http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1221918170&grpid=04&catid=01 บทความจากนักกฏหมาย แสดงความคิดเห็น
ตาม
"ทักษิณ-พจมาน"ต้องหนีคดีทุจริตนานแค่ไหน-จนตาย?ถึงจะพ้นเงื้อมมือศาลฎีกาของนักการเมือง
ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ-คุณหญิงพจมานจะต้องหลบหนีกันนานเท่าไรถึงจะรอดจากการดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คำตอบ คือ ต้องหนีจนกว่าจะตาย หรือจนกว่าคดีจะขาดอายุความ
"1. เมื่อ วันที่ 16 กันยายน 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาครั้งแรก ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย ต้องหาว่า กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 กรณีอนุมัติให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการโทรคมนาคม ของพม่า ซึ่งตัวของจำเลยเองจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าศาล เพื่อสอบคำให้การ เมื่อจำเลยไม่มา ศาลได้ออกหมายจับ และสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว จนกว่าจะนำตัวจำเลยมาขึ้นศาล
2. เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 ในการนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ภรรยา เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดีและเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.4 , 100 และ 122 ประมวลกฎหมายอาญา ม.33, 83, 86, 91, 152 และ 157 จากกรณีที่คุณหญิงพจมานเข้าประมูลซื้อที่ดิน ย่านรัชดาภิเษก 4 แปลง จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองและทนายความจำเลยไม่มา ฟังคำพิพากษา จึงต้องออกหมายจับตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 32 วรรคสอง จึงให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 14.00 น. พร้อมมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง มาฟังคำพิพากษาต่อไป
คดีตาม 1. เป็นกรณีหลบหนีศาลในนัดแรกของการพิจารณา
คดีตาม 2. เป็นกรณีหลบหนีศาลในนัดอ่านคำพิพากษา
ถามว่า จะต้องหลบหนีกันนานเท่าไรถึงจะรอดจากการดำเนินคดี
คำตอบ คือ ต้องหนีจนกว่าจะตาย หรือ จนกว่าคดีจะขาดอายุความ
เหตุผลเป็นเพราะว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 บัญญัติไว้ว่า สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปเมื่อ
(1) โดยความตายของผู้กระทำความผิด
(6) เมื่อคดีขาดอายุความ
อันที่จริงสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปได้ในอีกหลายกรณี เช่น (5) เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิดยกเลิกความผิดเช่นนั้น หรือ (7) เมื่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ
แต่ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 (เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น) และมาตรา 157 (เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต) ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหาและถูกฟ้องเป็นจำเลยยังศาลฎีกาฯนั้น น่าจะยากที่จะมีการออกกฎหมายใหม่ยกเลิกความผิดหรือยกเว้นโทษ
เพราะฉะนั้น คงเหลือตาม (1) คือ ตาย และ (6) คือ คดีขาดอายุความ
ถ้าเกิดเหตุ (1) เสียก่อน สิทธินำคดีอาญามาฟ้องก็ระงับไป เพราะความผิดอาญานั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้กระทำ เมื่อไม่มีตัวของผู้กระทำแล้วก็ยุติไป แต่ถ้าไม่เกิด (1) ก็ต้องรอเวลาตาม (6)
ถามว่า ระยะเวลาตาม มาตรา 39(6)ที่จะขาดอายุความนั้นนานเท่าไร
ตอบว่า อายุความในคดีอาญานั้นขึ้นอยู่กับโทษ
โทษมากหรือโทษสูงอายุความก็ยาวหรือนาน ที่โทษน้อยหรือโทษต่ำอายุความก็สั้น
เรื่องของอายุความนั้นต้องพลิกประมวลกฎหมายอาญาย้อนไปดูที่มาตรา 95 บัญญัติว่า "ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ"
(1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกยี่สิบปี
(2) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี
(3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี
(4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี
(5) หนึ่งปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น
ถ้าได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้ว ผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือวิกลจริต และศาลสั่งงดการพิจารณา
ไว้จนเกินกำหนดดังกล่าวแล้ว นับแต่วันที่หลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา ก็ให้ถือว่าเป็นอันขาดอายุความเช่นเดียวกัน
กำหนดโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 คือ จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี
นี่คือ ระวางโทษจำคุกกว่า 7 ปี แต่ยังไม่ถึง 20 ปี
ดังนั้น จึงเข้าเกณฑ์ตามมาตรา 95 (2) อายุความ คือ 15 ปี
กรณีที่ยังมิได้ตัวมาขึ้นศาลซึ่งต้องนับระยะเวลา 15 ปีจากวันที่กระทำความผิด(วรรคแรก)
ส่วนกรณีได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้วหลบหนีก็ต้องนับ 15 ปีแต่วันที่หลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา(วรรคสอง)
สำหรับข้อเท็จจริงทั้งสองกรณีของคุณทักษิณนั้น เป็นกรณีตามมาตรา 95 วรรคสอง คือ ได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความ
ผิดมายังศาล แล้วผู้กระทำความผิดหลบหนี และศาลสั่งงดการพิจารณาไว้
วันที่เริ่มต้นนับ 15 ปี คือ วันที่หลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณาไว้นั่นละ
ถ้าจะหลบหนีให้รอดก็ต้องนาน 15 ปี เพราะหมายจับที่ศาลออกมานั้น จะมีสภาพเป็นหมายจับอยู่จนกว่าจะจับได้ หรือไม่ก็จนกว่าคดีจะขาดอายุความ หรือศาลซึ่งออกหมายได้ถอนหมายคืน
ไม่เช่นนั้นก็ต้องกลับมาสู้คดี จะผิดจะถูกก็ว่ากันอีกที
-------------------
ความคิดเห็นที่ 22 แจ้งลบ
ไม่ได้เป็นพันธมิตร แต่ขอถามนักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทุกคนที่รุมวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรในด้านลบว่า ถ้าไม่มีพันธมิตรออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 รัฐบาลก็แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ได้ นักการเมืองพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกแบนข้อหาซื้อเสียงก็กลับมาโกงกินต่อ กินจดประเทศชาติล่มจมเหมือนที่เบื้องสูงตักเตือน ใครจะรับผิดชอบ เพราะทุกวันนี้ขนาดมีพันธมิตรคอยเปิดโปงความชั่ว รัฐบาลยังโกงกินจนรวยในเวลาไม่ถึง 5 ปี ดูอย่างเมียนายกคนปัจจุบันและครอบครัวซิ จากข้าราชการกลายมารวยมีเงินพันล้าน แค่สงสัยว่าทำมาหากินอะไร ถึงรวยเร็วนัก
คนที่ด่าว่าพันธมิตร กรุณาถามตัวเองก่อนว่าออกมาทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง ถ้าไม่ก็อยู่เฉยๆ จะดีกว่า
เราไม่เชียร์พันธมิตรแต่ก็ไม่เคยด่าว่า เพราะการกระทำของพันธมิตรดีกว่าการโกงกินของรัฐบาลหลายพันเท่านัก คิดแค่นี้จริงๆ
คุณ : ลำเนา Post : 6 ครั้ง
วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551 15:21:18 น. 119.63.76.XXX
ความคิดเห็นที่ 21 แจ้งลบ
นึกว่าคุณ MVC จะยอมรับว่าธงหักเผลอนำไปฟันตอเข้าและหายไปจากวงการซะอีก ที่แท้เปลี่ยนชื่อจาก MVC มาเป็น KFC เอ้ย DFC เอ วิธีการเปลี่ยนชื่อนี่คุ้นๆจังครับ เหมือนพรรคการเมืองบ้านเราเลย ถ้าพปช โดนยุบหรือถ้าหน้าแหกอีกจะเปลี่ยนชื่ออีกมั้ยครับ
**********************************************
ขออนุญาติ คุณhiro ตอบแทน DFC แล้วกันนายคนนี้จะเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆตามสถานการ การเมืองที่เปลี่ยนไปซึ่งมาจากการ "คาดเดา" ที่ผิดจนหน้าแหกและคิดว่าชื่อ"เดิม"มันเละยับเยินเกินกว่าหมอจะรับเย็บแล้วก็จะเปลี่ยนสีตัวเอง..เอ๊ยเปลี่ยนชื่อตัวเองเดี๋ยวก็จะเปลี่ยนเป็นครั้งที่4 เร็วๆนี้เพราะมั่วผิดเหมือนเดิม มั่วจนได้ใจ "สามล้อ-แท็กซี่-โก๋กี๋-กะห-รี่-ไก่" จริงๆ
ชื่อครั้งที่4 DFC จะเป็นชื่อนี้ "เฒ่าทารก" เพราะ "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" นั่นเอง
คุณ : สมัคร ทักษิณ เนวิน ยงยุทธ Post : 56 ครั้ง
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551 13:44:59 น. 58.9.66.XXX
ความคิดเห็นที่ 20 แจ้งลบ
จริงแล้วมีคนบางคนเล่นฟุตบอลกับเขาแล้วเริ่มแพ้ เลยพาลเดินออกนอกสนามไปหาว่ากรรมการขี้โกง
ต่อมาเขาเปลี่ยนเป็นเล่นฟุตซอลกัน แน่นอนว่ากติกาเปลี่ยนไป แต่คนนี้บอกว่าอยากเล่นด้วย เพราะมีญาติเป็นกรรมการอยู่ พอเล่นๆไปก็เห็นว่าแพ้แน่ๆ เลยพาลอีกรอบวิ่งหนี้ออกนอกสนามไปเลย บอกว่ากติกานั้นไม่ยุติธรรม ทำไมไม่เอากติกาฟุตบอลมาเล่นกับฟุตซอลแทนละ เอ วัง ด้วยประการฉะนี้
คุณ : hiro Post : 4 ครั้ง
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551 08:50:39 น. 203.144.130.XXX
ความคิดเห็นที่ 19 แจ้งลบ
นึกว่าคุณ MVC จะยอมรับว่าธงหักเผลอนำไปฟันตอเข้าและหายไปจากวงการซะอีก ที่แท้เปลี่ยนชื่อจาก MVC มาเป็น KFC เอ้ย DFC เอ วิธีการเปลี่ยนชื่อนี่คุ้นๆจังครับ เหมือนพรรคการเมืองบ้านเราเลย ถ้าพปช โดนยุบหรือถ้าหน้าแหกอีกจะเปลี่ยนชื่ออีกมั้ยครับ
คุณ : hiro Post : 4 ครั้ง
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551 08:48:13 น. 203.144.130.XXX
ความคิดเห็นที่ 18 แจ้งลบ
ส่วนอะไรที่เป็นเรื่องไร้สาระ ผู้อ่านไม่ได้ประโยชน์ จากแสดงความเห็น ก็จะไม่นำเสนอ เพราะเวลาทุกนาที มีคุณค่า
นี่เป็นงานอดิเรก ที่ควรมีสาระอยู่ในงานนี้ด้วย
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 17:44:43 น. 125.24.132.XXX
ความคิดเห็นที่ 17 แจ้งลบ
คนเราต้องรู้จักแยะแยะ บางเรื่องที่พยายามใส่ความ ปรักปรำ ตอบโต้ไปก็แค่นั้น เพราะท่านผู้อ่านตัดสินได้เอง
แต่บางอย่างเป็นหลักการเราต้องนำเสนอ ดังต่อไปนี้
1.การชุมนุมสนามหลวง ไม่ได้ไปรอนสิทธิของคนอื่น มากมายเท่าการปิดถนนหลวง การอยู่ในที่ที่เหมาะสมก็เป็นการแสดงออกทาง ปชต. ที่ถูกต้อง
2.ความผิดบางประเภท เช่น มีรถชนกันที่สี่แยก ไม่ทราบว่า ทางไหนเป็นทางเอก ทางไหนเป็นทางโทร ไม่มีสัญญาณไฟ ไม่มีป้ายบอก เมื่อชนกัน จะว่าอีกฝ่าย เจตนาชนอีกฝ่ายก็ไม่ได้ อธิบายเรื่องเจตนากระทำความผิด ตำรวจอาจปรับทั้งสองฝ่าย ในข้อหากัดขวางการจราจร ขับรถโดยประมาททั้งคู่ อะไรก็ว่าไป ก็เสียค่าปรับกันไป ส่วนที่ห้ามจอด แม้ไม่มีป้ายติดไว้ แต่ตำรวจก็จะปรับในฐานกีดขวางการจราจร หรือจอดในที่ห้ามจอดแม้ป้ายหายไปแล้วก็ตาม จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา ก็ต้องเสียค่าปรับ
ดังนั้น ก็ได้อธิบายเรื่องเจตนากระทำความผิด หากมีการระบุมีเจตนาโดยทุจริต เช่น ปอ.157 โจทก์ก็ต้องหาเจตนาโดยทุจริตมาให้ได้ ส่วน ม.100 ปปช. ไม่ระบุเจตนา จึงให้ความเห็นว่า คล้ายคดีห้ามจอดหรือจอดขวางจราจร ควรเป็นโทษปรับ หรือถอดถอนออกจากตำแหน่ง ไม่ควรมีโทษอาญา
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 17:41:10 น. 125.24.132.XXX
ความคิดเห็นที่ 16 แจ้งลบ
เมื่อสถานการณ์ออกรูปแบบนี้ ก็น่าจะยึด สนามหลวง และ PTV ในการสร้างรูปแบบในการต่อสู้จะดีกว่า
พอพันธมิตรชุมนุมก็ด่า พันธมิตร แต่เ-สือกกลับยุให้คนชั้นตํ่า์3ตัวจะยึดสนามหลวงชุมนุมบ้าง อะไรคือมาตราฐานการด่าของ
"เฒ่าทารก" "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน"
คุณ : สมัคร ทักษิณ เนวิน ยงยุทธ Post : 56 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 16:47:32 น. 58.9.71.XXX
ความคิดเห็นที่ 15 แจ้งลบ
เห็นด้วยกับ ความคิดของ คนขอน แต่สำหรับ "เฒ่าทารก"
"แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" นั้นไม่มีอะไรใหม่/ความคิดเดิม ใช้อารมณ์ตัวเองตีความทางกม. สนับสนุนความคิดตัวเองไร้ซึ่งมาตราฐาน ท่านผู้อ่านคงรู้ดีว่า "เฒ่าทารก" จบกม.มาเหมือนลอกข้อสอบคนอื่น พอมาโพสต์ลงในเวป ถึงรู้ว่า
"มาตราฐานที่เรียนจบมา" "Fail" ใช้วิชาที่เรียนมาประกอบอาชีพไม่ได้ เลยต้องมา "ต่อหัวแลนแทน" ระยะหลัง(+แรก)สำร-อกอะไรออกมาก็ผิดหมด "สัมผัสที่6 ตกกระโถน" ทุกครั้ง เปลี่ยนชื่อใหม่หลายครั้งก็แล้ว คงนึกว่าจะสำร-อกอะไรออกมา "แม่น" หรือจูงใจให้คนอ่าน "เชื่อและคล้อยตาม" เปล่าเลย มันยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม (ไปเชื่อหมอดูให้เปลี่ยนชื่อก็อย่างนี้แหละ)ตรรกที่ยกมาเปรียบเทียบก็แสนจะปัญญาอ่อนเช่น
*** เปรียบเทียบรถชนกันมั่ง (คงจำได้)
*** เปรียบเทียบรธน.เหมือนการเกิดจากพ่อและแม่
*** เปรียบเทียบเป็นเลขฐาน2 (แต่ก็ไม่รู้จริง ให้ตอบก็ตอบไม่ได้)เลี่ยงไปเรื่องอื่น
*** และอีกหลายเรื่อง ซึ่งทำให้สรุปได้ว่า คนคนนี้
"มืดบอด/อับจนทางพุทธิปัญญา" จึงตั้งชื่อให้ใหม่เป็นครั้งที่4ว่า
"เฒ่าทารก" เพราะ "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" นั่นเอง
คุณ : สมัคร ทักษิณ เนวิน ยงยุทธ Post : 56 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 14:19:27 น. 58.9.71.XXX
ความคิดเห็นที่ 14 แจ้งลบ
กมฺมุนา วตฺตตีโลโก; สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกัน
คุณ : ฅนบ้านนอก Post : 9 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 14:16:31 น. 117.47.69.XXX
ความคิดเห็นที่ 13 แจ้งลบ
สื่อ ผ......21 กันยายน 2551 12:51 น......พันธมิตร ย้ำเจตนารมณ์ พปช.ลาออก-ค้านแก้ รธน.
DFC....เนื้อหานี้ อ่านหลังจากที่ได้วิจารณ์ความเห็นข้างล่างไปแล้ว แผนงานพันธมิตรและพวกอำมาตยาธิปไตย
1.ห้ามแก้ รธน. 50 ทุกกรณี
2.วันใด มาร์ค ม.7 ขึ้นนายก ก็จะออกมาจากทำเนียบ เพราะจะเข้าเงื่อนไข ตามพาดหัว พปช. ลาออก
จึงน่าแปลกใจอย่างมาก คนใน พปช. อ่านเกมอนุบาลนี้ไม่ออกกันเลย ทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ได้ ไม่เผาผีกัน เล่นการเมือง เหมือนเล่นหม้อข้าวหม้อแกงกัน เห็นสภาพแล้ว น่าอนารถใจ
ทั้งๆที่ ฝ่ายตรงข้าม รวมหัวกันวางแผนกินรวบทั้งหมด ไม่ให้เหลือ
ที่รับปากกันไว้ ก็แค่รับปาก ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะทำกันจริงๆจังๆ หมูสนามการเมือง เล่นการเมืองแบบ ไก่รองบ่อน
ต้องใช้คำฮิตเล่อร์ มาใช้ "คนโง่แต่ขยัน ต้องเอาไปฆ่าทิ้ง อย่าให้เหลือไว้สืบพันธ์ต่อไป เพราะคนกลุ่มนี้ คือ พวกสร้างปัญหา นั่นเอง"
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 13:29:52 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 12 แจ้งลบ
ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่า ทำไม กบฎในทำเนียบจึงอยู่ได้ โดยไม่มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปจับกุม บางวันมีไม่ถึงพัน ตำรวจถ้าจะเข้าไปจับกุมแกนนำ สามารถเข้าไปจับได้อยู่แล้ว
เหตุผลเพราะ อำมาตยาธิปไตย เป็นเกราะให้พันธมิตร เพื่อเอาไว้ต่อรองทางการเมือง
อำมาตยาธิปไตย ต้องการเพียง ไม่ให้ฝ่ายการเมืองแก้ไข รธน. นั่นเอง มีการสร้างกระแส สร้างตัวหลอกล่อ แม้แต่ใน พรรค พปช. เอง อำมาตยาธิปไตย ก็เข้าไปตีจนแตก ความหวังในการแก้ รธน. 50 เป็น 0 ด้วย ส.ส. ชุดปัจจุบัน
ดังนั้น การเมืองใหม่ไม่มีหรอก เป็นเพียงตุ๊กตาที่ตั้งขึ้นมาเป็นตัวหลอกล่อ ให้ฝ่าย ต่อต้านอำมาตยาธิปไตยงงเล่น และจับการต่อสู้ที่ผิดจุด
อำมาตยาธิปไตย ต้องการเพียง รักษา รธน.50 นี้ไว้ และ องค์กรอิสระที่มีอยู่ตอนนี้ เพราะนี่คือ การปฎิวัติเงียบ ที่จะทำอะไรก็ได้ โดยใช้ ตัวบทกฎหมายควบคุม ที่รุนแรง และ โหดร้ายกว่า การใช้ปืน หรือ รถถังเสียอีก เพราะ นี่คือความเนียน ในการคุมให้อยู่หมัด
ทำไม จึงมีกบฎซ้อนขึ้นมา ใน พปช. ก็ด้วยการยื่นข้อเสนอที่ พวกกบฎในพปช. ยินดีรับ หากไม่รับจะเจอสภาพเดียวกับแม้ว
เลยขอเอาตัวรอดกันหมด
อำมาตคุมพรรคเก่าแก่ไว้แล้วจ้า
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 13:15:25 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 11 แจ้งลบ
มองข้ามช๊อตไปข้างหน้าได้เลย 3 เกลอหัวแข็ง น่าจะประกาศเลิกจัด รายการความจริงวันนี้ ก่อนที่จะถูกแทงข้างหลังด้วยฝ่ายเดียวกัน เพื่อหวังผลทางการเมืองเช่นเดียวกัน
นัฐวุฒิ น่าจะลาออก จาก รองโฆษกรัฐบาล ก่อนที่เค้าจะเขี่ยออก เค้าไม่เอาไว้แน่ เพราะผิดข้อตกลงกับอำมาตยาธิปไตย
การถอนตัวออกมาก่อน ดีกว่า ถูกคำสั่งลับให้ถอน ความสง่างามจะแตกต่างกัน
เมื่อสถานการณ์ออกรูปแบบนี้ ก็น่าจะยึด สนามหลวง และ PTV ในการสร้างรูปแบบในการต่อสู้จะดีกว่า
เราสะกิดพวกคุณแล้วนะ ชิงออกตัวก่อนดีกว่า
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 12:50:49 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 10 แจ้งลบ
ให้ท่านผู้อ่าน จับตาดูโพลนี้ให้ดีว่า เป็นโพลธุรกิจหวังผลอะไรหรือไม่ โพลนี้จะมี 2 มาตรฐาน
มาตรฐานแรก เป็นโพลทั่วไป สะท้อนภาพที่แท้จจริงของสังคม
มาตรฐานที่สอง คือออกมาชี้นำแนวคิด ยามที่ต้องการหวังผลอะไรสักอย่าง
ก็ต้องไตร่ตรองกันให้ดี ว่า โพลนี้ ออกมาแต่ละครั้ง ต้องการมาตรฐานใด ในแต่ละช่วง เป็น วิจารนญาณในการรับผลทุกครั้ง
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 12:29:54 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 9 แจ้งลบ
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ........ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง "วันนี้ประชาชนกำลังคิดอย่างไรต่อภาพลักษณ์ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี" กรณีศึกษาประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 2,716 ตัวอย่าง มีระยะเวลาการดำเนินโครงการ ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2551 ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 90 ยังคงติดตามข่าวการเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์....เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านบุคลิกภาพ ความอ่อนโยนของ นายสมชาย ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.5 พร้อมให้การสนับสนุน
DFC....นี่เป็นความเห็น คน กทม. ที่เจ๊ดันฐานเสียงคน กทม. บางส่วน(เหลือไม่มากแล้ว) คิดว่า ถ้าแทงข้างหลังกัน เอาหมักลง เอาสมชายขึ้น จะช่วยให้ เบอร์เลข 2 ตัว มีคะแนนตีตื้นขึ้นมา
ไม่แน่ใจ เอแบคโพลใช้ฐานตัวเลขจากที่ใด แต่ที่แน่ๆโพลนี้กับนายสมัคร ไม่เผาผีกันแน่นอน
ผลสำรวจจะต้องใช้คนทั้งประเทศ และต้องสุ่มตาม--ส่วนผู้ลงคะแนนด้วยไม่ใช่ตัดสินกันที่ คนเพียงพื้นที่เดียว
คงมั่นใจกันว่า คงเอากบฎออกมานอกทำเนียบกันได้ ก็คอยดูกันต่อไป
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 12:12:13 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 8 แจ้งลบ
คนขอน.......ไหงบอกว่า รธน.40 ดีนักหนา ทีกฎหมายประกอบ รธน.40 ออกมาบังคับใช้ซึ่งไม่เป็นผลดีกับตนเองกลับบอกว่าไม่ดีได้งัยนี่ จริงๆแล้วคนกลุ่มนี้ถ้าคนอื่นได้รับโทษ จะบอกว่าศาลยุติธรรม แต่บังเอิญเป็นตนเองได้รับโทษจึงบอกว่ากฎหมายไม่ดี
DFC....คุณน่าจะสับสน หรือไม่ก็แกล้งโง่ มี 2 ประเด็นนี้เท่านั้น
คุณไปโทษผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ คุณต้องไปโทษ พวกเพี้ยนยึดอำนาจ ไปฉีกแม่บททิ้งไป คุณอาจต้องทำความเข้าใจ ในตัวบทกฎหมาย จะใช้อารมณ์ในการวิจารณ์ไม่ได้
ประเด็นอยู่ที่ เมื่อมีคนเพี้ยนไปฉีกแม่บท กับมีคนเพี้ยนให้เอา พรบ.ประกอบ แม่บทมาใช้ได้ต่อไป
คำถามต่อมา คือ ขบวนการยุติธรรมขั้นต้นสมบูรณ์หรือไม่ ผิดเจตนารมณ์แม่บทหรือไม่
เอาง่ายๆ คุณเกิดจากใคร พ่อและแม่ใช่หรือไม่ เรื่องนี้ ไม่ต่างจาก เอาเรื่องอภินิหารย์แล้วกัน คุณจะเข้าใจง่ายหน่อย สามารถเสกเป่าได้ ให้พ่อ-แม่ ของคุณเสียชีวิต ก่อนมีคุณเกิดออกมา นั่นหมายความว่า จะไม่มีคุณออกมาให้ความเห็นในวันนี้ แน่นอน คำถามจึงมีว่า คุณเกิดจากใคร ถ้าเกิด ก็ต้องเกิดจาก พ่อ -แม่คนอื่น ไม่ใช่ พ่อและแม่ ปัจจุบันของคุณ ดังนั้นทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อแม่บทตายไป
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 10:38:10 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 7 แจ้งลบ
ไหงบอกว่า รธน.40 ดีนักหนา ทีกฎหมายประกอบ รธน.40 ออกมาบังคับใช้ซึ่งไม่เป็นผลดีกับตนเองกลับบอกว่าไม่ดีได้งัยนี่ จริงๆแล้วคนกลุ่มนี้ถ้าคนอื่นได้รับโทษ จะบอกว่าศาลยุติธรรม แต่บังเอิญเป็นตนเองได้รับโทษจึงบอกว่ากฎหมายไม่ดี
กลุ่ม 111 ก็เหมือนกันบอกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม กรรมการพรรคคนใดทำผิดก็น่าจะเอาผิดกับคนนั้น คนอื่นไม่รู้เรื่องจะมาเอาผิดทำไม ถ้างั้นพวกคุณก็กลับไปแก้กฎหมายที่เอาผิดกับผู้ปกครองเด็กแว้นสิ เด็กทำผิดจะไปเอาโทษกับผู้ปกครองทำไม ผู้ปกครองเขาไม่รู้เรื่องที่ลูกเขาไปแข่งรถเหมือนกัน กฎหมายนี้พวกคุณมิใช่หรือที่ออกมาใช้
คุณ : คนขอน Post : 17 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 10:14:39 น. 125.26.148.XXX
ความคิดเห็นที่ 6 แจ้งลบ
ต่อจากความเห็นข้างล่าง พปช. มาชิงอำนาจกันเอง อย่างหน้าด้านๆ และทำกันแบบหน้าด้านๆ
ซึ่งที่จริงก็น่าจะนำปัญหาทุกอย่าง มานั่งปรึกษากัน นายสมัครก็ยังเป็น หน.พรรค การให้เหตุผลว่า ควรเว้นวรรค แล้วให้นายสมชายขึ้น ด้วยเหตุผล 1..2..3.. แต่ปรากฎว่า เล่นเกมฉีกหน้ากัน ไม่มองหน้ากัน ฆ่าผู้มีพระคุณ ในการให้ได้อำนาจรัฐมาถือ
เป็นการเล่นเกมการเมืองที่แสนสกปรก ปลิ้นปล้อนกันทางการเมือง ที่ยากจะให้อภัยกันได้ มีทางเดียว ต้องให้ผู้ที่คิดก่อการในพรรรคนี้ เลิกเล่นการเมืองไปทั้งหมด
ความเป็นต่อ ของ พปช. ไม่จำเป็นเลย ที่จะต้องเล่นเกมสกปรกกันแบบนี้ พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องมีลับลมคมใน กันเป็นหนังจีน หนังน้ำเน่าแบบภาพที่ปรากฎ
ตอนนี้ ดันก้นนายสมชายกันขึ้นมา แต่นายสมชายไม่มีต้นทุนทางการเมือง พวกเจ๊ดัน เลยต้องส่งทีมงานมาโฟนอิน เชลียร์ นายสมชายกันแบบไร้เหตุผลสนับสนุน ทำให้การเมืองไทย เข้าสู่วงจรอุบาทนั่นเอง
ต้องอยู่ที่ทักษิณ ต้องประกาศ ไม่สนับสนุนกลุ่มคนที่ดันนายสมชายขึ้นมา ตัดขาด แม้จะเป็นญาติของตัวเอง แล้วบอกกสังคม ว่า จะกลับมาเป็นนายกอีกครั้งเพราะตัวแปรเปลี่ยนไปหมด
หากไม่ประกาศก็เสร็จเขา(อำมาต)
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 10:00:36 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 5 แจ้งลบ
ท่านผู้อ่านต้องให้ความเป็นธรรมว่า ผู้ทำคดีส่งศาลคือ ปรปักษ์ของผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจะเสียเปรียบอย่างมาก หากสู้กันที่ศาลเดียว
กรณีนี้ ถือว่าทักษิณ มีความชอบธรรมที่ไม่ต้องมาขึ้นศาล เพราะขบวนการตั้งแต่ต้น จนสุดท้าย ไม่ได้เป้รนไปตามประเพณีการปกครอง นั่นเอง มีส่วนขาดไปหลายจุด ตามที่ได้อธิบายไปแล้ว
แนวทางแก้ไข
ต้องใช้ขบวนการนิติบัญญัติ ออกกฎหมาย ระบุให้ พรบ. ประกอบ รธน.40 ทุกฉบับ สิ้นสุด พร้อม รธน.40 มีผล
1.คดีความทุกคดี ที่ขึ้นสู่ศาลฎีกา ต้องไปเริ่มที่ศาล ชั้นต้น ใช้ขบวนการ 3 ศาล
2.คดีที่ดินรัชดา ต้องจำหน่ายคดีออกไป เพราะ ปปช. ม.100 ไม่มีแล้ว
3.คนบ้านเลขที่ 111 หลุดพ้นห้ามลงการเมือง 5 ปี แต่เพื่อให้ มั่นใจว่าครบถ้วนสมบูรณ์ คงต้องยกเลิก คปค. ทุกฉบับ ซึ่ง ฉบับที่27 เมื่อยกเลิก ก็เท่ากับว่าไม่มีโษย้อนหลังอยู่อีก
เมื่อสู่กระบวนเหล่านี้ ก็น่าจะกวักมือเรียกทักษิณ มาขึ้นศาลในคดีที่สังคมสงสัยว่ามีความผิดกัน
แต่ พปช. ได้ทำลายความหวังในการแก้ รธน.50 ไปเสียหมดสิ้นแล้ว มีการเดินเกมเข้าไปสู่หมากกลที่อำมาตยาธิปไตยวางไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 09:49:14 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 4 แจ้งลบ
ต่อจากความเห็นข้างล่าง
คดีเหล่านี้ต้องไปสู่กระบวนการ 3 ศาล นั่นแหละ คือขบวนการที่ให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้สู้ในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง เพราะการที่เอาคนที่อยู่ตรงข้ามกันมาทำสำนวน ทนายฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ถึงจะเก่งอย่างไร ก็ไม่สามารถต่อสู้ได้หมด อาจมีบางช่องโหว่ให้แพ้คดีได้ ถือว่าจบกันไป
ความสวยงามของกระบวนการยุติธรรม อยู่ที่ภาษีหุ้นชิน ที่มี บรรณพต-พจมาน-เลขา ขึ้นศาลอาญา(ศาลชั้นต้น) คำพิพากษาของศาลอาญา ก็คือคำพิเคราะห์ของศาลอาญา ซึ่งตัดสินให้ ผู้ถูกกล่าวหาแพ้คดี แต่ในคำพิพากษา ก็ยังมีช่องต่อสู้ในศาลอุทธรณ์ ซึ่งมีหลายจุดที่สู้ได้ นี่คือความสวยงาม ที่แม้ฝ่ายผู้ทำคดี จะเป็นนักกฎหมายมือ1 ของประเทศมารวมกัน แต่ทุกอย่าง จะอยู่ที่คำพิเคราะห์ของศาลชั้นต้นทั้งหมด เพื่อนำไปสู้กันที่ ชั้นศาลอุทธรณ์
ทำไมคุณหญิงพจมานต้องขอลี้ภัยไปด้วย เพราะคดีหุ้นชินใช้ 3 ศาล เหตุผลน่าจะมาจาก คตส. ลากเธอเข้าไปอยู่ในวังวนนักการเมือง คือใช้ศาลเดียวตัดสิน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเสียเปรียบมากในการต่อสู้ คือพลาดในจุดหนึ่งจุดใด ก็แพ้คดี แก้ตัวไม่ได้
ท่านผู้อ่านต้องให้ความเป็นธรรมว่า ผู้ทำคดีส่งศาลคือ ปรปักษ์ของผู้ถูก
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 09:40:40 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 3 แจ้งลบ
ต่อจากความเห็นด้านนล่าง
2.ก่อนมี รธน.40 เราเอาผิดนักการเมืองโดยใช้วิธี 3 ศาล หลังมี รธน.40 เราเอาผิดนักการเมืองศาลเดียว ดังนั้น เมื่อมีคนเพี้ยน คิดการใหญ่ ฉีก รธน.40 ทิ้ง ก็เท่ากับว่า คนกลุ่มนี้ ไม่เห็นด้วยกับ วิธีการ ใช้ศาลเดียว ในการตัดสินนักการเมือง ที่บัญญัติไว้ใน รธน.40 ตามหลักกฎหมาย ต้องไปเริ่มกันที่ ก่อนมี รธน. 40 คือ ต้องใช้ขบวนการ 3 ศาล
3.ตุลาการ รธน. ที่ลงนามแต่งตั้งโดยบังธิ ไปตีความว่า กฎหมายประกอบ รธน. 40 ยังใช้ได้หมด แม้ ตัวแม่บทถูกฉีกทิ้งไปแล้ว นั่นหมายความว่า ตุลาการ รธน. ชุดนี้ ได้เผาตำรากฎหมายไทยทิ้งทั้งหมด และเอากติตู มาตัดสินกัน จึงทำให้ คดีสามารถไปสู่ศาลฎีกาฯ ได้ ตามกฎหมายลูก
4.จากข้อ3 ยังมาผิดพลาดที่กระบวนการยุติธรรมขั้นต้นที่ไม่ได้เป้นไปทั้งตัวแม่บท(รธน.40) และ กฎหมายลูก(พรบ.ประกอบ รธน.40) นั่นหมายความว่าเจตนารมณ์เปลี่ยนไป ย่อมนำมาใช้บังคับกับความยิติธรรม ที่เป็นนิติรัฐไม่ได้
คดีเหล่านี้ต้องไปสู่กระบวนการ 3 ศาล นั่นแหละ คือขบวนการที่ให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้สู้ในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง เพราะการที่เอาคนที่อยู่ตรงข้ามกันมาทำสำนวน ทนายฝ่ายผู้ถูก
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 09:32:52 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 2 แจ้งลบ
ก็ตามที่ได้บอกไว้ว่า ทางการเมืองไม่มีทางเป็นกลางได้ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของนโยบายในแต่ละพรรคที่นำเสนอ ดังนั้น ทางการะเมืองอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นกลาง หากเป็นกลางจะไปลงคะแนนเลือกพรรคใดกันเล่า
แต่ทางกฎหมาย ผู้วิจารณ์จะต้องทำตัวเป็นตราชั่ง2 ข้างที่เท่ากันเพื่อให้เกิดแนวคิดที่แตกออกไป มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นการปรักปรำไปนั่นเอง
คดีเหล่านี้ ต้องมาวิเคราะห์กนว่า มีความชอบธรรมหรือไม่ ในความเห็นของ DFC ถือว่าไม่ชอบธรรม ผู้ถูกกล่าวหาสามารถไปยืนที่จุดใดของโลกแล้วบอกว่าเมืองไทยไม่มีความยุติธรรม ทางด้านตัวบทกฎหมาย พูดเมื่อใด ก็ถูกเมื่อนั้น เพราะ มานผิดธรรมเนียมปฎิบัติกันจริงๆ ผู้ถูกกล่าวหา สามารถยืดอกขอลี้ภัยทางการเมืองได้อย่างสมบูรณ์โดยอ้างความไม่ยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรมของไทยตั้งแต่ต้นจนขบวนการสุดท้ายได้เลย มีเหตุผลสนับสนุนดังนี้
1.รธน.40 ได้สร้างขบวนการยุติธรรมขั้นต้น จนไปสู่ขบวนการศาลเดียวคือศาลฎีกาฯ เพื่อให้คดีนักการเมืองถูกตัดสินอย่างรวดเร็ว ให้ทันต่อเหตุการณ์ แบบนี้ถือว่าเหมาะสม ที่จะนำมาบรรจุใน รธน.40
2.ก่อนมี รธน.40 เราเอาผิดนักการเมืองโดยใช้วิธี 3 ศาล
คุณ : Democratism Fight Comment Post : 911 ครั้ง
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 09:23:42 น. 125.24.126.XXX
ความคิดเห็นที่ 1 แจ้งลบ
ถ้ามั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ก็น่าจะกลับมาสู้ไม่รู้ดำรู้แดงกันไปเลยนะครับ เพื่อเป้นบรรทัดฐานให้กับกลุ่มทีกำลังตะแบงอยู่ที่ทำเนียบทุกวันนี้ครับ
คุณ : ขอคาราวะ ๑ จอก Post : 13 ครั้ง
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 22:13:09 น. 118.174.189.XXX
โปรดอ่านกฎกติกาและข้อตกลง ก่อนแสดงความคิดเห็นใน matichon.co.th ทั้งหมด
1. กรุณาทำการ Login ก่อนแสดงความคิดเห็นทุกครั้ง ข้อความที่ท่านได้แสดงความคิดเห็นลงในข่าวนี้ จะแสดงผลทันทีหลังการโพสต์หากท่านเป็นสมาชิก
2. การแสดงความคิดเห็นต่างๆ ขอสงวนสิทธิ์ไว้เฉพาะสมาชิกมติชน ออนไลน์เท่านั้น หากท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกมติชนออนไลน์ กรุณาคลิ๊กที่นี่ หากต้องการแก้ไขข้อมูลส่วนตัว กรุณาคลิ๊กที่นี่
3. โปรดงดเว้น การใช้คำหรือข้อความใดๆที่เป็นคำหยาบ เป็นคำหรือข้อความใดๆ ที่แสดงถึงการหมิ่นต่อพระบรมเดชานุภาพแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ หรือเป็นการอ้างอิง พาดพิงถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใด การใช้คำหรือข้อความหยาบคาย ไม่สุภาพ ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย ทำให้ผู้อื่นเสียหาย สร้างความแตกแยก
4. ขอสมาชิกท่านให้ความเคารพต่อสิทธิของผู้อื่นและตนเอง ในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะชน กรุณาอย่าใช้คำหยาบคายหรือข้อความใดๆที่ไม่สุภาพ สอดเสียด หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย และโพส์ตข้อความซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง
5. ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้ หรือไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้ระบุไว้
6. หากมีการแจ้งลบความคิดเห็นใด ความคิดเห็นหนึ่งเกิน 10 ครั้ง ที่ IP ไม่ซ้ำกัน ระบบจะทำการลบความคิดเห็นนั้น โดยอัตโนมัติทั้นที
7. ผู้ดำเนินการเว็บไซต์ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ หรือ ไม่โพส์ตข้อความซ้ำกันหลายข่าว
ผู้ใช้งาน :
:
