ปลูกผักหวานในสวนลำไย แม่ค้ารับถึงที่กก.ละ250บาท

[คนเกษตร]

ปลูกผักหวานในสวนลำไย แม่ค้ารับซื้อถึงสวน กก.ละ250บาท





ที่ ผ่านมาการบริโภค "ผักหวานป่า" ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเด็ดหรือเก็บเกี่ยวมาจากป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเพียงบาง ฤดูกาลเท่านั้น คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จึงกลายเป็นผักที่หายาก

และ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่งผลให้ผักหวานมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200-300 บาท ด้วยเหตุนี้ สมดิน ท่างาม เกษตรกรวัย 68 ปี จากบ้านหนองไหล ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงมองว่าผักหวานป่าน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่จะสร้างรายได้อย่าง งดงามในอนาคต เขาทุ่มเวลาศึกษาวิธีการปลูกมายาวนานตั้งแต่ปี 2519 และลงมือปลูกในสวนลำไยอย่างจริงจังในปี 2544 จนถึงวันนี้ผักหวานของเขามีถึง 1,000 ต้น บนเนื้อที่ 13 ไร่ และสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวอย่างงดงาม

     สมดินเล่าย้อนให้ฟังว่า เดิมทีบริเวณบ้านหนองไหลเป็นป่ารกร้างและมีต้นผักหวานป่าขึ้นเป็นจำนวนมาก ต่อมาชาวบ้านได้เข้าจับจองพื้นที่ทำไร่ทำนา ซึ่งเป็นที่ดินประเภท ภบท.5 รวมถึงตัวเองด้วยได้เข้าไปครอบครองจำนวน 23 ไร่ เพื่อทำการเกษตร โดยพื้นที่ 10 ไร่ทำนาข้าว ส่วนอีก 13 ไร่ใช้เป็นพื้นที่สวนปลูกปอ มะม่วง แต่ยังคงไว้ต้นผักหวานที่ขึ้นตามธรรมชาติด้วย ในจำนวนนี้เขาใช้ต้นผักหวาน 23 ต้นเป็นต้นแม่พันธุ์ไว้เอาเมล็ดมาเพาะต้นกล้า



"ผมสนใจต้นผักหวานมาตั้งแต่ปี 2519 จึงเข้าร่วมอบรมกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อศึกษาวิการเพาะปลูก เพราะผมมองว่าผักหวานป่าน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต จึงเริ่มศึกษาและทดลองการปลูกเรื่อยมา กระทั่งปี 2544 จึงปลูกอย่างจริงจัง โดยเริ่มนำเมล็ดพันธุ์ต้นผักหวานป่ามาเพาะกล้าหลายร้อยต้น ไปปลูกลงดินทำเป็นสวนผักหวานอย่างเดียว ปรากฏว่าตายเกือบเกลี้ยง จึงเปลี่ยนวิธีใหม่คือทดลองปลูกใต้ต้นมะหวด พบว่าโตเร็ว จึงรู้ว่าแท้จริงผักหวานเป็นพืชที่ต้องอยู่ในที่ร่ม อาศัยร่มเงาจากต้นไม้อื่นที่โตกว่า" สมดินกล่าว

     หลังจากที่สมดินได้ค้นพบวิธีปลูกแล้ว เขาจึงคิดว่า สวนลำไยที่เขาปลูกมาตั้งแต่ปี 2541 มีต้นลำไย 215 ต้น และปลูกมะม่วงเดิมอีกจำนวนหนึ่ง น่าจะเหมาะที่สุดที่จะปลูกต้นผักหวานป่า ในที่สุดเขาได้แซมปลูกผักหวานในสวนลำไย โดยลำไย 1 ต้นจะปลูกผักหวานป่าได้ 4 ต้น (4 ทิศ) จากนั้นได้ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปีละ 200-300 ต้น กระทั่งปัจจุบันมีต้นผักหวานป่ารวมแล้วประมาณ 1,000 ต้น พอต้นผักหวานอายุได้ 5 ปี สามารถเก็บเกี่ยวเดือนละ 2 ครั้ง แต่เฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนเท่านั้น

     "ตอนนี้ผักหวานของผมสามารถเก็บยอดขายได้เพียง 200 ต้นเท่านั้น แต่ละวันจะเก็บยอดผักหวานได้วันละ 4-7 กิโลกรัม มีแม่ค้ามารับซื้อที่ราคากิโลกรัมละ 200-250 บาท ถ้ารวมใน 1 ปีน่าจะได้ราว 8 ตัน ผมถือว่าคุ้ม เพราะไม่ได้ลงทุนอะไรมาก อย่างปุ๋ยใช้แต่ปุ๋ยชีวภาพ ที่ทำจากหอยเชอรี่ ซากปลา มูลวัวมาผสมและนำใส่โคนต้น ทำให้ทั้งผักหวานและลำไยปลอดสารพิษด้วย" สมดินกล่าว



ปัจจุบัน แปลงปลูกผักหวานป่าของสมดินไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้อย่างงดงามเพียงอย่าง เดียว แต่ได้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งใหม่ ที่มีนักวิชาการทางด้านการเกษตร และชาวบ้านเข้ามาดูงานอย่างต่อเนื่อง หากใครที่สนใจสอบถามถึงวิธีการปลูกและดูแลรักษาได้ที่โทร.08-5761-4366

http://www.108kaset.com/