(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ w w w.atimes.com)
North Korea leery of Chinese TV sets
By Radio Free Asia
27/08/2014
เกาหลีเหนือกำลังเพิ่มการตรวจสอบครัวเรือนต่างๆ ที่มีเครื่องรับโทรทัศน์ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยพุ่งเป้ามุ่งค้นหาทีวีแบบจอแอลซีดี ที่มีพอร์ตยูเอสบี และบังคับด้วยอุปกรณ์รีโมตคอนโทรลได้ ทั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดของเปียงยาง ที่จะป้องกันไม่ให้พลเมืองของตนสามารถเข้าถึงสื่อมวลชนต่างประเทศ ก่อนหน้ามหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ที่เกาหลีใต้
พวกเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในเกาหลีเหนือ กำลังเพิ่มการตรวจสอบครัวเรือนต่างๆ ที่มีเครื่องรับโทรทัศน์ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยพุ่งเป้าเป็นพิเศษไปที่ทีวีแบบจอแอลซีดี ซึ่งมีพอร์ตยูเอสบี และบังคับควบคุมด้วยอุปกรณ์รีโมตคอนโทรลได้ ทั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดของเปียงยาง ที่จะป้องกันไม่ให้พลเมืองของตนสามารถเข้าถึงสื่อมวลชนต่างประเทศ ทั้งนี้ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวหลายราย
ชาวเกาหลีเหนือซึ่งพำนักอาศัยตามแนวพรมแดนติดต่อกับจีน เชื่อกันว่าการตรวจสอบดังกล่าวนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะสกัดกั้นไม่ให้พวกเขาได้ชมรายการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นโดยที่มีเกาหลีใต้ ผู้เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเกาหลีเหนือเป็นเจ้าภาพ
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ข่มขู่ที่จะถอนตัวออกจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 กันยายน ถึง 4 ตุลาคมในคราวนี้ ภายหลังที่โซลปฏิเสธไม่ยอมออกค่าใช้จ่ายสำหรับค่าที่พักของทีมเกาหลีเหนือคณะใหญ่ซึ่งจะเข้าร่วมมหกรรมคราวนี้ แต่แล้วในที่สุดโสมแดงก็ตัดสินใจที่จะส่งคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จำนวนรวม 273 คนเข้าร่วม
นับถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ หน่วยงานตรวจสอบเซนเซอร์ของเปียงยาง ที่รู้จักกันในนามว่า หน่วย “109 ซังมู” (109 Sangmu) ก็กำลังไปเยี่ยมเยียนครัวเรือน “ทุกๆ ครัวเรือน” ในจังหวัดยังกัง (Yanggang) ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับจีน เพื่อตรวจสอบเครื่องรับโทรทัศน์ของบ้านเรือนเหล่านี้ แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกกับวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเกาหลี (RFA’s Korean Service) โดยขอให้อย่าระบุชื่อผู้ให้ข่าว
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวว่า พวกเจ้าหน้าที่เซนเซอร์จะจัดการถอนพอร์ตยูเอสบีบนเครื่องรับโทรทัศน์แอลซีดี ตลอดจนจงใจทำลายอุปกรณ์บนทีวีซึ่งจะทำให้ผู้ชมไม่สามารถบังคับควบคุมด้วยเครื่องรีโมตคอนโทรลได้
โทรทัศน์แอลซีดีนั้น นอกจากให้ภาพและเสียงที่คมชัดกว่าเครื่องรับทีวีธรรมดารุ่นเก่าแบบอะนาล็อกแล้ว เครื่องรับโทรทัศน์แอลซีดียังมีช่องสำหรับให้เสียบอุปกรณ์ภายนอกต่างๆ หลากหลายรูปแบบ เป็นต้นว่า แฟลชไดรฟ์ยูเอสบี (USB flash drives) ซึ่งชาวเกาหลีเหนือนิยมนำเอามาบันทึกละครซีรีส์ยอดนิยมและรายการบันเทิงต่างๆ ของเกาหลีใต้ ตลอดจนรายการข่าวสารข้อมูลว่าด้วยพัฒนาการต่างๆ ในต่างแดน เพื่อแอบเปิดชมเมื่อโอกาสอำนวย
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือห้ามพลเมืองทั่วไปรับชมรับฟังสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุของต่างชาติ ตลอดจนแผ่นซีดีและแผ่นดีวีดีของต่างประเทศ โดยที่ภายในแดนโสมแดงเองนั้น โทรทัศน์ถือเป็นรูปแบบสื่อซึ่งเข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวางที่สุด แต่เครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุทั้งหลายซึ่งได้รับอนุญาตจากทางการ จะถูกตั้งโปรแกรมให้สามารถรับได้เพียงแค่สถานีของทางการเกาหลีเหนือเท่านั้น ขณะที่อินเทอร์เน็ตนั้น เรียกได้ว่าประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้ ส่วนอินทราเน็ต (Intranet) หรืออินเทอร์เน็ตแบบใช้เฉพาะภายในหน่วยงาน ก็ถูกติดตามตรวจสอบอย่างกวดขัน
*การกระทำที่ประชาชนไม่ชมชอบ* แหล่งข่าวหลายรายบอกว่า เจ้าของบ้านบางส่วนได้ต่อต้านการกระทำของพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ที่จัดการถอดเอาพอร์ตยูเอสบี ออกไปจากเครื่องทีวีแบบแอลซีดี
บางรายใช้วิธีซ่อนทีวีของพวกเขา หรือไม่ก็หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งในจังหวัดยังกัง เล่า โดยแหล่งข่าวรายนี้ก็ขอไม่ให้ระบุชื่อของตนเช่นเดียวกัน
แหล่งข่าวรายหลังนี้บอกว่า รัฐบาลใช้ความละเอียดเข้มงวดมากกว่าในการตรวจสอบเครื่องรับโทรทัศน์แบบแอลซีดีตามบ้านเรือน เมื่อเทียบกับเครื่องทีวีรุ่นเก่าที่เป็นแบบอะนาล็อก เพราะแบบแอลซีดีจะมีศักยภาพในการรับชมโปรแกรมทีวีต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็กินไฟน้อย
“ราคาของโทรทัศน์แอลซีดีผลิตที่จีนในท้องตลาดมีหลากหลาย ตั้งแต่ประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับเครื่องพกพาจอขนาด 5.5 นิ้ว (เกือบๆ 14 ซ.ม.) ไปจนถึงประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับจอขนาด 42 นิ้ว (107 ซ.ม.) ประชาชนผู้หนึ่งในจังหวัดฮัมกยองเหนือ (North Hamgyong) เล่า
แหล่งข่าวรายงานเผยด้วยว่า พวกพ่อค้าแอบขายทีวีแอลซีดีขนาดพกพากันอย่างลับๆ ให้แก่ผู้ซื้อซึ่งจะสามารถติดตามชมโปรแกรมทีวีต่างประเทศจากเครื่องรับโทรทัศน์เช่นนี้ได้
*อภิสิทธิ์ของชนชั้นนำ* สำหรับพวกที่ถือกันว่าเป็น “ชนชั้นนำ” –ซึ่งก็คือพวกที่มีอิทธิพลทางการเมืองหรือทางเศรษฐกิจ ตลอดจนพวกที่มีเครื่องมือทางการเงินอันใหญ่โตมโหฬารกว่าพลเมืองโดยเฉลี่ย— ปกติย่อมสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสื่ออันก้าวหน้าประเภทต่างๆ ได้อยู่แล้ว รวมทั้ง แฟลชไดรฟ์ยูเอสบี ด้วย ทั้งนี้ตามรายงานของกลุ่มที่ปรึกษา “อินเตอร์มีเดีย” (InterMedia)
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้เป็นเรื่องง่ายดายขึ้นมาก ในการเข้าถึง, ในการปกปิดอำพราง, และในการแบ่งปัน พวกเนื้อหาจากสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกที่พำนักอาศัยอยู่ใกล้ๆ ชายแดนจีน
ตามรายงานของอินเตอร์มีเดีย ซึ่งนำออกเผยแพร่ในปี 2012 และได้รับการอุปถัมภ์ทางการเงินในการจัดทำจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังระบุว่าชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากชมโปรแกรมจากต่างประเทศที่เซฟเอาไว้ในอุปกรณ์ยูเอสบี ซึ่งมีขนาดเล็กกะทัดรัดและง่ายแก่การปกปิดอำพรางจากเงื้อมมือของพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของรัฐบาล
ถึงแม้มีระเบียบควบคุมอันเข้มงวดและมีบทลงโทษที่หนักหนาสาหัส แต่ชาวเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นนำ ก็มีช่องทางเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตมาก ในการเข้าถึงข่าวและเข้าถึงสื่อมวลชนอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือสื่อมวลชนในความควบคุมของรัฐบาลโสมแดง
และถึงแม้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังคงถูกควบคุมอย่างแน่หนารัดกุม แต่การเข้าถึงสถานีวิทยุและแผ่นดีวีดี กลับเป็นเรื่องสามัญทั่วไปสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์ในพื้นที่ชายแดน
รายงานซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯจ่ายเงินให้จัดทำฉบับนี้ ยังชี้ด้วยว่ามีชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงเครื่องรับทีวีที่มีศักยภาพในการรับสัญญาณโทรทัศน์นอกประเทศ ถึงแม้ตามระเบียบข้อบังคับของทางการแล้วกำหนดให้ทีวีทุกเครื่องถูกปรับแต่งให้รับได้เฉพาะช่องโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือเท่านั้น
ข่าวนี้รายงานโดย ซุงฮุย มูน (Sung-hui Moon) แห่งวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเกาหลี (RFA’s Korean Service) แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย จินา ลี (Jina Lee) และเขียนเป็นภาษาอังกฤษโดย โรสแอนน์ เกอริน (Roseanne Gerin)
วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต