกาศหลักเกณฑ์ไปแล้ว

"ที่ประชุมได้มอบให้ ทปอ.ไปวางระบบการรับนักศึกษาตามแนวทางดังกล่าว
จากนั้นจะนำรูปแบบที่ได้ไปหารือกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
และมหาวิทยาลัยเอกชนก่อน ถ้าหากเข้าใจตรงกัน ก็ต้องมีการพัฒนาระบบการรับตรงร่วมกันของมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2561 อาจเริ่มกับมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิก ทปอ. 27 แห่งก่อน" ปลัด ศธ.กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในปีต่อไปการรับนักศึกษาในระบบกลางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา
ในสถาบันอุดมศึกษา หรือแอดมิชชั่น จะมีหรือไม่ นพ.กำจรกล่าวว่า
หากมีการใช้ระบบเคลียริ่งเฮาส์ทั้ง 2 ครั้ง คาดว่าจะสามารถทำให้เด็กมีที่นั่งในมหาวิทยาลัยต่างๆ ร้อยละ 90
แล้วเด็กที่เหลืออยู่จะสามารถรับตรงกับมหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้อีกถ้ายังมีที่
ซึ่งหากเป็นไปได้ตามนี้ ก็คงไม่จำเป็นต้องมีการแอดมิชชั่นอีกต่อไป.

Cr:http://www.thaipost.net