พบคนไทยพิการจากอุบัติเหตุจราจรสูงเป็นอันดับ 1

พบคนไทยพิการจากอุบัติเหตุจราจรสูงเป็นอันดับ 1 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้ขณะนี้พบคนไทยพิการ จากอุบัติเหตุจราจรสูงเป็นอันดับ 1 คาดทั่วประเทศมีไม่ต่ำกว่า 50,000 คน เร่งจัดซ้อมมาตรฐานหน่วยแพทย์กู้ชีพผู้ป่วยฉุกเฉินใน 17 จังหวัดในภาคเหนือ ฝึกปฏิบัติแบบแรลลี่สมมุติผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเหมือนจริง 15 ฐาน เพื่อเพิ่มพูนทักษะช่วยชีวิต ป้องกันความพิการซ้ำซ้อน

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่ปฏิบัติงาน ในหน่วยแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล 17 จังหวัดภาคเหนือ 400 คน เพื่อเพิ่มพูน และพัฒนาทักษะ การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่จุดเกิดเหตุ เป็นไปตามมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล จากนั้นได้จัดทดสอบการช่วยชีวิต ผู้บาดเจ็บแบบแรลลี่ โดยจำลองสถานการณ์อุบัติเหตุ จำนวน 15 ฐาน มีคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ฉุกเฉินจากกระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ประเมินมาตรฐาน

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้อุบัติเหตุจราจรของประเทศไทย กำลังเป็นปัญหาที่ทำให้คนไทยโดยเฉพาะที่อยู่ในวัยแรงงานอายุ 15-59 ปี ต้องเสียชีวิต และหยุดงานเพื่อพักรักษาตัวจำนวนมาก ในปี 2548 ทั่วประเทศมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร 976, 357 คน เฉลี่ยบาดเจ็บชั่วโมงละ 107 คน เสียชีวิต 11,041 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน ผลพวงจากอุบัติเหตุจราจร ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยต้องกลายเป็นคนพิการทางสมองและแขนขาตามชุมชนต่าง ๆ สูงเป็นอันดับ 1 คาดว่าขณะนี้มีไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ซึ่งอัตราที่แท้จริงนั้น สธ.อยู่ระหว่างทำการศึกษาวิจัย โดยมอบหมายให้ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติทำการศึกษา จะสรุปผลในปีหน้านี้

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วประเทศ มีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินที่ขึ้นทะเบียนมาตรฐานแล้ว 1,617 หน่วย มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการผ่านการอบรมแล้ว 17,407 คน โดยในปี 2549 ได้ตั้งเป้าหมายจะลดอัตราตายให้ได้ไม่เกินแสนละ 17.8 คน ซึ่งจำเป็นต้องจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ให้มีคุณภาพมาตรฐาน จึงจะบรรลุเป้าหมายได้ และพัฒนาระบบการแจ้งเหตุทางหมายเลข 1669 ให้มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ภายในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าจะลดอัตราการเสียชีวิต ของผู้ป่วยฉุกเฉินทุกประเภท รวมทั้งอุบัติเหตุจากปี 2549 ลงร้อยละ 15 และพัฒนาหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินให้บริการครอบคลุมทุกหมู่บ้าน มีระบบบริการเครือข่ายส่งต่อที่มีมาตรฐานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจะผลิตแพทย์เฉพาะทาง สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอย่างน้อยจังหวัดละ 2 คน เพราะขณะนี้มีแพทย์สาขานี้ ทั่วประเทศเพียง 27 คนเท่านั้น

.. ไปไหนมาไหนระมัดระวังตัวเองด้วยนะจ้า ..