ธรรมะจากพระสงฆ์ผู้เจริญธรรม ตอนที่ 14-18
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะจากพระสงฆ์ผู้เจริญธรรม ตอนที่ 14-18  (อ่าน 1297 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 06:30:38 am »

ขอขอบพระคุณ ผู้ที่รวบรวบเอาไว้ คือ พันตรี เกรียงศักดิ์ ชัยชนะกิจพงษ์

 cpongwuth@yahoo.com หรือ MSN - pong_wuth@hotmail.com

จาก เว็บมาสเตอร์ เว็บธรรมะพุทธองค์  เพื่อนบ้านเราจากเว็บ http://kasin.saiyaithai.org เป็นอย่างสูงครับ

หากมีข้อสงสัย อะไรก็สามารถ แอด MSN : golfreeze@packetlove.com  ได้นะครับ

ในส่วนนี้ อยากให้ทุกท่านได้ อ่านเพื่อเป็นเรื่องแง่คิดในการทำความดี ทำบุญ เพื่อดำรงชีวิืตของท่านด้วยความสุข สบาย

ถ้าหาก มีข้อผิดพลาด ณ จุดใด ทางผู้จัดก็ขอ อภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ


Kittanan kathaisong


ครั้งที่ 14    วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2548
?การปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ?  ตอน 2
(หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ต.วังตะโก อ.โพทะเล จ.พิจิตร)

      อาตมาขอเทศนาให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ นี้ต่อให้เข้าใจนะ
      อาตมา ได้ใช้กรรมฐานแนวนี้ เป็นกำหนด จนได้อภิญญา สามารถมีฤทธิ์แห่งตนได้   ทุกคนที่ได้อ่านสิ่งที่อาตมาสอนครั้งนี้  ขอให้คิดตามไปก่อน  อาตมาหวังอยากจะช่วยศิษย์ของอาตมา คนไทย ประเทศชาติ สัตว์โลกให้พ้นทุกข์  ด้วยความเมตตาที่อาตมามีอยู่ในใจ  แม้เวลานี้ อาตมาจะไม่มีขันธ์เป็นมนุษย์  แต่วิญญาณรูปกายของอาตมาเป็นพรหมบนพรหมโลกนี้  ยังมีขันธ์ไว้ ยังมิต้องการดับกิเลสสู่นิพพาน
      หากยังมีศิษย์ของอาตมารออาตมาอยู่     ยังสวดระลึกขอให้อาตมาดูแล ปกปักเขาต่อไป  ขอให้ศิษย์ทุกคนปลอดภัย พ้นจากมารเทพไปได้ กิเลสมาร พญามารผู้มีจิตใจหยาบกระด้าง
      การเจริญ กรรมฐาน แนว กสิณ เป็นหนทางที่จะช่วยให้ทุกคนได้เข้าใจว่าสิ่งที่อาตมาพูดไว้เป็นจริงอย่างไร  อาตมาเชื่อว่า อาจจะมีผู้อ่านที่ได้อ่านตำรา ที่มนุษย์ผู้นี้รวบรวมไว้เป็นหนังสือความรู้ แล้วคิดไปว่า ไม่จริง หรือไม่เชื่อ  แต่ก็ขอให้ผู้นั้น อ่านอย่างผู้มีปัญญา อ่านอย่างนักปราชญ์  อย่าอ่านอย่างเบาปัญญา เพราะทุกคนที่มีศรัทธาเคารพต่ออาตมา น้อยคนที่จะได้พบกับอาตมาบนพรหมโลก  มนุษย์ผู้นี้มาขอให้อาตมาเทศน์สอนธรรมะให้มนุษย์ได้รู้  อาตมายินดีที่จะเทศน์สอนอย่างมาก  ด้วยหวังจะช่วยมนุษย์ทุกคนให้พ้นทุกข์จากบ่วงทุกข์ ตามคำสอนพระพุทธเจ้า
      อาตมา หวังที่จะโปรดทุกคนให้รู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้องโดยแท้  ขอให้ทุกคนมีความตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะมีดวงตา มองเห็นความจริงได้ไม่ยาก
      อาตมา ขอเจริญพร....



ครั้งที่ 15    วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2548
?การปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ?  ตอน 3
(หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร )

      เทศนาครั้งที่ 3 ในวันนี้ อาตมาอยากจะเทศน์สอนในเรื่อง การปฏิบัติจิตของตนเองให้มีปัญญา มีอภิญญาด้วยการเจริญกรรมฐานแนวกสิณ
      อาตมาเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า  พระสมณโคดม ผู้เป็นเลิศยิ่งเป็นมหาครูของทุกคนผู้นับถือพระพุทธเจ้า
      พระ ไตรปิฎกที่ได้แสดงเรื่องการปฏิบัติกรรมฐานนั้น มีแสดงไว้อย่างชัดแจ้งในเรื่องกรรมฐาน แนว กสิณ ว่าเป็นอย่างไร  มีผลอย่างไรเมื่อปฏิบัติ  มิใช่สิ่งที่อาตมากล่าวอ้างขึ้น
      ผู้ ปฏิบัติกรรมฐาน จนได้อภิญญาที่เรียกว่า อภิญญา 5 ชนิด  อันได้แก่ มีตาทิพย์  มีหูทิพย์ เป็นต้น  ขอให้ใช้อภิญญานี้ไปในทางที่ชอบ  เพื่อทางกุศลตามหนทางที่พระพุทธเจ้าทรงได้เคยใช้มาก่อนเถิด
      การ ปฏิบัติสมถกรรมฐาน แนว กสิณ ก็จะได้อภิญญา 5 ชนิด และเมื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อให้เกิดปัญญารู้ ดับกิเลสของตนให้หมดไป  ก็จะพ้นจากการเวียนว่ายจากภพชาตินี้  ได้สู่นิพพาน
      พระนิพพาน คือ ทางดับ ของทุกคน ไม่เกิด ไม่มีขันธ์  ไม่มีรูป    ไม่มีสิ่งใด ๆ ปรากฏ
      อาตมาขอยืนยัน
      ความ รู้ที่อาตมานำมาเทศน์สอนนี้ มีอยู่อย่างชัดเจน ขอให้ทุกคนผู้มีความรู้ เปรียบเทียบได้จากพระไตรปิฎกว่าเป็นจริงเพียงใด  มิใช่สิ่งที่อาตมานำมาเทศน์ลอย ๆ หรอก
      อาตมา อยากจะเทศน์ให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่องนี้  โอกาสนี้ อาตมาได้มาเทศน์จนได้ใจความที่อาตมากล่าวไว้  ขอให้ทุกคนไตร่ตรองคำพูดของอาตมา และพิจารณาจนเข้าใจ  ก็จะได้ปัญญาระดับหนึ่งได้
ขอให้ทุกคน มีสุข มีสุข พ้นภัยวิบัตินานา อายุ วรรณะ สุขะ พละ  จงมีแด่
ทุกคน
      เจริญพร...

   


ครั้งที่ 16    วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2548
?พระคุณครู?
(คำสอนจาก หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี)

      อาตมา หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้  ขอเทศน์ธรรมะให้ทุกคนได้ฟัง ได้รู้
      ?พระ คุณครู?  ที่อาตมาอยากจะเทศน์สอนนี้  เชื่อว่า ใครทุกคน ย่อมมีครู เป็นผู้สอนวิชาความรู้ให้  เพื่อไม่ให้เป็นคนโง่เขลากว่าใคร  ครูคนแรกที่ให้ความรู้ นั่นคือ แม่ของเรา และพ่อ  เพราะแม่คือคนที่คุยกับเรา พูดกับเรามาตลอด จนคลอดจากครรภ์
      เมื่อ พ่อให้ความรู้ในวิชาที่จะนำมาสร้างตนต่อไปได้  ผู้ให้วิชาถัดมาก็เป็นอาจารย์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้แก่เราผู้นี้ ย่อมมีความสำคัญรองจาก พ่อ แม่ของเรา
      อาจารย์ ย่อมมีพระคุณสูง หากเราไม่มีอาจารย์  ก็คงไม่อาจมีความรู้ต่าง ๆ ไปได้  ฉะนั้น อาตมาจึงไม่ลืมคุณของครู คนแรกและทุก ๆ คนที่สอนอาตมา
      วันแต่ละวัน ที่ผ่านไป  ไม่ลืมเลือนจากใจ  นั่นคือ สิ่งที่ทุกคนต้องระลึก เพราะว่า หากไม่มีทุกท่าน เราก็เป็นคนไม่มีปัญญาติดกาย
      แม้ว่า ทุกคนจะพูดเสมอว่า ข้าพเจ้ามีความรู้ถึงขั้นสูงสุดทางโลก  แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับ พระคุณที่ครูคนแรก ให้กายเนื้อ ให้ชีวิต ให้การเลี้ยงดูเรามาแต่เล็กแต่น้อย ใช่ไหม ?แม่? คือ ผู้มีพระคุณสูงสุด ที่เราควรกตัญญูที่สุด
      อาตมา ไม่เคยลืม ?แม่?  รู้ว่าแม่รักเราแค่ไหน  จึงอดทนเลี้ยงดูเรามาได้ถึงวันนี้   จนเมื่อท่านแก่เฒ่า  เราก็ต้องทำให้ท่านไม่ลำบากใจ หรือทุกข์ใจ  เพราะ ท่านยังรักและห่วงเรามากกว่าใคร  ยิ่งกว่าใคร
      อาตมา อยากจะสอนให้ทุกคน ได้มีปัญญา ไม่ลืมพระคุณแม่ และพ่อ และครู ที่สอนความรู้ให้กับเรา ขอให้ทุกคน ระลึกถึงทุกท่านเสมอเถิด
      อาตมา รู้ว่า ทุกท่านอยากจะ ได้ยิน ได้เห็นลูกทุกคนรักแม่ให้มาก   แม่ทุกคนก็อยากให้ลูกแสดงความรักกับตนเองบ้าง แม้เพียงวันละครั้ง   เราให้ความรักกับคนอื่นได้  แต่ทำไมให้ความรักกับแม่ของเราไม่ได้  ให้ท่านเห็นหน้าด้วยรอยยิ้ม  ยิ้มให้ท่าน ก็ทำให้ท่านมีความสุข
      สุข ใดที่จะทำให้แม่สบายใจ ก็จงทำ  สุขใดที่จะทำให้พ่อ ยิ้มได้ ก็ทำ  ความรู้ใดที่ครูสอนให้ นำไปเผยแพร่สอนความรู้ต่อ ก็ทำ  สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำทั้งสิ้น
      อาตมา อยากให้ทุกคน ใตร่ตรอง ด้วยสติ คิดได้ ระลึกเสมอไว้เถิด
      เจริญพร...



ครั้งที่ 17    วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2548
?นักบวช ผู้ครองธรรม?
(คำสอนจาก หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี)

      อาตมา เป็นสงฆ์ อยากจะสอนผู้ครองธรรมเป็นนักบวช ว่า การถือครองตนเป็นนักบวชนั้น ใช่แต่ว่าจะครองผ้าเหลืองหรอก  จะต้องมีศีลบริสุทธิ์ มิหมองมัว  จะต้องมีเมตตาต่อทุกคนไม่เลือกชั้น  จะต้องรักษาจิตของตนให้สะอาด
      อาตมา ยังถือครองเพศนักบวช เป็นสงฆ์  แม้สิ้นไปจากโลกแล้ว  เพราะชื่นชอบในความสงบ  ละวางจากปัญหา ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่พาทุกข์มาหาตน  จึงได้ออกบวช  ถือความสงบ
      นัก บวชผู้มีศีล  ขอให้ระมัดระวังตน  รู้จักครองตนให้สงบ ปล่อยวางจากปัญหา  ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เคร่งในการปฏิบัติ เพื่อให้ได้สำเร็จมรรคธรรม นิพพานดับไป
      พระพุทธเจ้าทรงเมตตารับ ทุกคนเป็นผู้ถือบวช เป็นสงฆ์ เป็นผู้สืบพระศาสนาของพระองค์ในยุคนี้   พระองค์ย่อมมีพระกรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อท่าน  ท่านจะกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าอย่างไร
      ทุกวัน ทุกเวลาที่ผ่านไป  อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลย  เร่งทำความเพียร อย่าคิดฟุ้งในโลภ  หวังอยากจะได้ชื่อเสียง  ละวางจากสิ่งนั้น ๆ ไป เพื่อแสวงหามรรคธรรมเถิด  ทุก ๆ อย่างในโลกนี้ มีอยู่เพื่อให้ผู้คนรู้จัก  แต่อย่ายึดว่าจะอยู่กับเราได้นาน  อีกไม่นาน ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว
      โลก หน้า ท่านเชื่อหรือไม่ว่ามีจริง  อาตมาเชื่อ เพราะว่าอาตมาได้มาเห็นแล้ว  แต่ท่านที่ไม่เชื่อ อาตมาก็ขอให้ท่านมีความเพียรที่จะปฏิบัติก็พอ  เมื่อใดที่ท่านได้ฌาน มีฤทธิ์สู่ภพภูมิต่าง ๆ ได้ ท่านจะเข้าใจ
      โลกมนุษย์  โลกสวรรค์ โลกนรก  มีอยู่จริง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้  ขอให้ท่านเชื่อพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้เถิด
      ภิกษุ สามเณร คือ ผู้สืบพระศาสนาโดยตรงของพระพุทธเจ้า  อุบาสก อุบาสิกา คือ ผู้รักษา ถ่ายทอด   และอุปถัมภ์ผู้สืบพระศาสนาให้มีสุขตามสภาวะในเพศบรรพชิต ผู้ถือบวชมิให้ลำบาก  ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อย่ากินแหนงกันว่า ตนเลิศทางชื่อเสียงกว่าใคร   ตนดีกว่าใคร  ตนมีศิษย์นับถือมากล้น  เหล่านี้เป็นเพียงภาวะของบุญที่ปรากฏเท่านั้น  ไม่ใช่จะคงทนได้นาน เหมือนดั่งพระธรรมที่ท่านจะได้
      หากท่านแสวง หาสมบัติภายนอก  ก็จะละวางเสีย  ขอให้เร่งค้นธรรม ฝึกธรรมเถิด  ธรรมะของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตาม ได้ผลทุกข้อ  ขอให้ท่านเชื่อ
      ใน เวลานี้ พระศาสนา กำลังถึงคราวที่หมู่ผู้นับถือ ไม่เชื่อเรื่องบาป บุญ ภพภูมิสวรรค์ ภูมินรก กันมากเช่นแต่ก่อน   ด้วยไม่ค่อยมีใครได้รู้จัก  หรือปฏิบัติแล้วไปสู่ภูมินั้น ๆ ได้
      หากใครที่ได้ไปเห็นก็จะมีความ เชื่อ  หากใครไม่ได้ไปเห็นก็จะไม่เชื่อ  ทั้งนี้ อาตมาว่าไม่แปลกที่ท่านจะไม่เชื่อ  แต่ขออย่าให้ปรามาสว่าธรรมะข้อนี้ ประสบการณ์เรื่องนี้อาจจะไม่จริงเป็นสิ่งลวงหลอกผู้คน   
      อาตมาไม่ เคยลวงหลอกให้ท่านต้องมายึด ต้องมาหลง กับสิ่งที่อาตมาพูด  สิ่งที่อาตมาพูด เพื่อต้องการให้ท่านคิด และรู้ว่า พระธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งประเสริฐที่สุด  เป็นสิ่งคงทนต่อเวลาที่สุด  แม้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วหลายพันปี ก็ยังคงอยู่  พระอรหันต์ก็จะมีต่อไปได้ หากมีผู้ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า
      พระ สงฆ์ แม้เป็นพระอริยะ หรือไม่ใช่พระผู้มีธรรมอันเลิศ ก็ยังเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า  ขอให้รักษาเกียรติของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นครูของท่าน  อย่าทำให้พระพุทธเจ้ามัวหมองด้วยการกระทำที่อาจทำให้พระพุทธเจ้าหมองไปได้
      ขอ ให้สงฆ์ทุกรูป พึงรักษาจิตของตนให้สะอาด  ไม่หมอง  ยังความบริสุทธิ์ในปรากฏในจิตเสมอ  ละเว้นจากกรรมทั้งปวง ฝึกจิตของตนให้บริสุทธิ์  สงบ เข้าสู่นิพพานไปเพื่อความหลุดพ้น  ตามวิถีบุญของทุกคนที่มีมาเถิด
      เจริญพร...



ครั้งที่ 18    วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2548  (วันพระ)
?คนดี หรือ คนชั่ว ที่ได้ดี?
(คำสอนจาก หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี)

      อาตมา อยากจะสอนทุกคนให้ได้เข้าใจถึงความหมายของ ?คนดี? กับ ?คนชั่ว? ผู้ที่จะได้ดี สองคำนี้ ท่านเชื่อว่าใครจะได้ดี หมายถึง ตายไปแล้วจะได้ไปสู่ภูมิสวรรค์
      อาตมาอยากจะบอกว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ผู้ที่สร้างบุญ จะได้ไปสู่ภพภูมิอันมีสุข   มิได้บอกไว้ว่าผู้ที่ทำชั่วแล้วจะได้ไปสู่สวรรค์ภูมิเลย  ?   นรก? ต่างหาก คือสถานที่ที่คนชั่วจะไปอยู่กัน
      บาปกรรมที่ ?คนชั่ว? สร้างไว้ ให้ผลเมื่อใด  เมื่อนั้นแหละ นรกจะเป็นที่อยู่ของคนทำชั่ว
      คน ดี สวรรค์จะมีสถานอันมีสุขให้ท่านอยู่อย่างสำราญสุข มิต้องเดือดร้อนใจเลย  หากหวังจะเยี่ยมญาติพี่น้องเมื่อใด ก็สามารถมาสู่โลกมนุษย์ เพื่อมาเยี่ยมญาติได้ ตามที่สวรรค์อนุญาตให้มากี่วัน ต้องกลับเวลาใด เพราะมีกฎระเบียบของสวรรค์บ่งไว้ ว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อความเป็นระเบียบของสวรรค์ภูมิ
      นรกนั้น เป็นสถานที่คนชั่วอยู่กัน  อยู่กันอย่างลำบาก  อดอยาก ไม่สบาย ต้องถูกมีด หอก หนามแหลม ไฟนรกเผากาย ทุกข์ทรมาน  วิญญาณที่ตกนรกนั้น ต่างก็รู้ว่าตนทำผิดก็เมื่อตายไปแล้ว  เมื่อมาเจอกับสภาพในนรก  ก็ตกใจกลัวว่าตนจะลำบาก  ทุกข์ทรมานสาหัส   นรก มิได้เป็นสถานที่สุขสบาย ทุกข์อย่างเดียวเท่านั้นจริง ๆ
      อาตมา อยากจะสอนทุกคนให้ได้รู้ และเชื่อความจริงเรื่องภพภูมิ  เพราะสิ่งนี้ มีอยู่ในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้  มิอาจปฏิเสธได้



บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: