บอกเลยว่าอ่านแล้วดีมากๆ ♥
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 11:45:19 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บอกเลยว่าอ่านแล้วดีมากๆ ♥  (อ่าน 910 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 09, 2023, 08:40:49 am »

เรียนปรึกษาคุณหมอเรื่องในอนาคตค่ะ

ปัจจุบันดิฉันอายุ 46 ค่ะ ไม่ได้แต่งงาน เคยทำงานประจำค่ะ
ตอนนี้ออกจากงานประจำมาแล้วค่ะ
ขายกาแฟ รายได้ 7,000-10,000บาทต่อเดือน
กำลังตัดสินใจวางแผนยามชราค่ะ
และมีความเชื่อศรัทธาในตัวคุณหมอ
เพื่อมีส่วนช่วยชี้แนะการวางแผนในอนาคต
จึงใคร่เรียนถามขอคำชี้แนะ ดังนี้ค่ะ

1. ดิฉันเลือกไม่ถูกค่ะ ว่าจะต่อสิทธิ์ประกันสังคมมาตรา 39 ดี
เพื่อเอาสิทธิ์รักษาพยาบาลต่อไป หรือ  ไปใช้สิทธิ์บัตรทอง
แต่ได้เงินบำนาญจากประกันสังคมเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน
ตอนอายุ 60 ปีถึงตาย

2. จริงๆดิฉันมีน้องชายแท้ๆ 1 คน น้องชายลูกอาที่เลี้ยงมาอีก 1 คน
มีหลานสาวตัวน้อย 2 คนค่ะ...แต่..ใจของดิฉันรับรู้อะไรบางอย่าง
ทำให้ทราบสัจธรรมของชีวิต ว่า
ไม่ควรฝากผีฝากไข้กับใคร ?
ไม่ควรทำตัวเป็นภาระใครยามชรา ..
นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หวังพึ่งคำแนะนำจากคุณหมอค่ะ

3. ยามชราดิฉันควรไปอยู่บ้านพักคนชราไหมค่ะคุณหมอ
จากนี้ไปดิฉันควรคิดและปฏิบัติตนอย่างไรดีค่ะ
คาดหวังเพียงยามชราไม่ลำบาก และมีความสุขค่ะคุณหมอ
................... ................

ตอบครับ

     1. ถามว่าแก่แล้วจะหยุดต่อบัตรประกันสังคม
เพื่อเอาสิทธิบำนาญเดือนละ 3,000 บาท
แล้วไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลจากบัตรทองดีไหม
ตอบว่าดีครับ..
ถ้าทั้งสองระบบนั้นไม่ล่มไปเสียก่อน

     ในคำตอบนี้ผมแยกเป็นสี่ประเด็นนะ

     ประเด็นที่ 1. อะไรคือส่วนที่ดีที่สุดของบัตรประกันสังคม
ตอบว่าบำนาญนั่นแหละครับ
เป็นส่วนที่ดีที่สุดของบัตรประกันสังคม
เพราะในบรรดาเงินประกันสังคมที่เก็บไปทั้งหมด ราว 90%
จะไปเป็นกองทุนชราภาพ ก็คือบำนาญนั่นแหละ
ดังนั้นหากคุณมีสิทธิประกันสังคม
เรื่องอะไรจะทิ้งส่วนที่ดีที่สุดและเป็น 90% ของระบบนี้ไปรับ
แค่สิทธิรักษาพยาบาลซึ่งเป็นแค่ 10% ของระบบละครับ
ว่าที่จริงแล้วการมีมาตรา 39 คือเปิดให้ผู้ชราต่อสิทธิ
ได้ด้วยการเป็นผู้ประกันตนเองนั้น
เป็นลูกเล่นที่จะชลอการจ่ายบำนาญนั่นเอง
ถ้าสมาชิกขยันต่อบัตรกันมาก
ก็จะได้ตายไปทั้งๆที่ยังเป็นสมาชิก
ซึ่งต้องจ่ายเงินสมทบทุกเดือนอยู่ซึ่งเป็นการอยู่
ในฐานะ "เป็นผู้เลี้ยงระบบ" แทนที่จะเป็นผู้ร้บบำนาญ
ซึ่งเป็นการอยู่ในฐานะ "ผู้เป็นภาระต่อระบบ"

    ประเด็นที่ 2. การย้ายไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลจากบัตรทอง
กับการใช้สิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคม อะไรดีกว่ากัน
ตอบว่าบัตรทองดีกว่าในแง่ของระบบเครือข่าย
การดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมกว่า
คือเริ่มตั้งแต่พยาบาลเยี่ยมบ้านใกล้บ้านใกล้ใจ
หรือรพ.สต.ขึ้นไปจนถึงรพ.ศูนย์ที่มีขีดความสามารถ
รักษาโรคลึกได้ครบถ้วน
ส่วนประกันสังคมนั้นดีกว่าในแง่สามารถเลือกรพ.เอกชนเป็นรพ.คู่สัญญาได้
(หากมองว่ารพ.เอกชนสวยงามและสะดวกสบายกว่าของรพ.ของรัฐ)
ส่วนคุณภาพการรักษาโดยเนื้อในนั้นไม่ต่างกัน
โหลงโจ้ง ผมมีความเห็นว่าดีพอๆกันครับ
แล้วแต่คนชอบ 

     ประเด็นที่ 3. ทั้งสองระบบมั่นคงไหม ตอบว่าโลกนี้ไม่มีอะไรมั่นคง
ให้คุณอยู่กับปัจจุบันและยอมรับความไม่แน่นอนของอนาคต
สมัยผมเป็นหมออยู่นิวซีแลนด์ซึ่งเป็นประเทศสังคมนิยม
ที่จัดว่าเป็นสวรรค์ของประชาชนระดับรากหญ้าโดยเฉพาะคนแก่
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ประมาณปีค.ศ. 1989 ถ้าจำไม่ผิด
รัฐบาลก็ประกาศเลิกระบบบำนาญประชาชนเสียดื้อๆ
แบบตูม..ม ช็อคซีเนมา ผู้คนร้องแรกแหกกระเฌอกันราวกับว่าโลกจะแตก
เวลาออกตรวจคนไข้ผมต้องเสียเวลาไปกับการฟังคนแก่บ่น
เรื่องการเลิกบำนาญ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรไป
ทุกคนก็ยอมรับกันได้ ที่เล่าให้ฟังนี้เพื่อให้เข้าใจว่า
ขนาดประเทศที่เป็นสังคมนิยมมาแต่อ้อนแต่ออด
ยังเลิกสวัสดิการสังคมได้ ก็ในเมื่อ"เงินมันไม่มี"
จะไม่เลิกได้ไงละครับ

     ประเด็นที่ 4. ในระหว่างสองระบบ ระบบบัตรทองกับประกันสังคม
อย่างไหนมั่นคงกว่ากัน ?
ตอบว่า ระบบบัตรทองมั่นคงกว่า
เพราะผมทำนายว่าหากไม่มีการเปลี่ยนกฎกติกา


ระบบประกันสังคมไปได้อย่างเก่งก็อีกไม่เกิน"สามสิบปี"

เพราะตามข้อมูลเท่าที่เปิดเผยออกมา
เราเริ่มจ่ายบำนาญในปี พ.ศ. 2557 ปีแรกก็มีคนรับบำนาญราว 1.3 แสนคน
จ่ายเงินไป 4,700 ล้านบาท คำนวณแบบง่ายๆพอไปถึงปี 2587
เงินออก (20% ของค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้าย)
ก็จะเริ่มมากกว่าเงินเข้า (ฝ่ายละ 3%ของค่าจ้าง)
แปลไทยให้เป็นจีนว่า "บ้อจี๊"
และถ้าคุณแอบเงี่ยหูฟังเวลารมต.หรือผู้รับผิดชอบให้สัมภาษณ์
กี่คนต่อกี่คน พูดกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ก็จะพูดเหมือนกันหมดตรงที่มีความกังวลว่าเบี้ยจะไม่พอจ่าย

     ส่วนระบบบัตรทองนั้นก็ใช่ว่าจะมีเงิน
ว่าไปแล้วก็ยากจนกว่าระบบประกันสังคมเสียอีก
แต่ผมทำนายว่าจะมั่นคงกว่าเพราะมันเป็นระบบถูลู่ถูกัง
เนื่องจากเมืองไทยนี้เป็นประเทศของนักร้อง
ระบบการเมืองของเราไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลทหารหรือรัฐบาลเลือกตั้ง
ล้วนต้องอาศัยการสนับสนุนจากประชาชนซึ่งเป็นนักร้อง
ไม่มีใครกล้าแตะระบบบัตรทองเพราะกลัวนักร้อง
ทุกครั้งที่เปลี่ยนรัฐบาล คืออย่างน้อยก็สามรัฐบาลที่ผ่านมา

ผมเขียนจดหมายถึงผู้มีอำนาจให้ออกกฎหมายจัดเก็บเงิน
เบี้ยสุขภาพเอาจากคนรวยและหันมาใช้เงิน
ไปกับการส่งเสริมสุขภาพให้มากขึ้น
เพื่อให้ระบบอยู่ได้ แต่ทุกรัฐบาลก็..เงียบ
เพราะเขากลัวนักร้อง จึงคงต้องทนถูลู่ถูกังกันไปอย่างนี้
อย่างมั่นคงชั่วกัลปาวสาน
เรียกว่าเป็นความมั่นคงแบบไทยๆ

     2. ถามว่าความจริงก็พอมีหลานพอให้พึ่งได้
แต่มีความคิดว่าไม่ควรไปฝากผีฝากไข้กับใคร ?
คิดอย่างนี้ถูกต้องไหม
ตอบว่า ถูกต้องแล้วครับ
เพราะคนรุ่นหลังตัวเขายังเอาตัวเขาเองไม่รอดเลย
แล้วคุณจะไปหวังพึ่งเขาได้อย่างไร


     3. ถามว่ายามชราควรไปอยู่บ้านพักคนชราดีไหม
ตอบว่าไม่ดีหรอกครับ เพราะในยุโรปและอเมริกาตอนนี้
เตียงรับดูแลผู้สูงอายุล้วนว่างลงเพราะไม่มีคนเข้า
คนแก่ทุกวันนี้หนีสถาบันดูแล
เพราะคุณภาพชีวิตของการอยู่ในสถาบันดูแลผู้สูงอายุ
สู้คุณภาพชีวิตของการใช้ชีวิตในชุมชนไม่ได้
ดังนั้นหากคุณมีที่อยู่อาศัยของตนเองอยู่ในชุมชนอยู่แล้ว
ผมแนะนำให้คุณอยู่ในชุมชนนั่นแหละ
บ้านมันใหญ่เกินกำลังตัวเองคุณก็ขายไปซื้อที่มันเล็กลงพออยู่ได้
อย่าไปห่วงว่าเวลาตายจะไม่มีใครมาดูใจ
โถ จะตายอยู่แล้วยังห่วงนั่นห่วงนี่อีกหรือ ?

โครงสร้างของชุมชนในประเทศเรา
เป็นระบบสนับสนุนคนแก่โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
และระบบบัตรทองเองก็ครอบคลุม
ตั้งแต่การดูแลที่บ้านเลยทีเดียว
มีการลงทะเบียนคนแก่ในเขต รพ.สต.ใกล้บ้าน
มีทีมงานเยี่ยมบ้านคนแก่เป็นระยะๆ
ถ้าเป็นแผลนอนกดทับก็มีทีมทำแผลระดับมืออาชีพ
เอาเครื่องมือมาทำแผลให้ถึงบ้าน
โดยที่คุณก็ยังได้อยู่บ้านของตัวเองที่ตัวเองรักและคุ้นเคย
นี่เป็นระบบดูแลสุขภาพในวัยชราที่ดีที่สุดแล้ว

     เมื่อเดือนก่อนผมขับรถขี้นเหนือ
ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมบ้านพักคนชราของ
กรมประชาสงเคราะห์กับอบจ.เชียงใหม่ซึ่งสร้างไว้ที่ อ. แม่แตง
สถานที่แห่งนั้นแยกเป็นสองส่วน
ส่วนหนึ่งเป็นคล้ายโรงพยาบาลผู้สูงอายุ
ซึ่งรับเอาผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นั่น
ส่วนนี้เรียกว่าเป็น nursing home นั่นเอง
ส่วนนี้ไม่มีอะไรที่ผมจะพูดถึงเป็นพิเศษ
เพราะก็เหมือนกับรพ.ผู้สูงอายุทั่วไป

     อีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนที่ชาวบ้านแถบนี้เรียกว่า "บ้านคุณนาย"
คือเป็นโซนบ้านพักในรูปแบบที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า
"independent living"

ผู้อยู่อาศัยต้องออกเงินสร้าง
เมื่อตัวเองตายแล้วก็ตกเป็นของรัฐเพื่อให้คนอื่นเข้ามาอยู่ต่อ
โลเคชั่นที่ตั้งของสถานที่ดีมากไม่มีที่ติ
อากาศเย็นสบาย อยู่ในป่าไม้ ชุ่มฉ่ำ ใกล้ชิดธรรมชาติ
บ้านแต่ละหลังก็สร้างอย่างถาวร อยู่ใกล้กันพอดีๆไม่แน่นไม่ห่าง
ถนนหนทางภายใน น้ำไฟ รัฐบาลลงทุนให้อย่างดีหมด
แต่.. ชุมชนมันไม่มีชีวิต นึกภาพถ้าผมเป็นคนแก่
จะให้ผมมาอยู่ในที่แบบนี้ ผมไม่เอานะ
ผมขอไปอยู่ในสลัมที่ผัวเมียทะเลาะกันส่งเสียงเอะอะ
มีเด็กวิ่งเล่นเกะกะเจี้ยวจ๊าวดีกว่า
เพราะแม้ผมจะแก่ แต่ผมก็ยังมีชีวิตอยู่
ผมจึงต้องการอยู่ในชุมชนที่มีชีวิต
ผมไม่ต้องการอยู่ในชุมชนที่ไม่มีชีวิต

    4. ถามว่าในวัยชราควรดูแลตัวเองอย่างไร
ตอบว่าให้คุณพึ่งตัวเองแบบวันต่อวัน
เปลี่ยนไปใช้ชีวิตในลักษณะที่พึ่งตัวเองได้ 100% เสียตั้งแต่วันนี้
กินอาหารที่มีพืชเป็นหลักและไขมันต่ำ
ออกกำลังกายทุกวัน จัดการความเครียดโดย
หัดวางความคิดลบๆทิ้งไปเสีย
นอนหลับให้ได้ดีโดยไม่ใช้ยา
ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ตากแดด ขุดดิน ฟันหญ้า ปลูกต้นไม้
ใส่ใจที่จะฝึกฝนทำกิจวัตรสำคัญ 
(IADL) เจ็ดอย่าง
และกิจวัตรจำเป็น
(ADL) ห้าอย่าง ให้ได้ด้วยตัวเอง
ให้ได้นานจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

     กิจวัตรสำคัญเจ็ดอย่าง (IADL) ได้แก่

     (1) อยู่คนเดียวได้ หมายความว่าทนเหงาได้
     (2) ขนส่งตัวเอง เช่นเดิน หรือไปขึ้นรถ ได้
     (3) ทำอาหารกินเองได้
     (4) ช้อปปิ้งเองได้
     (5) ปัดกวาดเช็ดถูที่อยู่ตัวเองได้
     (6) บริหารยาตัวเองได้
     (7) บริหารเงินของตัวเองได้


     ส่วนกิจวัตรจำเป็นห้าอย่าง (ADL) ได้แก่

     (1) อาบน้ำแปรงฟันได้เอง
     (2) แต่งตัวสวมเสื้อผ้าได้เอง
     (3) กินเองได้
     (4) อึฉี่เองได้
     (5) เดินเหินได้เอง


นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

 ping!


บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2023, 02:10:53 pm »

 Lips Sealed THANK!! wav!!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!