กาฬโรคปอด คร่าชีวิตชาวจีนแล้ว 3 ราย
4 สค. 2552 08:13 น.
สำนักข่าวซินหัวรายงาน โดยอ้างจากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สุขภาพท้องถิ่นที่ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคปอดหรือ นิวโมนิว เพลก (Pneumonic plague) ในจีนเป็นรายที่ 3 แล้ว โดยผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นชายวัย 64 ปี เสียชีวิตลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อาศัยอยู่ในเมืองจื่อเคอถาน จังหวัดซิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
ตามรายงานระบุว่า พบการระบาดของโรค ตั้งแต่ วันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน 9 รายล้มป่วยลง และพบผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายวัย 32 ปี และ รายที่สองเป็นชายเช่นกันอายุ 37 ปี แต่ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ป้องกันการแพร่กระจายออกนอกพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก ได้ให้ข้อมูลว่า กาฬโรคปอดเป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อที่สามารถทำให้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยสามารถเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชม. หลังการติดเชื้อ
-----------------
วิทยา สั่งจับตาสถานการณ์กาฬโรคในจีนอย่างใกล้ชิด
4 สค. 2552 18:05 น.
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเกิดการระบาดของโรคกาฬโรคปอด ที่เมืองจื่อเคอทัน มณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกของประเทศจีน ซึ่งเป็นโรคระบาดร้ายแรง มีรายงานเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 2 คน กำลังป่วย 10 คน และทางการจีนได้สั่งปิดเมืองดังกล่าว ว่า โรคดังกล่าวจัดเป็นโรคอันตรายร้ายแรง และเมืองจื่อเคอทันของจีน ซึ่งเป็นจุดระบาดของโรคกาฬโรค อยู่ห่างไกลจากประเทศไทยมาก โดยทางการจีนได้กักบริเวณประชากรที่สงสัยที่ติดเชื้ออยู่แล้ว ในส่วนของประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยโรคนี้มาเป็นเวลา 57 ปีแล้ว แต่จะมีการเฝ้าระวังและประสานติดตามสถานการณ์กับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ ชิด โดยยังไม่มีข้อห้ามประชาชนไทยเดินทางไปจีน
ด้าน นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กาฬโรคเป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่มีในหมัดหนู ซึ่งอาศัยอยู่กับหนูที่เป็นโรค จะพบในกลุ่มประชาชนที่อาศัยรวมกันอย่างแออัด หมัดที่กัดจะปล่อยเชื้อเข้าทางบาดแผล อาการคือต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ รักแร้ หรือรอบคออักเสบ เรียกว่า กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic plague) ส่วนกาฬโรคปอด (Pneumonic plague) เป็นอาการแทรกซ้อนของกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง มีความรุนแรงมาก เนื่องจากเชื้อมีการกระจายเข้าสู่กระแสโลหิตและเข้าสู่ปอดด้วย จะมีอาการเฉียบพลันคือ ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง อาการไอเกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมง เสมหะตอนแรกเหนียวใส แล้วกลายเป็นสีสนิมหรือแดงสด ถ้าไม่รักษาจะเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง และสามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่นในวงกว้าง ผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลาย โรคนี้มียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด แม้ว่าไทยจะปลอดโรคนี้มาตั้งแต่พ.ศ. 2495 แต่ก็ยังจัดระบบติดตามเฝ้าระวังการหวนกลับมาระบาดของโรคดังกล่าว โดยเฝ้าระวังโรคปอดบวมผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศอย่างต่อ เนื่อง และยังไม่พบผู้ป่วยแต่อย่างใด สำหรับการป้องกันโรคกาฬโรค ขอให้ประชาชนดูแลบ้านเรือนให้สะอาด โดยเฉพาะการกำจัดขยะมูลฝอย ขอให้กำจัดให้ถูกวิธีด้วยวิธีการขุดหลุมฝังหรือเผา เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู หลีกเลี่ยงการการจับต้องสัตว์ฟันแทะที่ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=397329&lang=T&cat=