ท่านเคยสังเกตหรือไม่ว่าเครื่องเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นๆกัน โดยเฉพาะยี่ห้อที่คุ้นๆหูกันอยู่
ทำไม.....................เครื่องเสียงเหล่านั้น จึงมีระบบ StandBy ไว้ให้
เหตุผลก็เพราะ.............
- เพื่อให้เครื่องเสียงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา คือเมื่อไหร่ก็ได้ที่อยากจะฟัง
โดยเราก็จะสามารถกดออน เปิดเครื่องเสียงนั้นๆได้ทันทีพร้อมกับเสียงที่ถูกใจ คือ ได้เสียงหนักแน่น
เสียงสดใส ฟังแล้วมันเต็มเสียงดี
ต่างจากการปิดเครื่องเสียงไว้ แล้ววันรุ่งขึ้นมาเปิดใหม่ ท่านจะรู้สึกว่าเสียงมันไม่ค่อยดี ไม่ค่อยเต็ม
วัตต์ก็สูง แต่ทำไมเสียงมันฟังแล้วดูแห้งๆจัง......
เหตุผลเป็นเพราะ...................
- Capaciter อิเล็กโตรไลต์ ยังชาร์จประจุไม่เต็มที่ กล่าวคือ ในสภาวะตอนแรกๆที่เปิดเครื่อง
ภายในตัว C จะมีความต้านทานภายในต่ำถึงต่ำมาก ดังนั้นในช่วงแรกๆที่ท่านเปิดเครื่องฟัง
จึงทำให้รู้สึกเสียงไม่ค่อยเต็มอิ่ม แบบที่มันควรจะเป็น
แล้วท่านเคยสังเกตุหรือป่าว ว่าทำไม เสียงเพลงที่ออกมาจากเครื่องเสียงเหล่านั้น จะฟังดีฟังไพเราะถูกใจ
เมื่อเพลงผ่านไปซัก 4-5 Track
นั่นเป็นเพราะ..............
- เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆสภาวะของ C อิเล็กโตรไลต์จะมีความต้านทานสูงขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับกระแสไฟที่สำรองที่อยู่ภายในตัว C ที่มีมากขึ้น สามารถรองรับเสียง Bass หนักๆได้อย่างดี
เมื่อมีการดึงกระแสโดยเฉียบพลัน อีกทั้งยังดึงเอาความสามารถในตัว C คือการกรองไฟที่เรียบมากขึ้น
ทำให้สัญญาณรบกวน ที่ไม่ราบรื่นเสมือนภูเขา ให้กลายเป็นพื้นที่แบนราบได้อย่างสบายๆ
ด้วยความสามารถของตัว C เอง
กล่าวคือ............................
- มันเป็นความเชื่อโบราณที่บอกว่า ก่อนออกจากบ้านให้เราดึงปลั๊กไฟออกให้หมด แต่ในความเป็นจริง
ในตัวปลั๊กที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม ( มอก.) แค่เราปิดสวิทซ์ลง กระแสต่างๆก็ถูกปิดกั้นเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเราจัดเฟสของไฟบ้านถูกต้องหรือไม่ คือ L และ N สายที่มีไฟและไม่มีไฟ
นอกจากนี้การวอล์มอัพเครื่องเสียง ยังทำให้อุปกรณืต่างๆภายใน อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งาน
อุปกรณ์บางตัวจะทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่พอเหมาะ
แต่.........................
ก็ต้องดูองค์ประกอบส่วนอื่นๆด้วย นั่นก็คือ ลำโพง
ลำโพงเองก็ต้องการที่จะวอล์มอัพตัวมันเหมือนๆกัน อยู่ๆจะมากระโดดวิ่ง ผลัด 100 เมตรเลยเห็นทีจะทำไม่ได้
จำเป็นที่จะต้องยืดหยุ่นกล้ามเนื้อเสียก่อน....
ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะสแตนบายด์เครื่องรอไว้แล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องเปิดเพลงความดังแบบพอเหมาะ
ซัก 2 - 3 เพลง เพื่อให้เนื้อของลำโพงได้ยืดหยุ่นตัวก่อน หลังจากนั้น ค่อยกระหน่ำความสะใจแบบสุดๆ