ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ?คดีบ้านเอื้ออาทร / ‘วัฒนา เมืองสุข’

ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 99 ปี ‘วัฒนา เมืองสุข’
................... ................... ................... .......
สำหรับใครที่สนใจคดีบ้านเอื้ออาทร ผมสรุปมาให้อ่านครับ
ปี 2548 ยุคทักษิณ 2 ยุคที่หลายๆคนจำได้ว่าเป็นรัฐบาลที่ดี
เกิดโครงการดีๆ ชื่อโครงการ "บ้านเอื้ออาทร"
สร้างบ้าน 600,000 หลัง
ขายให้ผู้มีรายได้น้อยในราคา 420,000 บาท
ไอเดียผ่อนบ้านเท่ากับเช่า

โครงการนี้รับผิดชอบโดย การเคหะแห่งชาติ
ภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ม.
ช่วงแรก การเคหะหาที่ดิน มาเองแล้วหาผู้รับเหมาสร้างบ้าน
ใครโชคดีจับฉลากได้บ้านโครงการช่วงนี้ถือว่าเฮง
เพราะที่ดินที่หามาทำเลดี เดินทางสะดวก ไม่เป็นภาระในชีวิต

แต่ด้วยข้ออ้างว่าโครงการขึ้นช้าไม่ทันใจ
เลยเกิดรูปแบบ 2 เรียกโครงการแบบเทิร์นคีย์

เอกชนหาที่ดินมาเสนอ การเคหะร่วมกับเอกชน
ช่วยกันหาผู้รับเหมามาสร้าง
โดยค่าก่อสร้างถูกบีบไว้ที่หลังละประมาณ 366,000
เผื่อกำไรแล้ว 6% ส่วนค่าที่ดินให้มีต้นทุนประมาณไร่ละ 1ล้านบาท

เอาแล้วเริ่มมีช่องทางหาเงิน เอกชนบางเจ้าร่วมมือกับราชการ
เกิดการปั่นราคาที่ดิน หาที่ทำเลแย่ๆ แล้วเอามาขายไร่ละล้าน

เริ่มแก้ระเบียบให้สร้างบ้านแออัดมากขึ้น เช่นลดระยะห่าง
ลดพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ต้นทุนที่ดินต่อโครงการเพิ่มสูงขึ้นได้อีก
จากที่ดินไร่ละห้าแสนก็เอามาปั่นขายล้านนึง
บางโครงการปั่นราคาที่ดินไปล้านห้า
แต่แก้ไขโครงการให้คุ้มทุนโดยเพิ่มจำนวนบ้านไปอีกหลายร้อยยูนิต

ใครได้โครงการนี้ก็จะเริ่มลำบาก คุณภาพชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นมาก
ความแออัดมี ทำเลก็ไม่ดีนัก เดินทางลำบาก
แต่... นี่ไม่ใช่ผลงานทั้งหมดของรัฐบาลดีๆ
คุณวัฒนา รมต.กระทรวงเล็กๆแบบ พม. แต่ไอเดียท่านไม่เล็ก

ท่านให้การเคหะฯ ปรับรูปแบบโครงการเป็นรูปแบบที่สาม
เรียก เทิร์นคีย์แบบโควตา
ให้ผู้ประกอบการยื่นขอโควตาจำนวนบ้านที่จะสร้างกับทางการเคหะ
บริษัททั้งหลายก็ยื่นขอมา ได้โครงการห้าพันหลังบ้าง หมื่นหลัง สองหมื่นหลัง
ตามแต่ความสนิทกับคนในพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลดีๆอยู่
รูปแบบเทิร์นคีย์แบบโควตา ระบุว่าเมื่อได้โควตาแล้ว
ให้การเคหะเหมาจ่ายเลยหลังละ 420,000 แถมให้เงินเบื้องต้นทันที 15%
ของมูลค่าโครงการ ให้ไปบริหารจัดการก่อนเลย
15% นี่เอาไปซื้อที่รอไว้ได้เลยนะ โครงการจบแน่นอน

แต่ บริษัททั้งหลายไม่สามารถเอาเงินไปใช้จ่ายได้ทั้งหมดนี่หล่ะสิ ?
เพราะมีสัญญาใจกับท่าน รมต.ว่าจะให้หัวคิวหลังละ 11,000 บาท
เงินที่ได้งวดแรกตามระเบียบที่ท่านกำหนด
จึงต้องเอามาจ่ายท่านส่วนหนึ่งก่อน
โดยมีเจ้าของบริษัทค้าข้าวชื่อดังอย่างเปี๋ยง มาเป็นคนเคลียร์หน้าเสื่อ

ทำไมต้อง บ.ค้าข้าวหน่ะเหรอ ก็แหม... เงินค่าข้าวมันฟอกง่ายไง
สำแดงส่งออกเท็จก็ได้เงินวนกลับเข้าบัญชีง่ายๆ
เป็นเงินสะอาดฟอกไว้เรียบร้อย กระจายจ่ายกลับทุกผู้ทุกคน
นอกเหนือจากเงินสดที่เก็บเอาไว้ในเซฟหลังบ้าน

ศาลฏีกาคดีนักการเมือง ท่านเห็นหลักฐานหมด
มีบริษัทที่ได้โควตาบ้าน รับเงินมาแต่แยกบัญชีไว้เป็นบัญชี
สำหรับจ่ายค่าดำเนินการ หารกลับไปก็ได้ตัวเลข 11,000
แล้วเงินนั้นก็เดินทางไปสู่บัญชีนักธุรกิจค้าข้าว
แล้วก็วนๆวกๆ ในเครือข่ายนักการเมือง.

คุณภาพชีวิตคนดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้
รู้แต่โครงการบ้านเอื้ออาทรโครงการหลังๆขายไม่ออก
ทำเลไม่ดี ก่อสร้างไม่มีคุณภาพ
กว่าจะเคลียร์ขายออกไปบางแห่ง
ต้องขายขาดทุนเหลือหลังละไม่ถึงสามแสนบาท

บางโครงการบริษัทหนีงาน การเคหะต้องไล่ฟ้อง
กลายเป็นโครงการร้างในหลายๆพื้นที่
นี่แหละ รัฐบาลดีๆ ที่เราต้องรู้ทันและตรวจสอบ
ถามผมว่าอะไรมาก่อนมาหลัง
ระหว่างรัฐบาลดี รัฐธรรมนูญดี หรือ Active citizen ที่รู้เท่าทันจริงๆ

ผมขอ Active citizen ที่เข้าใจและพร้อมตรวจสอบทุกรัฐบาลจริงๆได้ปะ
ต้องรู้เท่าทันและตรวจสอบโดยเฉพาะรัฐบาลที่คุณเลือกเค้าเข้ามากับมือ...
สัญญากับเรานะ

Active Citizen : พลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม

Active Citizen ก็คือคนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
มีบทบาทในชุมชนมีจิตอาสา
(กระทำสิ่งต่างๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนแก่ตนเอง)
และจิตสาธารณะ (มีจิตที่เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก)
ศรัทธาในการรีไซเคิลทรัพยากรเพื่อถนอมสิ่งแวดล้อม
รักสันติภาพ ร่วมบริจาคทรัพยากร
เพราะตระหนักดีว่าเป็นความรับผิดชอบของตน

Cr: พรชัย มาระเนตร์