นางเมตตา กล่าวต่อว่า หอยเชอรี่ที่หั่นเสร็จแล้วจะบรรจุเก็บไว้ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ ประมาณ 2 วัน ก็จะ
รวบรวมหอยเชอรี่ต้มสุกหันได้ 1.6- 2 ตัน จากนั้นก็ขนส่งลงไปขายยังตลาดไท ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อบวกต้นทุนการขนส่งแล้วหอยเชอรี่ต้มสุกราคาจะสูงขึ้นเป็น กก. ละ 40 บาท เมื่อคำนวณแล้วจะขายได้เที่ยวละ 70,000- 80,000 บาท
อาทิตย์หนึ่งส่งหอยไปขาย 3 เที่ยว ดังนั้นเมื่อคิดรวมแล้วหนึ่งเดือนจะสร้างเงินสร้างรายได้กว่า 850,000 บาท กระจายสู่ชาวไร่ชาวนาในพื้นที่ ซึ่งรายได้ส่วนนี้ถือเป็นรายได้เพียงแค่กลุ่มของตนเองเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น
หากรวมทุกเจ้าแล้วจะมีเม็ดเงินเข้าสู่หมู่บ้านหนองแคนหลายล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ดี นางเมตตา ก็อยากขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาว่าหอยเชอรี่นั้นมีค่ากว่าที่คิด สามารถนำมาขายเป็นการสร้างรายเสริมได้
ด้าน นายวีระศักดิ์ ผาพรหม อายุถ 39 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 บ้านดอนแก้ว ต.ม่วงลาย อ.เมือง จ.สกลนคร กล่าวว่า ตนกับภรรยามีอาชีพทำนา ช่วงนี้เสร็จจากการปักดำนาแล้ว ตนและภรรยาจึงใช้เวลาว่างนี้มาหาหอยเชอรี่ที่กัดกินต้นข้าวในนามาขาย ซึ่งก็สร้างรายได้อย่างงามเลยทีเดียว ยกตัวอย่างวันนี้ ตนและภรรยาได้ออกไปหาหอยเชอรี่ที่ทุ่งนา และหนองน้ำใกล้หนองหาร โดยหอยเชอรี่ส่วนมากจะเกาะอยู่ที่ใบผักตบชวา วันนี้หาตั้งแต่เวลา 08.00- 12.00 น. 4 ชั่วโมง หาหอยเชอรี่ได้ 4 กระสอบปุ๋ย เมื่อนำมาต้มและควักหัวหอยออกมาขายจะสร้างรายได้ถึง 600 บาท ถือเป็นรายได้ที่งดงามมากหลังฤดูกาลทำนา และสามารถหาหอยเชอรี่ขายได้ตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าแล้ง หาหอยเชอรี่ยากขึ้น ราคาก็จะสูงตาม บางปีหอยเชอรี่ต้มสุกราคาอาจสูงถึงกิโลกรัมละ 50 บาท เลยทีเดียว.
จาก
http://www.108kaset.com/index.php?topic=26