Cr:
https://mgronline.com/specialscoop/detail/9630000060022เปิดแหล่งขอทุนเกือบ 100 องค์กร
หนุนการศึกษาระดับ ป.ตรี-ป.เอก
ทั้งในและต่างประเทศ ทุนจากหน่วยงานรัฐ
สถาบันการศึกษา บริษัทเอกชน สถาบันการเงิน
มูลนิธิ และสารพัดทุน-
สิทธิประโยชน์จาก 22 ประเทศ 5 ทวีป
การศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญต่อเยาวชน
ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19
ซึ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตามมา
ทำให้หลายครอบครัวมีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน
โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา
ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นการ ขอทุน
จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้ปกครองได้
จากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยนั้นมีองค์กรต่างๆ
ที่สนับสนุนทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี
ถึงปริญญาเอกอยู่มากมายอย่างที่คิดไม่ถึง
ทั้งนี้ จะแบ่งทุนเป็น 2 กลุ่ม
ตามวัตถุประสงค์ในการเรียน คือ
ทุนเพื่อการศึกษาภายในประเทศ
และทุนเพื่อการศึกษาในต่างประเทศ
ทุนเพื่อศึกษาภายในประเทศ ประกอบด้วย
ทุนรัฐบาล เป็นทุนการศึกษาที่ได้จัดสรรงบประมาณจากรัฐมาส่วนหนึ่ง
เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสศึกษาต่อ
ในสาขาที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาด
โดยมีคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.
เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษา
และเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนทุน ซึ่งทุนของรัฐนั้น ได้แก่
- ทุนหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน หรือชื่อใหม่คือ
ทุนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
เป็นทุนการศึกษาที่เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมปลาย
จากทุกอำเภอและกิ่งอำเภอที่มีฐานะยากจน
แต่การเรียนและความประพฤติดี
สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
ทั้งในและต่างประเทศ
โดยประเทศที่นักเรียนเลือกไปศึกษานั้น
ต้องไม่เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
และมีความโดดเด่นเฉพาะด้านทางวิชาการ
ซึ่งนักเรียนทุนที่ได้รับคัดเลือก
จะได้รับการอบรมภาษาและวัฒนธรรม
ของประเทศนั้นก่อนเป็นเวลา 3 เดือน
- ทุนจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ
ซึ่งมีทั้งทุนเพื่อการศึกษาในประเทศ
และทุนศึกษาต่อต่างประเทศ
โดยเงื่อนไขจะเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานนั้นๆ
ซึ่งสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของ ก.พ.
https://www.ocsc.go.th/scholarship/personal
ทุนรัฐบาล เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ทุน สกอ.)
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
- ทุนของกองทัพ นอกเหนือจากทุนของ ก.พ.แล้ว
ยังมีทุนการศึกษาที่สนับสนุนโดยกองทัพต่างๆ
เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาในสถาบันการศึกษาของกองทัพ
โดยผู้ที่ได้รับทุนเหล่านี้ เมื่อจบการศึกษา
จะได้รับโอกาสเข้ารับราชการทหาร
ในสังกัดของหน่วยงานที่ให้ทุน เช่น
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- ทุนของสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยเป็นทุน
ที่สถาบันการศึกษานั้นๆ มอบให้แก่นักศึกษาภายในสถาบันตนเอง
ซึ่งเงื่อนไขในการพิจารณาจะเป็นทุน
ที่ให้แก่นักศึกษาที่เรียนดี และมีความประพฤติดี
แต่มีฐานะยากจน เป็นทุนแบบให้เปล่า ไม่มีข้อผูกมัด
แต่นักศึกษาต้องรักษาผลการเรียนให้อยู่ในระดับ
ที่ทางสถาบันกำหนด โดยนักศึกษาที่ประสงค์จะขอทุน
สามารถติดต่อสอบถามจากสถาบันการศึกษาได้โดยตรง
ทุนของภาคเอกชน ซึ่งในแต่ละปีนั้นมีอยู่ไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นทุนของบริษัทห้างร้าน สถาบันการเงิน
หรือมูลนิธิต่างๆ มีทั้งประเภททุนเต็มจำนวน ทุนสนับสนุนบางส่วน
โดยส่วนใหญ่จะเป็นทุนให้เปล่า
ไม่ต้องกลับมาทำงานใช้ทุนตามข้อผูกพัน
เหมือนกับทุนของรัฐบาล ซึ่งแต่ละทุนนั้น
มีวัตถุประสงค์ของการให้ทุนที่แตกต่างกันไป อาทิ
- มูลนิธิทุนแพทย์เพื่อปวงประชา
สนับสนุนทุนการศึกษาแก่
นักศึกษาแพทย์ที่เรียนดีแต่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ
โดยมอบทุนให้แก่นักศึกษาแพทย์ 18 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยสุรนารี มหาวิทยาลัยสงขลา มากว่า 10 ปี แล้ว
โดยเป็นการให้ทุนแบบต่อเนื่อง
จนจบการศึกษา ( 6 ปี) ปีละ 60,000 บาทต่อราย
ซึ่งจำนวนทุนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยในปี 2562 ได้มอบทุน
แก่นักศีกษาแพทย์ จำนวน 136 ทุน
- มูลนิธิศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อสังคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สนับสนุนทุนการศึกษา
แก่เยาวชนที่มีความสามารถและความประพฤติดี
โดยเปิดรับสมัครปีละ 2 รอบ คือ รอบที่ 1
รับสมัครในวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.
และรอบที่ 2 เปิดรับสมัครในวันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.
- เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
ให้ทุนสนับสนุนใน 3 สาขาหลัก คือ
ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ด้านญี่ปุ่นศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ
และด้านภาษาญี่ปุ่น โดยการให้ทุนนั้น
มีทั้งทุนสนับสนุนการศึกษาวิจัย
โครงการอบรมภาษาญี่ปุ่นและการสนับสนุนในรูปแบบอื่นๆ
สำหรับ ทุนเพื่อศึกษาต่อในต่างประเทศ
ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี-เอก
ก็มีทั้งทุนของรัฐบาล และภาคเอกชนเช่นกัน
ทุนของรัฐบาลไทย เป็นทุนที่ให้โอกาสนักศึกษา
ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ โดย ก.พ.
เป็นผู้คัดเลือกนักเรียนทุนรัฐบาล (บางหน่วยงาน)
และเป็นผู้ดูแลนักเรียนทุนที่เดินทาง
ไปศึกษาต่อต่างประเทศทั้งหมด
ซึ่งทุนดังกล่าวได้แก่
- ทุนเล่าเรียนหลวง เป็นทุนที่ให้แก่ผู้ที่มีผลคะแนน
เฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ไม่ต่ำกว่า 3.50 เพื่อไปศึกษาต่อปริญญาตรีในต่างประเทศ
โดยผู้ที่ได้รับทุนต้องกลับมาทำงาน
ในประเทศไทยเป็นเวลาเท่ากับที่ขอทุน
แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องทำงานในองค์กรรัฐบาลเท่านั้น
ผู้ที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงนี้แล้ว
สามารถขอทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาโท-เอกได้
ทั้งนี้ ข้อผูกพันต่างๆ จะเป็นไปตามที่ทุนรัฐบาล
ได้กำหนดไว้ โดยในแต่ละปีจะมีจำนวน 9 ทุน
- ทุนไทยพัฒน์ เป็นทุนการศึกษา
ที่ได้รับพระราชทานชื่อจาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
เป็นทุนที่จัดสรรให้นักเรียนทั่วทุกภาคของประเทศ
ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อปริญญาตรี
รวม 25 ทุน แบ่งเป็น 2 กลุ่มสาขาวิชา
กลุ่มที่ 1 ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ และสาขานาโนเทคโนโลยี รวม 13 ทุน
กลุ่มที่ 2 ได้แก่ สาขาวิชากฎหมาย พาณิชยศาสตร์ บัญชี บริหารธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปะ การออกแบบ
หรือสังคมศาสตร์ หรือพฤติกรรมศาสตร์
(ยกเว้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ)
จำนวน 12 ทุนในประเทศที่ได้กำหนด
- ทุนของหน่วยราชการต่างๆ เช่นเดียวกับทุนที่หน่วยราชการ
พิจารณาให้แก่นักศึกษาปริญาตรีที่ศึกษาภายในประเทศ
ทุนจากต่างประเทศ เป็นทุนขององค์กรต่างชาติ
ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาทั่วโลก รวมทั้งนักศึกษาไทย
ได้ไปศึกษายังประเทศที่กำหนด
หรือประเทศเจ้าของทุน ประกอบด้วย
- ทุน IAESTE ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ
ที่จัดตั้งขึ้นครั้งแรกที่ Imperial College กรุงลอนดอน
ทำหน้าที่จัดสรรทุนฝึกงานด้านเทคนิค เช่น
สายงานวิศวกรรม สายงานวิทยาศาสตร์
ให้แก่นักศึกษาของประเทศสมาชิก
ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อไปฝึกงานในต่างประเทศ
- ทุน United Nation (UN) เป็นทุนเรียนต่อด้านสันติภาพ
ที่คอสตาริกา และฟิลิปปินส์ ทุนนี้ก็เป็นทุนให้เปล่า
เพื่อสร้างเครือข่ายผู้นำสันติภาพในระดับโลก
ทุนในทวีปยุโรป ได้แก่
- ทุน Erasmus Mundus หรือโครงการทุนของสหภาพยุโรป
เป็นโปรแกรมให้ทุนที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก
ทั้งในแง่ของขนาดและเงินทุน
โดยเป็นการให้ทุนเพื่อการศึกษา วิจัย อบรมต่างๆ
แก่นักศึกษาทั่วโลกที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ
ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในหลักสูตรเดียวกันได้ 2-3 ประเทศ
โดยใช้ชีวิต และเรียนประเทศละ 1-2 เทอม
ทุนนี้สนับสนุนเงินเดือน ที่พัก
เมื่อเรียนจบสามารถกลับมาทำงาน
ที่ประเทศบ้านเกิด หรือจะทำงานในยุโรปก็ได้
- ทุน Chevening - อังกฤษ ผู้ที่ขอทุน
ต้องมีประวัติการศึกษาดีเด่นและสามารถ
แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำได้
โดยจะได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท
ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ
เป็นเวลา 1 ปี พร้อมเงินทุนสนับสนุน
- ทุน Gates Cambridge Scholarship - อังกฤษ
เป็นทุนระดับปริญญาโท
โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
มักจะเปิดรับสมัครช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.ของทุกปี
- ทุน Westminster University - อังกฤษ
เป็นทุนระดับปริญญาตรี และปริญญาโท
เปิดให้สมัครตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. ของแต่ละปี
- ทุน Franco-Thai - ฝรั่งเศส
เป็นทุนสำหรับปริญญาโท และเอก
มีทั้งแบบทุนเต็มจำนวน หรือกึ่งหนี่ง
ช่วงเวลาที่เรียนต่อในฝรั่งเศส
ผู้เรียนจะได้รับการดูแลและมีสวัสดิการสังคมให้เต็มที่
- ทุน DAAD - เยอรมนี เป็นทุนระดับปริญญาโท
และปริญญาเอก รวมถึงทุน
เพื่อการทำวิจัยทั้งในระยะสั้น 1-3 เดือน
และระยะยาว 1-3 ปี
ทุนในทวีปอเมริกา ได้แก่
- ทุนฟูลไบรท์ Fulbright Scholarship - สหรัฐฯ
เป็นทุนด้านภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ
และวิทยาศาสตร์ สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อทั้งหมด
แต่มีเงื่อนไขว่าเมื่อเรียนจบแล้ว
ห้ามทำงานต่อที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 ปี
หลังจาก 2 ปี สามารถกลับมาทำงานในสหรัฐฯ ได้
- ทุนรัฐบาลเม็กซิโก ทุนนี้ครอบคลุมเงินรายเดือน
ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาล
หากเรียนสายวิทย์ มีโอกาสที่บริษัทในประเทศเม็กซิโก
จะดึงตัวไปทำงานต่ออีกด้วย
ทุนในทวีปแอฟริกา ได้แก่ ทุนรัฐบาลโมร็อกโก
เปิดให้สมัครเรียนได้โดยไม่จำกัดสาขา
เป็นทุนให้เปล่าที่ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ
แต่นักศึกษาอาจจะต้องมีความรู้
หรือสามารถพูดภาษาฝรั่งเศส หรืออาหรับได้
และยังต้องมีเงินติดตัวเพิ่มเติมบางส่วน
ทุนในทวีปออสเตรเลีย ได้แก่ -
ทุน Australia Awards - ออสเตรเลีย
เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากประเทศกำลังพัฒนา
โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เพื่อเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี
หรือบัณฑิตศึกษา
จากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เข้าร่วมโครงการ
ทุนในทวีปเอเชีย ได้แก่
- ทุน ICCR หรือทุนรัฐบาลอินเดีย
เป็นทุนระดับปริญญาตรี โท เอก หรือทำวิจัย
ในทุกสาขาวิชา ยกเว้นสาขาแพทย์ นอกจากนี้
ยังมีเงินเดือนให้ทุกเดือน มีค่าเครื่องบิน
มีทริปให้ไปท่องเที่ยวทั่วอินเดียทุกเทอม
สนับสนุนค่าเทอม รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล
ในกรณีเจ็บป่วย เรียนจบกลับไทยได้ทันที
ที่สำคัญวุฒิที่ได้นั้นสามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก
- ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbukagakusho หรือ MEXT
เป็นทุนจากกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น
ในหลักสูตรวิชาชีพครู เพื่อเปิดโอกาสให้ครูไทย
ได้มีโอกาสไปเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถ
และประสบการณ์ใหม่ในญี่ปุ่นสนับสนุนทั้งค่าเล่าเรียน
ตั๋วเครื่องบิน พร้อมเงินกว่าเดือนละ 50,000 บาท
ที่สำคัญไม่ต้องคืนเงิน ไม่ต้องใช้ทุน
- ทุน APU โดย Ritsumeikan Asia Pacific University - ญี่ปุ่น
เป็นทุนระดับปริญญาตรี ซึ่งจะเปิดรับสมัครเรื่อยๆ
ตลอดทั้งปีโดย มหาวิทยาลัยเอพียูมอบทุนการศึกษา
ให้แก่นักศึกษาต่างชาติที่มีผลการเรียนดี
หรือมีความสามารถพิเศษต่างๆ ทุนที่ให้เป็นทุนลดค่าเล่าเรียน
แบ่งออกเป็นประเภทได้แก่
30%, 50%, 65%, 80% หรือ 100% ตลอด 4 ปี
จนจบการศึกษา
- ทุนรัฐบาลจีน (China Scholarship Council)
สนับสนุนค่าใช้จ่าย ทั้งการเดินทางในและนอกประเทศ
ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ ที่พัก สวัสดิการ และมีเงินเดือนให้
ทั้งนี้นอกจากจะเรียนด้วยภาษาจีนแล้ว
บางหลักสูตรอาจมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษด้วย
- ทุนไต้หวัน เป็นทุนสำหรับปริญญาโท ผู้ผ่านการคัดเลือก
จะได้รับเงินเดือน เดือนละประมาณ 30,000 บาท
จนจบหลักสูตร รวมทั้งค่าเครื่องบิน ที่พัก ค่าหนังสือ
และยังมีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีนให้เรียนเพิ่มเติมด้วย
- ทุนมาเลเซีย เป็นทุนระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก
ใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการเรียนการสอน
แต่มีข้อแม้ว่าหลังเรียนจบห้ามทำงานในมาเลเซีย
- ทุนรัฐบาลตุรกี เป็นทุนระดับปริญญาตรี โท และเอก
สนับสนุนค่าเล่าเรียน และค่าที่พัก
- ทุน SINGA - สิงคโปร์ เป็นทุน
สำหรับสายวิทย์ วิศวะ เทคโนโลยี เรียนฟรี มี
ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้เรียนต่อที่ NUS หรือ NTU
มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสิงคโปร์
- ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นทุนเรียนภาษา
และทุนปริญญาแบบ 1+2 ปี โดยไม่ต้องใช้ทุนแต่อย่างใด
- ทุน Ewha Global Partnership Program (EGPP)
โดยมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา - เกาหลีใต้
เป็นทุนเรียนต่อปริญญาตรี โท และเอก
รับสมัครปีละ 2 รอบ คือช่วง ก.พ. และ ก.ย.
- ทุนรัฐบาลคูเวต เป็นทุนระดับปริญญาตรี
ในสาขาสังคมศาสตร์ อักษรศาสตร์ ครุศาสตร์
และนิติศาสตร์อิสลาม/อิสลามศึกษา
โดยจะเปิดรับสมัครในช่วง มิ.ย.
โดยสมัครผ่านสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ