การเจริญพระพุทธมนต์
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การเจริญพระพุทธมนต์  (อ่าน 8660 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2007, 05:04:42 pm »

มาบวชแล้วจึงรู้ว่าศาสนาพุทธไม่เคยให้ชาวบ้านหรือ ฆราวาสอ้อนวอนสิ่งศักดิสิทธิ์  ศาสนาสอนให้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ คือการให้ตนมีธรรมมะเป็นเกาะ เป็นเครื่อง เกากิเลส
  การเจริญพระพุทธมนต์ คือ การระลึกถึง  พระกรุณาธิคุณ  พระบริสุทธ์ธิคุณ  พระปัญญาธิคุณ
พระปัญญาธิคุณ คือ ทรงมีพระปัญญาเยี่ยมยอด(ปัญญาในการตรัสรู้)ไม่มีมนุษย์อื่นจะเทียมถึงเป็นมหัศจรรย์
พระบริสุทธ์ธิคุณ คือ ทรงคิดค้นจนลุถึงความบริสุทธิ์อย่างนั้นแล้ว(ดับกิเลสทั้งปวง)ยังทรงสามารถนำความบริสุทธิ์มาให้สัตว์ทั้งหลายได้ปฏิบัติให้ถึงความบริสุทธิ์
พระกรุณาธิคุณ คือ ถึงแม้ทรงมีคุณทั้งสองประการข้างต้นแล้วก็ยังทรงพระมหากรุณาแผ่พระปัญญาและความบริสุทธิ์ด้วยการประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ แสดงไข เปิดเผย ได้กระทำสัตว์(รวมทั้ง31ภูมิ)ที่ประสบทุกข์อยู่ได้ตรัสรู้ตาม

    ดังนั้นท่านทั้งหลายจงตื่นเถิด...อย่ามัวหลงอยู่กับศาสตร์ที่ งมงาย
วันนี้วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2550 ได้เสวนากับสามเณร ที่รู้ถึงปัญญา แกกำลังสอบ เปรียญ 8 อายุเพิ่ง19 ปีเท่านั้น เอง
ดีใจมากเลยครับ  รอทำวัตรเย็น เวลา 5โมง เลยเอาคอมมาใช้ให้เกิดประโยชน์
อนุโมธนา
  ญาณวุฑฺโฒ


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 04, 2007, 01:43:27 pm »

มีคำถามว่า อะไรเป็นแก่นสารในพระพุทธศาสนา
ในพุทธพจน์ตอบไว้ว่า
๑ ลาภสักการะ ยศชื่อเสียง เปรียบเสมือน กิ่งไม้ใบไม้
๒ ความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบเสมือน สะเก็ดไม้
๓ ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ เปรียบเสมือน เปลือกไม้
๔ ญาณทัสสนะ หรือ ปัญญา เปรียบเสมือน กะพี้ไม้
๕ ความหลุดพ้นแห่งใจอันไม่กำเริบ ซึ่งใช้คำบาลีว่า อกุปปาเจโตวิมุติติ เปรียบเสมือน แก่นไม้
   คือสาระที่คนมาบวชในพระศาสนา ควรแสวงหาโดย พลัน

ปรากฏในอังคุตตรนิกาย จตุกกนิปาต พรหมจริยสูตรว่า
ภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์ นี้ เราประพฤติมิใช่เพื่อหลอกลวงคน
มิใช่เพื่อ เรียกร้องให้คนมานับถือ
มิใช่เพื่ออานิสงส์หรือลาภสักการะ
และความสรรเสริญมิใช่เพื่อ อานิสงส์ เป็นเจ้า ลัทธิ
มิใช่เพื่อ ให้คนทั้งหลายรู้จักตัวว่า เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

ที่แท้พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อ
สังวร คือ ความสำรวม (ศีลในพระปาฏิโมกข์เป็นต้น)
ปหานะ คือ ความละ  ( กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมอง )
วิราคะ คือ ความคลายกำหนัด ยึดมั่น ( ในอุปาทานขันธ์ )
นิโรธะ คือ ความดับทุกข์ (ในวัฏฏะ มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย )
ถ้าถามว่า พระพุทธเจ้าคืออะไร
พระพุทธเจ้า คือ ท่านผู้ตรัสรู้ดีตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง แล้วสอนให้ผู้อื่น ตรัสรู้ตามด้วย
พระธรรม คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
พระสงฆ์ คือ หมู่ชนที่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตามคำสั่งสอนนั้นๆแล้วสอนให้ผู้อื่น ปฏิบัติตาม
บันทึกการเข้า
supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 04, 2007, 03:14:35 pm »

 Grin
สาธุ ครับหลวงพี่ Grin Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: