วิธีวัดเศรษฐี จัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 10:33:27 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีวัดเศรษฐี จัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย  (อ่าน 3718 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2008, 06:48:01 am »



นิตยสาร "ฟอร์บส์" ของสหรัฐ จัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
เป็นข่าวโด่งดังทุกปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2551 ฟอร์บส์เผยแพร่การจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 40 อันดับ

ในภาพรวมมูลค่าของทรัพย์สินของ 40 มหาเศรษฐีเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 6,000 ล้านดอลลาร์

เป็นรวมทั้งสิ้น 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 825,000 ล้านบาท

ที่อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์

และตั้งข้อสังเกตด้วยว่ากลุ่มมหาเศรษฐีทั้ง 40 คน ยังคงเป็นกลุ่มเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุอาจเป็นเพราะความมั่งคั่งที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ

นอกจากนั้น ใน 10 อันดับแรกสุด ประกอบไปด้วยนักธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และธุรกิจสื่อมากถึง 6 คน

อันดับ 1 ก็คือนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง กลับมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของไทยอีกครั้ง มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 136,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 500 ล้านดอลลาร์

อันดับ 2 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของธุรกิจวิสกี้และเบียร์ (เหล้าแม่โขง, เบียร์ช้าง ฯลฯ) ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมพลาซ่า แอทธินี และไอเอ็มเอ็ม อีกด้วย มูลค่าทรัพย์สินรวม 3,900 ล้านดอลลาร์

อันดับ 3 ตระกูลจิราธิวัฒน์ มีกิจการหลายอย่างตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก(ห้างเซ็นทรัล), อสังหาริมทรัพย์, โรงแรม เป็นต้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 2,800 ล้านดอลลาร์

อันดับ 4 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กิจการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,000 ล้านดอลลาร์

อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานและซีอีโอของบริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) และครอบครัว ทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซีเมนต์นครหลวง มูลค่าทรัพย์สินรวม 1,000 ล้านดอลลาร์


ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในอันดับ 16 ทรัพย์สินรวม 400 ล้านดอลลาร์ แม้จะถูกอายัดทรัพย์ หลังถูกกระทำรัฐประหารเมื่อเดือนก.ย.2549 แต่ตัวเลขทางการเงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับวิธีการวัดระดับความร่ำรวย จะอาศัยข้อมูลจากตลาดหลัก ทรัพย์และกระทรวงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าของทรัพย์สินว่าจะเป็นเท่าใด หากนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ในกรณีบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทเอกชนที่ยังไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ใช้ราคาหลักทรัพย์และอัตราแลกเปลี่ยน ณ ช่วงเวลาที่ทำการประเมินเป็นข้อมูลประเมินทรัพย์สิน

และในปีนี้ ฟอร์บส์ยังได้เพิ่มวิธีการจัดอันดับด้วยการรวมบุคคลที่เป็นเครือญาติหรือบริษัทเดียว
กันมาอยู่ในอันดับเดียวกันด้วย ทำให้เศรษฐีบางรายได้เลื่อนลำดับขึ้นจากความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น

ผลสำรวจของฟอร์บส์ชี้ให้เห็นได้ว่า การจัดอันดับมหาเศรษฐีแต่ละปีนั้น การรวยขึ้นหรือทรัพย์สินลดลง ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งบวกและลบทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ

เป็นที่น่าสังเกตว่า เศรษฐีมักประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนระดับรากหญ้า เป็นธุรกิจที่มีอำนาจผูกขาดทางการตลาดสูง
หรือเป็นธุรกิจที่กำลังรุ่ง

และเป็นความมั่งคั่งที่เห็นได้ชัดๆ และสามารถตรวจสอบได้ เช่น การถือครองหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการจดแจ้งทุนจดทะเบียนการประกอบธุรกิจต่อกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ส่วนที่ลึกล้ำกว่านั้นฟอร์บส์คงล้วงไม่เจอ




บันทึกการเข้า

แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2008, 06:52:56 am »

ทำไมพี่น้อยเราไม่ติดอันดับ Sad ยอดขายก้อดีสงสัยปีหน้าแน่ Smiley
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!