http://www.justusers.net/knowledges/dvdknow.htmhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5DVD + R สามารถ เขียนเพิ่มได้ ก็คือ เขียนแล้วไม่หมดใช่ไม่เต็มแผ่นที ก็เขียนใหม่ได้ (เขียนเพิ่ม)แต่ไม่สามารถลบได้
DVD - R ก็คือเขียนได้ครั้งเดียว เขียนเพิ่มไม่ได้ สามารถลบได้เหมือนกัน
ส่วน DVD + RW ก็คือเขียน,ลบได้ ใช้เหมือน Flash Dirve เลย
DVD - RW เขียนลบได้ แต่เวลาลบต้องลบหมด แล้วเขียนใหม่
ป.ล. ไม่ทราบว่าถูก 100% มั้ยนะครับ ถ้าผิดไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน
ทำไมถึงต้องมีเครื่องหมายบวกและเครื่องหมายลบสำหรับดีวีดีทั้งสองประเภทนี้
ในตอนแรกมาตรฐาน DVD R/RW เริ่มต้นกับเครื่องหมายลบก่อน
โดยเกิดจากการพัฒนาและวางมาตรฐานของกลุ่มDVD Forum
ซึ่งเรียกว่าเป็นสมาคมสำหรับควบคุมมาตรฐานสื่อบันทึกข้อมูลในรูปแบบของดีวีดีขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้น
แต่ด้วยการพัฒนามาตรฐานของ DVD Forum ดูเหมือนว่าช้า
และไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานและการพัฒนาต่อไปในอนาคตด้วย
ทางสมาชิกกลุ่มหนึ่งจึงร่วมมือกันพัฒนามาตรฐานดีวีดีที่บันทึกได้ในรูปแบบของ DVD+R/RW ขึ้นมา
เป็นกลุ่ม DVD Allianceทำให้มาตรฐานใหม่นี้ไม่ได้ถูกยอมรับจาก DVD Forum
ที่เป็นผู้ดูแลมาตรฐานเดิมอยู่มาตรฐาน DVD+R/RWจึงเป็นมาตรฐานต่างหากที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้กับมาตรฐานเดิม
แต่ด้วยการที่กลุ่มสมาชิกที่แยกตัวมาตั้งมาตรฐานใหม่
ต่างก็เป็นผู้นำด้านการผลิตDVD+R/RW จึงได้เริ่มมีการยอมรับและไดร์ฟดีวีดีรุ่นใหม่ๆ ต่างก็สามารถที่จะอ่านข้อมูล
และใช้งาน DVD+R/RW มาตรฐานใหม่นี้ได้ด้วย
จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าเมื่อซื้อไดร์ฟประเภทนี้มาแล้วจะไม่สามารถนำไปใช้กับเครื่องเล่นใดๆ ได้
เพียงแต่ไดร์ฟทั้งสองมาตรฐานจะไม่ สามารถใช้งานข้ามไดร์ฟ
เป็นไดร์ฟประเภทไหนก็ต้องใช้ประเภทนั้น เช่น
ไดร์ฟ DVD+R/RW จะไม่สามารถเขียนข้อมูลลงในแผ่น DVD-R/RW ได้ และไดร์ฟ DVD-R/RW ก็ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงแผ่น DVD+R/RW ได้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเขียนแล้ว แผ่นทั้งสองมาตรฐานต่างก็สามารถนำไปใช้กับไดรฟ์ดีวีดีรอมรุ่นใหม่ๆ ได้ไม่เป็นปัญหา
ส่วนในการอ่านไม่ได้เป็น ปัญหาความแตกต่างของทั้งสองมาตรฐาน
เท่าที่เห็นก็จะเป็นลักษณะของการบันทึกข้อมูลมากกว่า
โดย DVD+R/RW เนื่องจากพัฒนาออกมาภายหลัง เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของ DVD-R/RW
จึงมีความสามารถ เหนือกว่า เช่น สั่งให้หยุดการเขียนและเขียนต่อได้ทันที
ไม่ต้องเสียเวลาในการรอ และใช้เทคโนโลยี Lossless Linking
ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการบันทึกและการอ่านข้อมูล ใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ส่วนการบันทึกรูปแบบของ R และ RW ก็ไม่ได้ต่างไปจากเครื่องบันทึกซีดีปัจจุบัน
R คือ Recordable หรือบันทึกได้ครั้งเดียว
และ RW คือ Re-Writeable ที่สามารถนำกลับมาบันทึกซ้ำใหม่ได้ ซึ่งทั้งสองมาตรฐาน DVD-R/RW
และ DVD+R/RW
ต่างก็สามารถบันทึกใหม่ได้ประมาณ 10,000ครั้ง
ประเภทของไดร์ฟ DVD
ปัจจุบันไดร์ฟดีวีดีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะของการติดตั้งดังนี้
1.ไดร์ฟภายใน (Internal Drive) เป็นไดร์ฟที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
ราคาถูกลงเรื่อยๆและน่าจะทดแทนไดร์ฟซีดีรอมได้ทั้งหมด
2.ไดร์ฟภายนอก (External Drive) ติดตั้งอยู่ภายนอกคอมพิวเตอร์
คุณสมบัติอื่นๆเทียบเท่ากับไดร์ฟภายใน
รูปแบบของแผ่นดีวีดี
J แผ่น DVD-ROM ป็นแผ่นดีวีดีที่บันทึกข้อมูลเพียงอย่างเดียวเหมือนกับซีดีรอม
โดยการบันทึกข้อมูลจากโรงงานเราไม่สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมได้
J แผ่น DVD-R (DVD-Recordable) เป็นแผ่นดีวีดีที่สามารถบันทึกข้อมูลได้เพียงครั้งเดียว
โดยสามารถบันทึกได้ทั้งข้อมูลเพลงและวิดีโอ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้เขียนแผ่น
J แผ่นDVD-RW (DVD-Rewritable) สามารถเขียนข้อมูลซ้ำได้หลายครั้ง
จะเล่นได้กับไดร์ฟ DVD-R/RW บนเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น
J แผ่น DVD+R/RW เป็นแผ่นที่ใกล้เคียงกับ DVD-RW เป็นมาตรฐานที่ทำให้แผ่นที่สามารถเขียนซ้ำได้
สามารถนำไปใช้งานได้กับเครื่องเล่น ดีวีดีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ไดร์ฟของดีวีดีบนคอมพิวเตอร์
J แผ่น DVD-RAM (DVD-Random Access Memory) เป็นดิสก์แบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม
สามารถบันทึกซ้ำได้เช่นเดียวกับ DVD-R, DVD+R/RW การบันทึกข้อมูลจะเป็นแบบฮาร์ดดิสก์
ซึ่งจะต้องมีไดร์ฟชนิดพิเศษในการอ่านและเขียนข้อมูลจะใช้งานผ่านไดร์ฟดีวีดีปกติไม่ได้
แต่ข้อดีของดีวีดีชนิดนี้ก็คือสามารถบันทึกข้อมูลซ้ำได้มากกว่า 100,000 ครั้ง
ทำให้มันถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่มากขึ้น เช่น กล้องดิจิทัล ประเภทของแผ่นดีวีดี
ดีวีดีมีให้เลือกใช้งานหลายความจุ ซึ่งแต่ละแบบมีเทคนิคในการเก็บข้อมูลที่ไม่
เหมือนกัน ปัจจุบันแบ่งเป็น 4 รูปแบบตามความจุดังนี้
1. Single-Side, Single Layer หรือ DVD5 เป็นแผ่นที่ทำการจัดเก็บภาพได้เพียงชั้นเดียวและหน้าเดียว
โดยสามารถบันทึกข้อมูลได้ 4.7 กิกะไบต์ DVD5 จะแบ่งใช้วัสดุ 2 แผ่น ประกบกัน
จะใช้งานเพียงแค่ส่วนล่างเพียงแค่แผ่นเดียวในการบันทึกข้อมูลและ
บันทึกลงไปเพียงแค่ชั้นเดียว แผ่นรูปแบบนี้ใช้งานแพร่หลายมากที่สุด
2. Single-Side, Dual Layer : หรือ DVD9จะคล้ายกับ DVD5คือการบันทึก ข้อมูลลงในหน้าเดียว
แต่จะบันทึกข้อมูลไว้ 2 ชั้นกระบวนการผลิตจะเป็นวัสดุแผ่นเดียวบันทึก
ข้อมูลได้ประมาณ 8.5 กิโลไบต์ จึงเรียกว่า DVD9 โดยทั่วไป DVD9
จะใช้บันทึกข้อมูลที่ต้องการรายละเอียดมากๆ เช่น
ภาพยนตร์ที่ต้องการคุณภาพของภาพสูงๆ เรื่องยาวๆ ซึ่งจะบรรจุข้อมูลเสียงไว้อีกชั้นหนึ่ง
3. Double-Sided, Single Layer : หรือ DVD10สามารถบันทึกข้อมูลลงไปในแผ่นได้ทั้งสองหน้า
และในแต่ละหน้าก็จะสามารถบันทึกข้อมูลได้เพียง 1 ชั้น
แผ่นแบบนี้สามารถบันทึกข้อมูลได้เป็น 2 เท่าของ DVD5 คือสามารถบันทึกข้อมูลได้ 9.4 กิกะไบต์
4. Double-Sided, Dual Layer : หรือ DVD18สามารถบันทึกข้อมูลลงไปในแผ่นได้ทั้งสองด้าน
และแต่ละด้านสามารถบันทึกได้มากถึงสองชั้น ซึ่งแผ่นชนิดนี้สามารถบรรจุข้อมูลได้ถึง 17 กิกะไบต์
นำไปบันทึกข้อมูลขนาดใหญ่มาก เช่น ภาพยนตร์ความยาวมากๆ
เปรียบเทียบดีวีดีทั้ง 4 ประเภทFormat ความจุ เวลาโดยประมาณที่บันทึกได้
1.Single-Side, Single Layer หรือ DVD5 4.7 GB 2 ชั่วโมง
2.Single-Side, Dual Layer : หรือ DVD9 8.5 GB 4 ชั่วโมง
3.Double-Sided, Single Layer : หรือ DVD10 9.4 GB 4.5 ชั่วโมง
4.Double-Sided, Dual Layer : หรือ DVD18 17 GB มากกว่า 8 ชั่วโมง
สำหรับวิธีดูอย่างง่ายๆ DVD5 มักใช้วัสดุสีเงิน ความหนาของแผ่นจะไม่มาก
DVD9 เนื้อแผ่นมักเห็นเป็นสีทอง วงรอบในของแผ่นด้านข้อมูล
อาจจะมีตัวหนังสือเล็กๆ เช่น side A, side B หรือ side 1, side 2