ข้อมูลเกี่ยวกับการติดแก๊สที่ควรรู้จะได้ไม่โดนหลอก
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 02:06:33 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อมูลเกี่ยวกับการติดแก๊สที่ควรรู้จะได้ไม่โดนหลอก  (อ่าน 15290 ครั้ง)
GASOHOL
วีไอพี
member
***

คะแนน22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


« เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 04:18:04 pm »

ข้อมูลเกี่ยวกับการติดแก๊สที่ควรรู้จะได้ไม่โดนหลอก

มีคนหันมาติดตั้งแก๊สในรถยนต์กันมากขึ้นแต่ก็ได้เจอกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเนื่องจากเพื่อนสมาชิกไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้งแก๊สและข้อมูลในด้านเทคนิคเกี่ยวกับแก๊ส จึงทำให้เพื่อนสมาชิกหลายต่อหลายท่านไปติดตั้งแก๊สกับอู่ที่ให้รับติดตั้งที่ไม่มีความชำนาญและไม่มีความจริงใจต่อลูกค้า จนทำให้หลายท่านไปติดตั้งแก๊สในระบบที่ผิดๆมาเนื่องจากไม่มีผู้ที่รู้และมีความชำนาญในการติดตั้งและใช้งานรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส ในระบบต่าง จึงทำให้มีการติดตั้งที่ผิดและก่อให้เกิดความเสียหายแก่รถยนต์ของเพื่อนสมาชิก เพราะว่าเข้าใจว่ารถของท่านสามารถติดตั้งแก๊สได้ทุกระบบ จึงไปทำการติดตั้งแก๊สในระบบดูด หรือ มิกเซอร์ที่เป็นที่รู้จักกันมากในหมู่แท็กซี่มิเตอร์ และมีราคาในการติดตั้งที่ถูกกว่าระบบหัวฉีดมาก ราคาติดตั้งระบบดูดเริ่มต้นที่ 11,000 - 18,000 บาท แต่อันที่จริงแล้ว การติดมิกเซอร์ในรถยนต์ส่วนบุคคลนั้นมีข้อเสียเป็นอย่างมาก แต่ในรถแท็กซี่มีการนั้นมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องแทบตลอดทั้งวันและมีการปรับจูนได้บ่อยครั้งเมื่อเกิดปัญหา เพราะว่าแท็กซี่มีมีการเปลี่ยนกะทุกๆ 12 ช.ม. และส่วนใหญ่เจ้าของอู่ที่ให้บริการเช่าแท็กซี่มิเตอร์นั้นสามารถปรับจูนให้ได้ตลอดเวลา เมื่อคนขับในกะนั้นๆร้องขอ แต่ในรถยนตฺส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากเจ้าของรถไม่มีความรู้เรื่องการติดตั้งหรือการปรับจูนแก๊สเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ต้องเข้าไปรับบริการจากอู่ที่ท่านได้ทำการติดตั้งมาทุกครั้งที่มีปัญหา หรือมีอัตราสิ้นเปลื่องแก๊สมากกว่าปกติ และต้องมีการบำรุงรักษาที่แทบจะต้องบอกว่ายุ่งยากและจุกจิกมากในระยะยาวอาจทำให้ระบบหัวฉีดน้ำมันตายได้ และในการเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุงตัวหัวฉีดน้ำมันในรถของท่านนั้นมีราคาในการเปลี่ยนหรือซ่อมแพงทีเดียว (เพราะว่าในการติดตั้งระบบดูดต้องตัดการใช้งานของปั้มติ๊ก)
ข้อเท็จจริง คือ ในรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดนั้นเมื่อมีการติดตั้งแก๊สจะต้องติดตั้งแก๊สในระบบหัวฉีดด้วยกันเท่านั้น
เพราะว่า ในระบบดูดนั้นไม่มีการคำนวนค่าของแก๊สที่เข้าไปในระบบเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อยมีแต่ตัวที่ให้ปรับจูนเพื่อให้แก๊สออกมากน้อยจากหม้อต้มจึงทำให้เครื่องยนต์มีการทำงานที่ไม่เต็มกำลัง ระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ ทำให้เคื่องยนต์มีการสึกหรอมากกว่าปกติและทำให้กำลังของเครื่องยนต์ตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ในรถบางคันที่ติดตั้งไม่ดีและไม่รู้ถึงวิธีการบำรุงรักษาที่ดีพอจะทำให้มีกลิ่นของแก๊สภายในห้องโดยสารซึ่งเมื่อมีการสูดดมเป็นเวลานานๆท่านอาจคิดว่าไม่มีผลอะไรกับร่างกาย แต่ท่านลองคิดดูนะครับสำหรับท่านที่ใช้ระบบดูดแล้วมีกลิ่นแก๊สในห้องโดยสารว่า เวลาที่ท่านขับรถยนต์ของท่านเดินทางไปไหนไกลๆหรือขับขี่เป็นเวลาหลายช.ม.นั้น มีอาการเพลี่ยๆเหนื่อยๆ อย่างผิดปกติ โดยที่ท่านก็ไม่ได้ไปทำอะไรมาหนักหนา เวลานอนจะหลับไปแบบแทบไม่รู้ตัวแบบพอหัวถึงหมอนก็หลับไปเฉยเลย และเวลาตื่นตอนเช้าวันรุ่งขึ้นท่านจะมีรู้สึกเหมือนว่าตาหนักๆไม่อยากที่จะตื่นหรือลุกขึ้นมาทำภาระกิจต่างๆในแต่ละวันจ แต่ในการทำงานของระบบหัวฉีดนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก ในระบบหัวฉีดนั้นมีการคำนวนค่าความต้องการเชื่อเพลิงของเครื่องยนต์ที่มีความแม่นยำส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์ทำงานได้เต็มกำลัง ระบบการเผาไหม้มีความสมบูรณ์มากกว่าระบบดูด แต่มีราคาค่าติดตั้งที่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับระบบดูด ราคาติดตั้งระบบหัวฉีดเริ่มต้นที่ 25,000 - 38,000 บาท ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ทั้งแบบที่ไม่มีหม้อต้มและแบบที่มีหม้อต้ม อีกทั้งการทำงานของระบบหัวฉีดนั้นมีความปลอดภัยที่สูงกว่าระบบดูดมากเนื่องจากในระบบหัวฉีดส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งระบบวาล์วที่ตัวถังแบบใหม่ที่มีความปลอดภัยและบำรุงรักษาง่ายกว่าระบบดูด(เนื่องจากมีราคาถูกจึงใช้ระบบว่าแบบแท็กซี่เป็นส่วนใหญแต่ในบางร้านขณะนี้มีการใช้ระบบวาล์วนิรภัย(มัลติวาล์ว)ที่ถังแก๊สเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า)ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าระบบวาล์วนิรภัยดดังกล่าวนั้นคือระบบ มัลติวาล์ว ซึ่งมีตัววาล์วนิรภัยอยู่ในตัวและไม่ต้องมายุ่งยากในการเปิดปิดวาล์วเวลาที่เข้าไปเติมแก๊สในสถานบริการต่างและไม่มีกลิ่นที่เกิดจากการรั่วซึมหรือจากระบบการทำงานของเครื่องยนต์(ในอู่ที่มีมาตรฐานและความชำนาญในการติดตั้งแก๊ส) จึงสบายใจได้ว่าจะไม่มีกลิ่นแก๊สเข้าไปในห้องโดยสารแล้วในระบบหัวฉีดมีตัวสวิทช์ที่บอกการทำงานในสถานะของแก๊สและน้ำมันเป็นแบบ AUTO จึงไม่ต้องไปสนใจว่าเวลาที่ใครขอยืมรถของท่านไปไหนมาไหนต้องมาบอกว่าใช้งานยังไงทำให้ท่านรู้สึกสบายใจในเรื่องการใช้งานสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานรถที่ติดแก๊ส ในการติดตั้งระบบหัวฉีดนั้นจะมีการตัดสายไฟในรถยนต์ระบบหัวฉีดน้ำมันของท่านและทำการต่อพ่วงกับสายไฟของระบบแก๊สเข้าไป(แต่ในอู่ที่มีความชำนาญในการติดตั้งและมีมาตรฐานในการติดตั้งจะไม่มีการตัดสายไฟในรถยนต์ของท่านแม้แต่เส้นเดียว)ในบางอู่มีการตัดสายปั้มติ๊กออกด้วย (อู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐานจะไม่ตัดปั้มติ๊ก)และมีการเจาะท่อร่วมไอดีโดยที่ไม่มีการถอดออกมาจากตัวเครื่องยนต์เพื่อทำการเจาะอาจมีเศษจากการเจาะท่อร่วมไอดีนั้นตกลงไปในระบบของเครื่องยนต์(ในอู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐานจะไม่มีการถอดท่อร่วมไอดีเพราะว่าไม่อยากจะทำให้ตัวปะเกนเสื่อมคุณภาพเพราะว่าการถอดออกมาในแต่ละครั้งจะทำให้ตัวปะเกนสึกหรอ แต่ใช้แรงดันลมที่มีความแรงเป็นอย่างสูงอัดเข้าไปในเครื่องยนต์เวลาเจาะท่อร่วมไอดีจะไม่มีเศษที่เกิดจากการเจาะลงไปในท่อร่วมไอดีอย่างแน่นอนเพราะว่าแรงดันลมจะดันเศษเหล่านั้นออกมาทันทีที่เจาะทะลุ)ส่วนตัวหม้อต้มทำการยึดติดกับส่วนที่คิดว่าสามารถยึดได้อย่างแน่นหนาในบางอู่ทำการยึนหม้อต้นไว้ด้านล่างซึ่งห่างจากตัวท่อไอเสียไม่เท่าไรเองซึ่งเป็นการติดตั้งหม้อต้มที่ไม่ค่อยจะถูกหลักวิศวะกรรมซักเท่าไร การเดินชุดสายไฟจะเดินจากด้านนอกไปหาด้านในแต่ในรถบ้างรุ่นจะต้องทำการตัดยางที่เป็นชุดที่สอดสายไฟของเครื่องยนต์เดิมเพื่อที่จะใส่สายไฟของระบบแก๊สเข้าไปส่วนใหญ่หลังจากตัดขยายแล้วจะใช้ซีลีโคนหรือขี้หมา(ไอ้ที่ช่างแอร์ใช้อุดรูรั่วนะ)เข้าไปแทนที่ซึ่งวัสดุเหล่านั้นมีวันหมดอายุการใช้งานได้(แต่ในอู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐานจะเจาะใส่ที่อยู่ข้างปั้มคลัทซ์และมียางใส่ที่รูที่ทำการเจาะไว้เพื่อกันกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ ป้องกันสนิมใส่ส่วนที่ทำการเจาะ ) มีการเจาะที่คอนโซนหน้าของรถ เพื่อติดตั้งสวิทช์ควบคุมการทำงานของแก๊สและบอกประมาณแก๊สที่เหลือแต่ตรงส่วนไหนของคอนโซนนี้แล้วแต่อู่นะครับ หรือไม่ก็จะไปเจาะแถวๆใต้พวกมาลัย ( แต่ในอู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐาน จะดูว่าตรงช่องด้านข้างรถที่มีล็อคให้ใช้งานว่างอยู่ไหมถ้าว่างจะติดตั้งที่ส่วนนั้นแต่ถ้าไม่มี ในรถบางรุ่นจะติดตั้งอยู่ข้างขวาตรงที่โค้งๆที่ไม่มีอะไรขวางและเป็นที่สังเกตุได้ง่ายหรือไม่ก็อยู่แถวคอนสโซนกลางแถวๆเกียร์นั้นละครับอยู่ที่ดุลพินิจของช่างไฟที่ทำการติดตั้ง)
ส่วนงานด้านท้ายรถจะมีการถอดเบาะหลังออกทั้งหมดเพื่อที่จะทำการติดตั้งถังแก๊สได้ง่าย และรื้อพื้นที่อยู่ด้านล่าง(แผ่นไม้ที่ปิดตัวยางอะไหล่)ออกและทำการเจาะเพื่อฝังหรือเชื่อมหัวน็อตความแข็งแรงในการยึดขาถังตัวขาถังแก๊สนั้นส่วนใหญ่เป็นเหล็กฉากทำการเชื่อมและพ้นสีซะเป็นส่วนใหญ่(อู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐานเฉพาะบางอู่นะครับเพราะว่าแต่ละอู่ที่มีมาตรฐานก็มีการคิดแบบของตัวขาที่ยึดถังแก๊สแตกต่างกันไป อู่ที่ขาถังสวยๆ ก็ต้อง อู่NGV&LPG AUTO GAS (อ๋าเซอร์วิส) บางอู่ได้ทำการสั้งซื้อขาถังรุ่นนี้ไปใช้ติดตั้งที่อู่เพื่อความสวยงานแก่ลูกค้า จนมีผู้อื่นได้ทำการลอกเลียนแบบ ลักษณะของขาถังเป็นเหล็กแบบกลมต่อเชื่อมและนำไปทำการชุดเคลือบกันสนิมและนำไปพ้นสีในโรงงานอบสีจึงมีความสวยงามและคงทนแข็งแรง)
มีการเจาะตัวรถเพื่อทำการติดตั้งท่อปากฉลาม(เวลารถวิ่งลมจะเข้าไปที่รูปากฉลามนี้และทำการถ่ายเทอากาศภายในตัววาล์วถังซึ่งถ้าเกิดการรั่วซึมจะทำให้ไม่มีกลิ่นของแก๊สเข้าไปในห้องโดยสารอย่างที่มีบางท่านกลัวหลังจากติดตั้งขาถังและถังแก๊สเรียบร้อยก็มาทำการเดินท่อแก๊สที่ใต้ท้องรถอู่ที่ติดตั้งส่วนใหญ่ใช้จะใช้ท่อแอร์ไทยนำมาหุ้มสายยางในการติดตั้ง(อู่ที่มีความชำนาญและมาตรฐานจะใช้ท่อแก๊สที่หุ้ม PVC ที่ใช้กับ LPG โดยเฉพาะที่สั่งนำเข้าจากประเทศอิตาลีซึ่งเท่าที่ทราบในอู่ที่ใช้ท่อแก๊สนำเข้ามาจากอิตาลีนี้อยู่ไม่กี่อู่เท่านั้นเนื่องจากมีราคาแพงทำให้ขาดทุนกำไลในการติดตั้งเป้นจำนวนมากเลยไม่ค่อยมีอู่ที่นิยมใช้ การเดินสายท่อแก๊สส่วนใหญ่จะเดินโดยที่ให้แนบไปคนละทางหรือทางเดียวกันกับท่อน้ำมัน (ในอู่ที่มีความชำนาญและมีมาตรฐานจะเดินท่อแก๊สขนานกับตัวท่อส่งน้ำมันโดยที่จะทำการถอดตัวล็อคของท่อส่งน้ำมันและนำท่อแก๊สใส่เข้าไปแล้วล็อคคืนในตำแหน่งเดิม)จึงมั่นใจได้ว่าตัวท่อแก๊สจะไม่มีการโดนข่วนนอกจากรถยนต์ที่มีการโหลดไว้ต่ำกว่ามาตรฐานแต่จริงแล้วมีโอกาสน้อยมากว่าท่อแก๊สจะข่วน เพราะว่าส่วนที่ยึดติดไว้นั้นมีถ้ามีการข่วนรถยนต์ที่ใช้งานน้ำมันอยู่เดิมก็คงเจอปัญหาเรื่องนี้แล้ว จากนั้นก็แค่ทำการต่อปลายท่อเข้ากับหม้อต้มและตัววาล์วที่ถัง และตัดแต่งไม้ที่ใช้ปูด้านในของประโปงหลังซึ่งบางร้านไม่สนใจใส่ส่งเข้าไปเลยไม่มีการตัดแต่งให้พอดีกับตัวรถที่มีการติดตั้งข้างหลังและต้องสามารถนำยางอะไหล่ออกได้ก็เป็นอันจบการติดตั้งในขึ้นต้นทั้งหมด มีเรื่องที่ต้องจดจำไว้หน่อยนะครับเกี่ยวกับข้อกำหนดของทางกรมขนส่งทางบกเกี่ยวกับการติดตั้งแก๊ส คือ ตัวถังแก๊สต้องมีระยะห่างจากประโปงท้ายประมาณ 30 ซ.ม.ขึ้นไป ต้องนำยางอะไหล่ออกมาใช้งานได้เหมือนปกติ (มีข้อยกเว้นในรถเล็กเช่น แจ๊ส ฯ) ตัวถังแก๊สที่ติดตั้งต้องเป็นถังที่ผ่าน ม.อ.ก.และผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ถ้าไปติดตั้งถังแบบโดนัทหรือถังนำเข้าก็เป็นอันว่าตรวจขนส่งไม่ผ่านแน่นอน ถ้าคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอสามารถจับกุมและยึดรถไว้ดำเนินคดีได้ทันที
โดยไม่มีข้อต่อลองใดทั้งสิ้น ต้องมีใบรับร้องวิศวะ จาก วิศวะกรที่สอบเป็นสามัญวิศวะกรแล้วและมีการรับรองจากกรมขนส่งทางบก เท่านั้น (ในอู่ที่มีมาตรฐานนั้นจะมีวิศวะกรมาทำการตรวจเพื่อออกใบรับรองทุกวันเสาร์แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์จึงมั่นใจได้ว่าในทุกๆใบรับรองวิศวะไม่มีการปลอมแปลงและมีการตรวจสอบและ QC จากวิศวะกรจริงอย่างแน่นอน)ในบางอู่สามารถออกใบรับรองให้ได้ทันทีโดยที่รูปวิศวะกรที่ได้ออกใบรับรองให้กับผู้ที่ตรวจสอบเป็นคนละคนกันแล้วไม่ได้เรียนจบมาในสาขาวิศวะกรรมเครื่องกล หรือ ยานยนต์เลยแม้แต่น้อย หรือเรียกอีกอย่างว่า การซื้อใบรับรองเพื่อที่จะมีไว้ให้ลูกค้าแต่บางครั้งเมื่อนำไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งทางบก(จตุจักร)นั้นไม่ผ่าน หรือมีความผิดพลาดเรื่องหมายเลขของถังแก๊สไม่ตรง ต้องทำการขอใหม่และทำการแจ้งขอตรวจใหม่(สำหรับเลขถังแก๊สไม่ตรงกัน) แต่ถ้าการติดตั้งของอู่ที่ท่านได้รับการติดตั้งมาแล้วเป็นอู่ที่ไม่มีมาตรฐานจริงๆแล้วทำการซื้อใบรับรองวิศวะหรือปลอมแปลงขึ้นมา เวลาที่เพื่อนสมาชิกนำรถไปแจ้งเปลี่ยนสถานะการใช้เชื้อเพลิงจะมีการตรวจสอบว่ารถที่ติดตั้งมานั้นถูกต้องมามาตรฐานที่ทางกรมขนส่งทางบกให้กำหนดไว้หรือไม่ ถ้าผลออกมาว่าฝากก็สบายไป แต่ถ้าไม่ฝากท่านต้องนำรถยนต์ของท่านไปทำการปรับปรุงแก้ไขให้ผ่านมาตรฐานของทางกรมขนส่งทางบกถ้าผมจำไม่ผิดนะครับมันจะต้องแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานให้แล้วเสร็จและเข้ารับการตรวจสอบในครั้งที่ 2 ไม่เกิน 15 วันนับตั้งแต่วันที่นำรถเข้ามาตรวจสอบแล้วไม่ผ่านออกไป ทำให้เสียเวลาไปอีก ถ้าทำแล้วยังตรวจไม่ผ่านอีกก็งานเข้าแล้วละครับ
อีกเรื่องที่สำคัญนะครับ ในการตัดสินใจเลือกอู่หรือศูนย์รับติดตั้งแก๊ส ให้มองหาสัญญาลักษณ์ของทางสมาคมติดตั้งแก๊สไทย หรือสอบถามอู่หรือศูนย์รับติดตั้งแก๊สนั้นๆ ว่ามีหนังสือคู่มือ หรือ เซอร์วิสบุ๊ค ให้หรือไม่หลังจากติดตั้งกับทางอู่หรือศูนย์ติดตั้งแก๊สเหล่านั้นแล้ว ถ้าผลออกมาปรากฏว่า ไม่มี ก็ขอให้เลือกใช้บริการติดตั้งกับร้านที่มีเถอะนะครับ เพราะว่าอู่เหล่านั้นอาจจะไม่ได้มาตรฐานการติดตั้ง หรือไม่มีความชำนาญในการติดตั้ง เวลาเพื่อนสมาชิกไปติดตั้งแล้วถ้าเกิดปัญหาอะไร ถ้าทางอู่หรือศูนย์บริการนั้นไม่รับผิดชอบในการแก้ไขปรับจูนให้กับท่านแล้ว ท่านก็ต้องมาแก้ปัญหาเองด้วยการหาอู่หรือศูนย์ติดตั้งแก๊สอื่นเพื่อทำการปรับปรุงระบบแก๊สของท่านซึ่งจะทำให้ท่านสิ้นเปลื่องค่าใช้จ่ายไปอีกเท่าใดก็ลองนึกภาพกันเอาเองนะครับ

ในตัวหนังสือคู่มือ หรือ เซอร์วิสบุ๊ค มีสิทธิประโยชน์มากมายที่ทางสมาคมติดตั้งแก๊สไทยทำออกมาเพื่อที่จะให้ผู้ที่สนใจที่จะติดตั้งแก๊สเข้ารับการติดตั้งกับอู่ที่ได้มาตรฐานและมีความชำนาญในการติดตั้งแก๊ส เพื่อลดปัญหาเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับอู่ที่ไม่ได้รับมาตรฐานการติดตั้ง ซึ่งทางสมาคมติดตั้งแก๊สไทยก็ไม่สามารถเอาผิดอะไรอู่จำพวกนี้ได้เลย เพราะว่าอู่พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับทางสมาคมจึงไม่สามารถเข้าไปดูแลเรื่องมาตรฐานการติดตั้งได้แต่อย่างใด เลยต้องทำตัวเซอร์วิสบุ๊คขึ้นมาเพื่อรับรองอู่ที่ได้มาตรฐานของทางสมาคมเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ในการติดตั้งแก๊สจากอู่ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางสมาคม ซึ่งสิทธิประโยชน์ของตัวเซอร์วิสบุ๊คมี ดังนี้

1. เป็นหนังสือคู่มือเกี่ยวกับการใช้งานรถที่ติดตั้งแก๊ส LPG หรือ NGV พร้อมวิธีบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่รับการติดตั้งแก๊สแล้ว
2. ประกันภัยจาก บ. วิริยะประกันภัย เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแก๊ส วงเงินประกันอยู่ที่ 250,000 บาท
3. เข้ามาตรวจดูระบบแก๊สที่ได้ทำการติดต้งไปแล้วตามระยะทางที่ได้ระบุไว้ในเซอวิสบุ๊ค เช่น คือ 1,000 2,000 3,000 5,000 10,000 และ 20,000 ตามลำดับ จึงหมั่นใจในสเรื่องการตรวจสอบการรั่วซึมของอุปกรณ์แก๊ส การปรับจูนที่จะดีขึ้น ในแต่ ครับที่เข้ามาทำการตรวจสอบเรื่อง
4. สมาชิกจากคาร์เวอร์คลับอีก 1 ปี ซึ่งจะยกรถของท่านฟรีเมื่อรถท่านเกิดปัญหาเช่น รถไม่ติดสตาทก็ไม่หือไม่อือโทรเรียกหรือขอความช่วยเหลือด้านเทคนิคหรือด้านอื่นๆ ถ้าเกิดมีปัหา จริงๆนะผมสนใจจะให้คนเข้ามาดู
ได้เลยนะครับที่เบอร์ 0834329197 ทุกเวลาครับยินดีที่จะตอบข้อสงสัยของเพื่อนสมาชิกตลอด เอาเป็นว่าก็ลองไปเลือกดูอู่ที่ได้มาตรฐานของสมาคมแก๊สไทยกันนะครับ

นี้คือคำถามที่ผมได้รับการสอบถามมาบ่อยครั้งเลยนำมาลงไว้ให้เป็นความรู้กันนะครับ
รู้จักกับ LPG & NGV
ภาวะที่น้ำมันแพงขึ้นในปัจจุบัน จากราคาลิตรละ 15-17 บาทในอดีต ได้ถีบตัวขึ้นเกือบจะ 30 บาท ทำให้เกิดความเดือนร้อนกันทั่วหน้าเนื่องจากรายได้เกือบครึ่งหนึ่งได้ถูกจ่ายออกไปกับค่าน้ำมันรถ การหาพลังงานมาเพื่อทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงจึงมีความจำเป็น พลังงานที่ช่วยในการทดแทนที่ได้ดีและเป็นที่นิยมเลือกใช้คือ แก็สธรรมชาติ NGV และก๊าซหุงต้ม LPG โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 50-60% ซึ่งก๊าซทั้งสองชนิดมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน




แก๊สธรรมชาติ NGV / CNG
แก๊ส NGV หรือ CNG เป็นแก๊สที่ได้มาจากการขุดเจาะตามแหล่งต่าง ๆ เช่น จากอ่าวไทย จากแม่เมาะ จากน้ำพอง เจาะขึ้นมาได้จะอยู่ในรูปของแก๊สและมีความดันสูง ประมาณ 3,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว นำมาใช้งานด้วยการเดินท่อเข้า สู่ปั้มหัวจ่ายเท่านั้นไม่คุ้มค่าหากใช้การขนย้ายโดยทางรถบรรทุก

-ข้อดีคือ
ราคาถูกกว่า เมื่อรั่วไหลออกมาจะระเหยทันที ไม่มีสีและกลิ่น

-ส่วนข้อเสีย
มีอันตรายอาจระเบิดได้หากใช้ถังที่ไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากมีความดันสูงมาก ๆ มีผลต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ เนื่องจากยังไม่ผ่านการกลั่น หาปั้มเติมลำบาก เนื่องจากการขยายสถานีบริการจะต้องเดินท่อเท่านั้น ต้องใช้เวลาอีกนานมาก กว่าจะขยายครอบคุมพื้นที่ และทุนในการเปิดสถานีบริการประมาณ 50 ล้าน เหมาะที่จะนำไปใช้งานกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ วิ่งได้ระยะทางใกล้ๆ




ก๊าซหุงต้ม หรือ LPG
เป็นก๊าซที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันมีมากมาย และมีการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศมากกว่า 1 ล้านลิตรต่อวัน ความดันของ LPG ประมาณ 80 ปอนด์/ตร.นิ้ว สามารถขนย้ายด้วยรถบรรทุกได้เนื่องจากเป็นของเหลว

-ข้อดีคือ
เนื่องจากอยู่ในรูปของเหลว และมีความดันน้อยกว่าจึงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มี น้ำหนักมากเกินไป มีสถานีให้บริการทั่วประเทศมากกว่า 200 สถานี วิ่งได้ระยะทางมากกว่า ราคาค่าติดต้นถูกกว่า NGV อันตรายจากการระเบิดมีน้อยกว่า เนื่องจากผ่านการกลั่นแล้วจึงทำให้การชำรุดของเครื่องยนต์มีน้อยกว่า

-ส่วนข้อเสีย
เมื่อมีการรั่วใหลออกมาจะเป็นไออยู่กับบริเวณพื้น เนื่องจากน้ำหนักมากกว่าอากาศ อาจติดไฟได้ และมีกลิ่นแก๊สไข่เน่าที่ใส่ไว้เพื่อเช็คการรั่วของแก๊ส ราคาจะแพงกว่า NGV ประมาณ 2-3 บาท




คำถามเกี่ยวกับการติดแก๊ส ?
ติดแก๊สแล้วจะมีกลิ่นแก๊สในห้องโดยสารหรือไม่ ?
กลิ่นแก๊สที่มีเนื่องจากรถที่ติดส่วนมากใช้อุปกรณ์เก่า..และราคาถูกของที่ใช้ส่วนใหญ่ใช้ของเก่ามือสอง เช่นในรถแท็กซี่ และเอาหัวเติมแก๊สไว้ที่กระโปรงหลัง เมื่อเติมแก๊สเต็มแล้วตอนถอดหัวเติมออกจะมีแก๊สฟู่ออกมา แล้ววิ่งออกไปเนื่องจากยังมีแก๊สค้างอยู่จึงมีกลิ่นแก๊สซึมเข้ามายังห้องโดยสาร ส่วนการติดแก๊สในรถบ้านจะใช้อุปกรณ์ใหม่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด และชุดเติมแก๊สจะติดเอาไว้ด้านล่าง..จึงทำให้ไม่มีกลิ่นแก๊สเหมือนที่คนเข้าใจ

ติดแก๊สแล้วเครื่องยนต์จะพังหรือสึกหรอเร็วหรือไม่ ?
การติดแก๊ส LPG เป็นการเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้กับรถยนต์ ปกติรถเวลาเต็มน้ำมันค่าการเผาไหม้จะเท่ากับ 91 หรือ 95 ส่วนแก๊สจะมีค่าประมาณ 115 ดังนั้นการใช้แก๊สจึงไม่มีอันตรายกับเครื่องยนต์ แต่การเผาไหม้ถ้าเป็นน้ำมันจะมีสารบางอย่างตกค้าง ส่วนแก๊สจะเผาไหม้ได้ทั้งหมดจึงทำให้เครื่องยนต์สะอาดแต่ในการใช้งานจริงควรจะมีการใช้น้ำมันบ้างประมาณ 10% และการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นควรเปลี่ยนเร็วกว่าเดิม เช่น จากเดิม ทุก 5,000 กม. มาเป็นทุกๆ4,000 กม. นั่นคือเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเร็วขึ้น

ติดแก๊ส LPG ในรถยนต์มีกี่แบบและราคาเท่าไหร่ ?
การติดแก๊ส LPG ในรถยนต์ ทีเป็นที่นิยมในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบบ และแต่ละแบบก็มีระบบการทำงานและราคาในการติดตั้งแตกต่างกัน ดังนี้
1 . การติดแบบ FIX MIXER
เป็นระบบที่คนรู้จักมากที่สุดและราคาต่ำสุด เนื่องจากระบบนี้ใช้อุปกรณ์น้อยกว่าระบบอื่นมีไม่กี่ชิ้น เมื่อติดแล้วใช้งานนาน ๆ ไปชอบมีปัญหา เช่น เบาดับ หรือวิ่ง ๆ ไปเครื่องรวน เนื่องจากระบบอากาศ และ แก๊สที่เข้าไปในห้องเผาไหม้จะมีค่าคงที่ ราคาที่ติดตั้งอยู่ระหว่าง 14,000 - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ เป็นระบบที่มีรถที่มีเครื่องยนต์แบบคาบู

2 . การติดแบบ MIXER แปรผัน หรือ Variable Mixer
เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาแทนแบบ Fix Mixer โดยการเอาอากาศและแก๊สเข้ามาผสมกันในสัดส่วนที่แปรผันตามอัตราการเร่งของเครื่องยนต์ โดยตัวผสมที่เรียกว่า Variable Mixer จึงทำให้แก้ปัญหาการเบาดับ และวิ่งๆ ไปแล้วเครื่องรวนหายไป การปรับจูนเครื่องจะเร็วขึ้นและป้องกัน Black Fire ได้ดีกว่าระบบแรก ส่วนมากราคาติดตั้งอยู่ที่ระหว่าง 25,000 - 27,000 บาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้

3 . การติดแบบ Lambda Control
เป็นระบบที่ใช้กล่องควบคุมเข้ามาสั่งการในการจ่ายแก๊สให้กับรถยนต์ ซึ่งระบบนี้จะมีการทำงานแตกต่างจากแบบที่ 1 และ 2 ในระบบเครื่องจะเก็บค่าการเผาไหม้ย้อนมาประมวลผลและควบคุมการจ่ายแก๊ส ระบบนี้จะมีค่าใกล้เคียงกับการใช้น้ำมันมากที่สุด ราคาติดตั้งประมาณ 27,000 - 30,000 บาท

4 . การติดแบบหัวฉีด หรือ Injection
เป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดเนื่องจากการทำงานจะมีกล่อง ECU เหมือนกล่อง ECU ของน้ำมัน และการติดตั้งจะต้องเจาะที่ท่อไอดีของรถยนต์ในตำแหน่งที่ใกล้กับหัวฉีดน้ำมัน และฝังหัวฉีดแก๊สเข้าไป การจ่ายแก๊สจะเข้าทีละสูบจึงทำให้การใช้งานเหมือนกับน้ำมันทุกประการ แต่ระบบนี้จะมีค่าติดตั้งแพงเนื่องจากต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการตั้งค่า ราคาติดตั้งอยู่ที่ระหว่าง 40,000 - 46,000 บาท

ติดแก๊สแล้วประหยัดได้มากน้อยแค่ใหนคุ้มค่าหรือไม่ ?
รถยนต์ที่ติดแก๊สจะมีอัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับการใช้น้ำมันเพียงแต่ราคาของแก๊สจะถูกกว่า 2.5 เท่าในปัจจุบัน (แก๊ส LPG 9.50 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันประมาณ 28 บาท/ลิตร ราคาที่กรุงเทพฯ ) จึงทำให้เมื่อเปลี่ยนมาใช้แก๊สแทนน้ำมัน ทำให้ประหยัดเงินมากกว่า 50 - 60 %

จะหาที่เติมอยากมั้ย เวลาไปต่างจังหวัดจะเติมแก๊สได้ที่ใหน ?
เนื่องจากแก๊สที่ใช้เป็นแก๊ส LPG หรือแก๊สหุงต้มที่มีใช้ทั่วไป ดังนั้นจึงหาเติมได้ง่าย และในปัจจุบันมีปั้มแก๊ส LPG ทั่วประเทศมากกว่า 200 ปั้ม และในเวลาอันใกล้นี้จะมีปั้มแก๊สเกือบทุกจังหวัด ถ้าไม่มีก็สามารถเติมได้ตามสถานีจ่ายแก๊สใกล้บ้านของท่าน (สอบถามข้อมูลจากร้านที่ท่านติดตั้งได้ หรือหาข้อมูลจาก GASTHAI.COM ซึ่งมีข้อมูลที่เกี่ยวกับแก๊สในทุกแง่ทุกมุม)

ติดแก๊สแล้วเวลารถเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ระเบิดหรือไม่ ?
เนื่องจากถังแก๊สที่ใช้สำหรับการเติมของระบบ LPG จะเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน มอก. ทุกใบ และมีความหนามากกว่าถังแก๊สหุงต้มตามบ้าน ปกติแล้วแรงดันของแก๊ส LPG จะมีค่าประมาณ 120 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว แต่ถังที่บรรจุจะทนแรงดันได้ประมาณ 1200 ปอนด์/ตร.นิ้วและที่ถังบรรจุทุกใบจะมีระบบ วาล์วเซฟตี้ เมื่อเกิดแรงดันมาก ๆ จะทำให้แก๊สไหลออกไปจนหมด แต่ที่มีข่าวการระเบิดขึ้นนั้น เนื่องจากมีผู้ไม่รู้นำเอาถังที่ไม่ใช่ถังบรรจุแก๊สมาบรรจุเมื่อมีแรงดันมาก ๆ จึงทำให้แตกออกมา และไม่ต้องกังวลใจเนื่องจากถังที่บรรจุแก๊สในรถ จะเป็นอุปกรณ์ที่มีความแข็งแรงมากที่สุดกว่าทุกชิ้นส่วน ดังนั้นถังแก๊สจะพังเป็นชิ้นสุดท้ายถ้าหากเกิดเหตุ

ก็นั้งพิมพ์ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้งให้เพื่อนสมาชิกไว้หมดแล้วนะครับ คงจะไม่มีอะไรแล้วมั้งครับ เพราะว่านี้สาระที่ผมบรรยายในการมิตติ้งและถามตอบปัญหาและวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ที่กำลังจะติดตั้งแก๊ส หรือติดตั้งแก๊สไปแล้วมีปัญหา ผมก็ได้บอกวิธีแก้ปัญหาในรู้แบบปัญหาแต่ละปัญหาของท่าน จากประสบการณ์การติดตั้งแก๊สและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับการให้ความรู้ผู้ที่จะติดตั้งแก๊สเพื่อให้นำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกอู่ที่ดีมีความชำนาญในการติดตั้งเป็นอย่างดี และที่สำคัญต้องได้มาตรฐาน ในการติดตั้ง เพราะว่านั้นคือความปลอดภัยของ ชีวิตและทรัพย์สินของตัวเพื่อนสมาชิกไม่ใช่ของตัวผม เพราะงั้นสิ่งที่ผมพอจะทำได้คือ บอกว่าให้เข้าไปติดตั้งในอู่ที่มีมาตรฐานและมี เซอร์วิสบุ๊คของสมาคมติดตั้งแก๊สไทย เพราะว่าอย่างน้อยๆก็ยังมั่วใจได้ว่าการติดตั้งของอู่นั้นถ้าเกิดปัญหาหรือเกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของเพื่อนสมาชิก ก็ยังรู้ที่มาและหาผู้รับผิดชอบได้ เพราะว่าเป็นอู่ที่ลงทะเบียนกับทางสมาคมจึงมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยหลังการติดตั้งแก๊สไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มา vios-club.com


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!