รศ.ดร.เสรีวัฒน์ สมินทร์ปัญญา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์ มศว. หินย้อมสีได้ ในวงการอัญมณีสามารถเปลี่ยนสีพลอยได้ โดย รศ.ดร.เสรีวัฒน์ สมินทร์ปัญญา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหินและอัญมณีกล่าวว่า..การเปลี่ยนสีพลอยถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักอัญมณีใช้สำหรับการปรับปรุงคุณภาพพลอยที่มีการทำสืบต่อกันมานานแล้วตั้งแต่อดีต เพื่อให้พลอยหรืออัญมณีมีสีที่สวยขึ้น ใสขึ้น ขายได้ราคาดีขึ้น หรือทำให้มีสีสันลวดลายแบบที่ต้องการซึ่งนิยมทำกันมากทั้งในพลอยธรรมชาติ และพลอยสังเคราะห์
จนบางครั้งผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนเป็นของจริง หรืออันไหนเป็นของปลอม รศ.ดร.เสรีวัฒน์ ให้ความรู้ว่าวิธีการเปลี่ยนสีพลอยหรืออัญมณีที่นิยมใช้ในเชิงพาณิชย์มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี คือ การเผาด้วยอุณหภูมิสูง ในเตาที่ออกแบบมาจำเพาะสำหรับการเผาอัญมณีเพื่อให้โครงสร้างภายในบางส่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีสีสันตามแบบที่ต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะใช้กับอัญมณีคุณภาพสูงอย่างเพชร เพื่อให้มีสีสวยตรงกับความต้องการของตลาด ช่วยเพิ่มมูลค่ากับตัวอัญมณีได้ค่อนข้างมาก, วิธีการฉายรังสี หรือการให้รังสี จำพวกแกมมา นิวตรอน หรืออิเล็กตรอน รวมถึงความร้อน และความดัน เพื่อทำให้มลทินในเม็ดอัญมณีสลาย กลายเป็นเพชรเม็ดใสเนื้อดีไม่มีมลทินเพิ่มราคาได้อีกเท่าตัว และการใช้สารเคลือบสี หรือการย้อมสีซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดกับพลอยสังเคราะห์ที่ทำจากแก้วหรือเรซิ่นให้ดูมีสีสันเหมือนของจริง โดยการใช้สีเคมีย้อมเข้าไปที่ตัวพลอย ให้เม็ดสีเข้าไปเคลือบที่บริเวณช่องว่างและผิวหน้าของเม็ดพลอย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสีก็จะค่อยๆ หมองและหลุดลอกในที่สุด
“การปรับปรุงคุณภาพพลอยธรรมชาติด้วยกรรมวิธีที่กล่าวไปข้างต้นเรามีมานานแล้วกว่า 40 ปี ซึ่งคนจังหวัดจันทบุรีนี่แหละ ที่เป็นผู้บุกเบิกวงการโดยเฉพาะการเผาเพื่อเพิ่มสีและกำจัดมลทิน ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นเจ้าแห่งพลอยน้ำดีของโลกอยู่ ในขณะที่อัญมณีเทียมทั้งพลอยเทียม เพชรเทียม ประเทศรัสเซียจะมีชื่อเสียงมาก การแยกระหว่างของแท้และของเทียมสำหรับนักอัญมณีจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ แม้กระทั่งหินสีตอนนี้ก็มี
การทำปลอมขึ้นมาแล้ว ขายเส้นละไม่กี่บาท ทั้งๆ ที่ของแท้ก็ถูกแสนถูก คนที่จะซื้อจึงต้องควรดูให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะถูกขายแก้วย้อมสีด้วยราคาสูงลิ่วก็ได้” รศ.ดร.เสรีวัฒน์ระบุ
แยกหินสีของจริง-ของปลอม หินสีที่มีอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ มีทั้งหินสีธรรมชาติที่เป็นของจริง หินสีปลอมที่ทำจากแก้ว เรซิ่น และพลาสติก ซึ่ง รศ.ดร.เสรีวัฒน์ ให้ข้อสังเกตว่า มีวิธีเบื้องต้นสำหรับตรวจสอบดังนี้
1.ใช้ลูปส่องพระ ขนาดกำลังขยาย 10 เท่าส่องเข้าไปที่เม็ดหิน หากเป็นหินปลอมที่ทำขึ้นจากแก้วหรือเรซิ่น ภายในจะเต็มไปด้วยฟองอากาศขนาดเล็กเต็มไปหมด ที่เกิดจากกระบวนการหล่อของโรงงานที่สามารถยืนยันได้ทันทีว่าหินนี้เป็นของปลอม
2.เมื่อนำไปตากแดดแล้วนำมาสัมผัส หรือนำมาอังไว้ที่แก้ม หินสีธรรมชาติจะยังคงความเย็นอยู่ ในขณะที่แก้วหรือเรซิ่นจะร้อน เพราะมีคุณสมบัติในการดูดความร้อน
3.ดูเส้นไหล หินปลอมจากพลาสติกหรือแก้วจะมีเส้นไหล ที่มีลักษณะเหมือนเป็นลายน้ำเชื่อมที่เกิดจากการหลอมของพลาสติก ซึ่งจะไม่พบในหินแท้จากธรรมชาติ
4.ดูแนวเชื่อม ถ้าหากมีแนวเชื่อมของเม็ดหินแสดงว่าเป็นหินปลอมที่เกิดจากเครื่องหล่อที่ไม่มีประสิทธิภาพ
5.ดูลวดลาย หากลวดลายหรือตำหนิบนหินมีลักษณะเหมือนๆ กัน หรือตรงกันทุกจุด ก็สันนิษฐานได้ทันทีว่ามาจากโรงงาน เพราะหินในธรรมชาติแทบจะไม่มีก้อนไหนเลยที่มีลักษณะเหมือนกัน
6.ราคาอาจใช้เทียบไม่ได้ เพราะเกิดจากความพึงพอใจระหว่างคนขายคนซื้อ และเครดิตของร้านค้า
7.น้ำหนัก ใช้เทียบไม่ได้ เพราะแก้วบางชนิดมีน้ำหนักใกล้เคียงกับหินสีของแท้
8.วิธีสุดท้ายที่ง่ายที่สุด สำหรับการแยกหินสีแท้กับพลาสติก คือ การนำไปเผาไฟ แต่อาจไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ค้า
หากทดสอบด้วยตัวเองแล้วยังไม่มั่นใจ ทีมข่าววิทยาศาสตร์ฯ ได้สอบถามไปยังอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีอีกคนเพื่ออธิบายถึงวิธีการตรวจสอบอัญมณี รวมถึงหินสี ที่ได้มาตรฐานสากลและนิยมใช้ในห้องปฏิบัติการอัญมณีศาสตร์ทั่วไปอีกด้วย