ปรากฏการดูฝนดาวตกครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทยจะมีขึ้นอีกแล้ว ใน คืนวันที่ 17 - เช้า 18 พฤศจิกายน 2552
จากประสบการณ์ในปี พ.ศ. 2544 คนส่วนใหญ่ประทับใจในการดูฝนดาวตกสิงโต (Leonids)
ในคืนวันที่ 18-19 พฤศจิกายน ซึ่งได้พรั่งพรูตกจากฟากฟ้าประมาณ 1,000 ดวงต่อชั่วโมง
นับจากวันนั้นได้มีการเฝ้าติดตามปรากฎการณ์ทุก ๆ ปี และจากการคำนวณของนักดาราศาสตร์
ได้มีการคาดคะเนว่าในปี ค.ศ. 2009 จะมีฝนดาวตกสิงโตประมาณ 100 - 500 ดวงต่อชั่วโมง
ที่มา :
http://thaiastro.nectec.or.th/activity/25521117_Leonids/ฝนดาวตกในปี 25521 มกราคม 2552 วรเชษฐ์ บุญปลอด
โดยทั่วไปในสภาพท้องฟ้าที่ดีไม่มีเมฆหมอกหรือแสงไฟฝุ่นควันรบกวน เราสามารถมองเห็นดาวตกบนท้องฟ้า
ได้เฉลี่ยราว 6 ดวงต่อชั่วโมง ในหลายช่วงของปีจะมีดาวตกที่ดูเหมือนพุ่งออกมาจากบริเวณเดียวกันบนท้องฟ้า
เรียกว่าฝนดาวตก (meteor shower)
ฝนดาวตกเกิดขึ้นเมื่อโลกเดินทางฝ่าเข้าไปในธารสะเก็ดดาวที่ดาวหางทิ้งไว้ ดาวตกที่เกิดจากสะเก็ดดาวเหล่านี้มีหลายกลุ่ม
แต่ละกลุ่มมีลักษณะของดาวตกที่เห็น และจำนวนความถี่แตกต่างกันตามแต่องค์ประกอบและความเร็วของสะเก็ดดาว
ฝนดาวตกบางกลุ่มอาจมีอัตราต่ำเพียงไม่กี่ดวงต่อชั่วโมงแต่ยังก็เรียกว่าฝน ดาวตกเนื่องจากมีแหล่งกำเนิดที่สังเกตได้ว่า
ดูเหมือนพุ่งออกมาจากบริเวณ หนึ่งบนท้องฟ้า จุดนั้นเรียกว่าจุดกระจายฝนดาวตก (radiant) มักเรียกชี่อฝนดาวตก
ตามกลุ่มดาวหรือดาวที่อยู่ในบริเวณจุดกระจายฝนดาวตก
ฝนดาวตกกลุ่มดาวสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ในปีนี้ไม่มีแสงจันทร์รบกวน ที่น่าดูที่สุดอาจจะเป็นฝนดาวตกสิงโต
จุดกระจายฝนดาวตกชุดนี้อยู่บริเวณหัวของกลุ่มดาวสิงโตซึ่งมีลักษณะคล้าย เคียว นักดาราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพยากรณ์
ดาวตกหลายคนคำนวณพบว่าปีนี้โลกจะ ฝ่าเข้าไปในธารสะเก็ดดาวที่ดาวหางเทมเพล-ทัตเทิลทิ้งเอาไว้ในปี ค.ศ. 1466
และ 1533 ทำให้คาดหมายว่าฝนดาวตกสิงโตในปีนี้จะมีอัตราการตกสูงสุดมากกว่า 100 ดวงต่อชั่วโมง
หรือมากกว่า 1-2 ดวงต่อนาที (อาจมากกว่านี้ได้อีก) ในเวลาประมาณ 4.00-5.00 ของเช้ามืดวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน
ตามเวลาประเทศไทย รายละเอียดของผลการพยากรณ์จะนำเสนอต่อไปเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากฝนดาวตกสิงโต ฝนดาวตกคนคู่ในเดือนธันวาคมก็น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากมีจำนวนมากทุกปี
และไม่มีแสงจันทร์รบกวน จุดกระจายฝนดาวตกคนคู่อยู่ใกล้ดาวคาสเตอร์ในกลุ่มดาวคนคู่ ต้นกำเนิดของฝนดาวตกชุดนี้
มาจากดาวเคราะห์น้อยฟีทอนซึ่งอาจเคยเป็นดาวหางมา ก่อน
ฝนดาวตกในปี 2552
หมายเหตุ * ตัวเลขสำหรับสถานที่ที่ท้องฟ้ามืดสนิท หากมีแสงจันทร์และมลพิษทางแสงรบกวน จะมีจำนวนดาวตกที่เห็น
ลดลงจากค่าในตารางนี้
* คอลัมน์ "คืนที่มีมากที่สุด" เครื่องหมาย / ใช้คั่นคืนวันแรกกับเช้ามืดของอีกวันหนึ่ง เช่น 3/4 หมายถึงคืน
วันที่ 3 ต่อเช้ามืดวันที่ 4
* ดัดแปลงจากตารางฝนดาวตกประจำปีเผยแพร่โดยองค์การอุกกาบาตสากล (International Meteor Organization - IMO)
ที่มา :
http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/meteors/2009meteors.html