เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกับหมอนิด
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกับหมอนิด  (อ่าน 11728 ครั้ง)
ANR
Senior Member
member
*

คะแนน101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« เมื่อ: มิถุนายน 18, 2007, 09:34:56 pm »

"ปี ๒๕๔๙ รัฐบาลทักษิณพัง !!!" อีกคำทำนายของ... "หมอนิด"



"ตลอด ๑๙ ปี ที่ทำอาชีพ หมอดู คิดเสมอว่าชะตาชีวิตของคนเรานั้นฟ้ากำหนดเอาไว้แล้ว วันนี้จึง กล้าพูดได้เต็มปากว่าเรื่องชื่อไม่เกี่ยว จะชื่ออะไรก็แล้วแต่ ไม่เกี่ยวกับดวงชะตา การเปลี่ยนชื่อไม่ สามารถเปลี่ยนดวงได้ ถ้าเปลี่ยนชื่อแล้วรวย โลกนี้คงไม่มีขอทาน คงไม่มี คนกวาดถนน คงไม่มีคน ทำอาชีพเก็บของเก่าขาย"

นี่เป็นหลักธรรมบวกกับข้อคิดให้กับคนดูดวงของ "หมอนิด" กิจจา ทวีกุลกิจ

หมอนิด บอกว่า คนบางคนดวงชะตาชีวิตลิขิตให้เป็นเจ้าของธุรกิจไม่ได้ เป็นดวงที่ต้องเป็น ฝ่ายทำ ให้คนอื่นรวย แต่ตัวเองก็ได้ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีตอบแทน คนบางคนฝืนออกมา ทำธุรกิจเอง แต่ทำได้ไม่กี่ปีก็ต้องเลิกล้ม ขณะที่บางคนทำได้เป็นสิบปียี่สิบปีหรือทำได้ชั่วลูกชั่วหลาน นั่นก็เพราะ ดวงชะตาชีวิตลิขิตเอาไว้

ฉะนั้น...บอกไว้เลยว่าอย่าฝืนดวงและอย่าประมาท

ที่ผ่านมาเคยทำนายดวงชะตาของ บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ล่วงหน้าถึง หนึ่งปีว่า จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี และก็ได้เป็นจริงๆ เช่นเดียวกับ ถาวร จุณนานนท์ อดีตผู้อำนวยการการ ท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ทำนายเอาไว้ว่า จะได้เป็นผู้อำนวยการในปี ๒๕๓๙ ถาวร ไม่เชื่อจึงออก ปากท้าว่าถ้าได้เป็นครบสี่ปีจริงก็จะทำโล่มามอบให้ ในที่สุด สิ่งที่ยืนยันได้ อย่างหนึ่งก็คือวันนี้โล่ที่ ว่าได้มาวางตั้งอยู่ที่บ้านแล้ว

ประมาณปี ๒๕๔๓ เป็นปีที่มีการแข่งขันกีฬาชกมวยโอลิมปิก ระหว่างนั้นได้ทำนาย พล.อ.สำเภา ชูศรี ว่าจะได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านก็ได้เป็นจริงๆ พร้อมบอกอีกด้วยว่าผลจาก การที่ท่าน ควบคุมทีมนักมวยไปชกกีฬาโอลิมปิก นักมวยของไทยจะได้สองเหรียญกลับมาและหนึ่ง ในนั้นเป็น เหรียญทอง ผลปรากฏว่า คำทำนายเป็นจริงทุกอย่างเพราะประเทศไทยได้สองเหรียญ ทั้งเหรียญ ทองและเหรียญทองแดง ที่สำคัญยังย้ำอีกว่า สมรักษ์ คำสิงห์ จะไม่ได้เหรียญใดๆ ติดมือ กลับมา ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

อย่างไรก็ตาม หมอนิดได้ตรวจสอบดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้เรียกได้ว่าดวงตกอย่างหนัก จะเป็นรัฐบาลได้ไม่ครบเทอม โดยจะ มีการยุบ สภาปลายปีนี้อย่างแน่นอน และจะเป็นเรื่องใหญ่ ขณะเดียวกันคนทางภาคใต้จะมีการเสีย ชีวิตอีก เป็นจำนวนมาก

คนที่เป็นธาตุไฟตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๙ เป็นต้นไปจะเจอปัญหารุนแรง ๒ ปี ๒ เดือน คนที่ เป็นธาตุไฟจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ต้านไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนธาตุไฟ จะเห็นได้ว่าดวงของ นายก รัฐมนตรีตั้งแต่ปลาย ๒๕๔๙ ไปจนถึงปี ๒๕๕๐ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีชีวิตอยู่อย่างราบรื่น ไม่มี ปัญหา ไม่มีอุปสรรคใดๆ เกิดขึ้น มาเผาบ้านตนเองได้เลย

"พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องยุบสภา หลังจากนั้นหากอยากจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ท่านจะต้องลง จากตำแหน่งในปี ๒๕๔๙ หาคนดวงดีๆ ขึ้นมาแทนในปี ๒๕๕๐ แต่ถ้ายังฝืนดวงอยู่แบบนี้ ทุกอย่าง จะหนักอย่างสาหัส เศรษฐกิจที่บอกว่าดีมันจะดีได้แบบรวยกระจุกแต่จนกระจาย รากหญ้าจะเป็นราก เน่า ระดับพ่อค้าแม่ค้าจะต้องร้องกันหมด อยู่กันไม่ไหว" หมอนิด กล่าวทิ้งท้าย

กว่าจะมาเป็น "หมอนิด"

หลังจากชีวิตกับธุรกิจพังครืนลงมา ได้เริ่มรู้ซึ้งขึ้นมาทันทีว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ ตลอด ๙ ปีเต็มนับจาก พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๓๑ เจอมรสุมโถมเข้าใส่ชีวิตอย่างหนัก ในทางโหราศาสตร์ เขา เรียกกันว่า “ดวงตก” ทุกอย่าง เสียหายหมด ทั้งการค้า บ้าน และรถ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไม่ มีเงินเหลือ อยู่ในมือเลย ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ อาการเครียดขณะนั้นเรียกว่าเข้าขั้นโคม่าจน เพื่อนต้องช่วย หาทางออก ชวนไปตกปลา และทุกวันพฤหัสบดีก็มีหน้าที่ต้องพาภรรยาไปหาเจ้าเข้า ทรงแถวฝั่งธนบุรี

ทุกครั้งที่ไปหาจะนั่งรออยู่นอกห้อง ภาพที่เห็นคือคนนั้นสั่น คนนี้สั่น ทำให้คิดในใจอยู่อย่างเดียวว่า... “พวกนี้มันหน้าม้า” แม้จะพาภรรยาไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเชื่อถือสิ่งที่เห็น จำได้ว่าไปอยู่ประมาณ ๕-๖ ครั้ง กระทั่งครั้งหนึ่งร่างทรงมองมาที่ตนเองพร้อมกับกวักมือเรียก “ไอ้ช้าง...เข้ามานี่ เอ็งน่ะ งอมเต็มทีแล้วนะ” “อะไรหรือหมอ งอมอะไร อะไรงอม” “เอ็งน่ะมีองค์อยู่”

ความที่ไม่เคยเชื่ออะไรง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องพวกนี้ ทำให้ท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง พร้อมกับปักธูป ลงไป ในกระถางธูปที่โต๊ะหมู่บูชา “ถ้าแน่จริงให้มาเข้าที่ตัวผม ที่เข้ามาดิ้นชักๆ งอๆ อยู่น่ะ ผมไม่ เชื่อ ไม่รู้เป็นหน้าม้า หรือเปล่า”

ไม่รู้อะไรทำให้กล้าพูดออกไปอย่างนั้น แต่พูดจบก็ไม่ได้คิดอะไร กลับมาบ้านใช้ชีวิตตามปกติเหมือน ทุกวัน นั่นก็คือการตกปลา

กระทั่งหนึ่งเดือนให้หลังถึงรู้สึกว่า มีบางอย่างผิดปกติ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการแปลกๆ เกิด ในค่ำคืนหนึ่ง นอนไม่ได้ทั้งคืน ทั้งๆ ที่ง่วงแสนง่วง ข่มตาเท่าไรก็ไม่หลับ ทุกครั้งที่ล้มตัวลงนอน ตา จะลืม โพลง พอลุกขึ้นมานั่งก็หาวแล้วหาวอีก แต่พอล้มตัวลงนอนใหม่ ตาก็ลืมโพลงอีก ได้แต่เก็บ ความแปลกใจไว้ทั้งคืน

จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นออกไปทำกิจวัตรประจำวัน ตกปลาตามปกติ สิ่งที่เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ไปก็คือ เจอคนที่รู้จักกันตามบ่อตกปลา และได้ทักคนๆ นั้นขึ้นมาว่า “เฮ้ย...ระวังนะ เอ็งจะขาหักนะ”

ไม่รู้เป็นเพราะอะไรที่ทำให้พูดออกไปอย่างนั้น แต่เป็นเรื่องที่แปลกอย่างไม่น่าเชื่อเพราะหลังจาก นั้นไม่ เกินสองสัปดาห์ ได้ข่าวว่าคนๆ นั้นขาหักจริงๆ ก็ต้องขอบคุณพี่ยุทธ เจ้าของสวนอาหารบึงวาปี ที่ให้โอกาสไปนั่งดู หมอที่ร้านอาหารกลางน้ำจนเป็นที่มาให้เรียกขานกันว่า "หมอนิด"

เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง

ภาพ พีระรัตน์ ธรรมจง



บันทึกการเข้า

ANR
Senior Member
member
*

คะแนน101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2007, 09:36:53 pm »

ผ่าดวง ผบ. 5 เหล่าทัพ มีดี-มีแย่ คละเคล้ากัน !


"หมอนิด" ผ่าดวงปี 2549 ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. "ดวงดี" เกือบทั้งปี ผบ.สส.แย่ ให้เร่งทำบุญ ผบ.ทบ.ดวงดีอีกราย ให้เร่งทำงาน ผบ.ทร.จะแย่ตั้งแต่ปลายปี ผบ.ทอ.ระวังคนใกล้ตัวนำภัยมาให้

"ดวงคน" กับ "ดวงเมือง" เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก ยิ่งดวงของคนที่เป็นระดับ "ผู้ใหญ่" ในบ้านในเมืองก็ยิ่งผูกพันอย่างลึกซึ้งกับดวงเมือง อันหมายถึงความสงบสุขหรือทุกข์ร้อนของประชาชนประเทศนั้นๆ ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" จึงได้ตรวจสอบดวงชะตาของผู้บัญชาการทั้ง 5 เหล่าทัพ ว่าใครดวงดี-ดวงแย่แค่ไหน และจะส่งผลอย่างไรต่อประเทศชาติ โดยมี นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือ "หมอนิด" หมอดูดวงด้วยญาณชื่อดังที่จะมา "ผ่าดวง" ของระดับบิ๊กๆ แต่ละท่านว่าจะเป็นอย่างไร

# พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)#

 พล.ต.อ.โกวิท เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2490 ปีกุน วันอังคาร (ปี 2549-อายุ 59 ปี) (ธาตุดิน 2 ธาตุน้ำ 2 ธาตุไม้ 1 ธาตุไฟ 1) เป็นคนธาตุดิน อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ถ้าดูจากวันเกิดที่ให้มา ดวงในปี 2549 ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม-พฤศจิกายน จะ "ดวงดี" มากๆ เรียกได้ว่าทำอะไรก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะมีอะไรใหม่ๆ เสนอออกมาอยู่เรื่อยๆ และจะมีคนยอมรับนับถือมากขึ้น พูดอะไรออกมาก็มีแต่คนเชื่อถือ จะได้รับแต่ชื่อเสียง เกียรติยศ

"จากที่โด่งดังอยู่แล้วก็จะยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก แต่จะดีอยู่แค่ปีเดียว ดังนั้นจะต้องรีบเร่งสร้างผลงานให้มากๆ เข้าไว้ เพราะในปี 2550 ดวงที่ดีๆ จะเริ่มผ่อนลง และไม่ดีไปในที่สุด และจะเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย จะทำอะไรก็จะมีอุปสรรคมาขัดขวาง" หมอนิด กล่าวเตือน

หมอนิด ย้ำว่า ช่วงปลายปี 2549 เป็นต้นไปจนกระทั่งปี 2550-2551 คนจะเริ่มมอง พล.ต.อ.โกวิท ในแง่ที่ไม่ค่อยดี แม้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็เก็บความรู้สึกอยู่ในใจ

"ในช่วงปี 2552-2554 ระวังจะมีคนมาทำร้าย เพราะธาตุของท่านโดนคนทำลาย แต่ธาตุที่จะมาช่วยเสริมคือ ธาตุดิน และธาตุไฟ แต่จะต้องระวังคนธาตุไม้ เพราะดวงจะขัดกัน อยู่ใกล้กันไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหา" หมอนิด กล่าวทิ้งท้าย

# พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) #

 พล.อ.เรืองโรจน์ เกิดวันที่ 28 มีนาคม 2489 ปีจอ วันพฤหัสบดี (ปี 2549-อายุ 60 ปี) (ธาตุทอง 2 ธาตุดิน 2 ธาตุไม้ 1 ธาตุไฟ 1) เป็นคนธาตุทอง

ปี 2547-2548 เป็นช่วงที่ "ดวงดี" มากๆ เรียกได้ว่า ดวงดีอย่างคาดไม่ถึง และในปี 2543-2545 ที่ผ่านมา ดวงโดนล็อก จะทำอะไรก็แล้วแต่จะเกิดการผิดพลาดในทุกเรื่อง

ในปี 2549 ช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ให้ระวังจะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้น ควรที่จะแก้เคล็ดโดยให้ปล่อยปลา ปล่อยวัว ไถ่ชีวิตวัวจากโรงฆ่าสัตว์ให้ชาวบ้าน โดยต้องมีการสาบานที่กลางแจ้งต่อหน้าฟ้าดิน ว่าชาวบ้านที่รับวัวตัวนั้นไปแล้วจะไม่นำไปฆ่าหรือนำไปขาย และควรที่จะทำบุญตักบาตร ทำสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวร พระยมพระบาลทั้งหลาย เพื่อเสริมให้ดวงตัวเองมีสิริมงคลมากขึ้น

ในปี 2549-2550 ให้ระวังเรื่อง "สุขภาพ" มากๆ โดยเฉพาะทางด้านทรวงอกและหัวใจ อย่าหักโหมเรื่องการงานมากนัก

"ถ้า พล.อ.เรืองโรจน์ เกิดในช่วงเวลา 09.00-13.00 น. ดวงจะยิ่งอันตราย แต่ก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะบารมีที่สะสมอยู่" หมอนิด กล่าว

หมอนิด ทำนายอีกว่า ถ้าดูจากใบหน้าที่มีแก้มใหญ่ทั้งสองข้าง และรูปจมูก คนคนนี้จะมีบริวารรอบข้างมาก มีบ้านหลายแห่ง ที่ดินหลายที่ นิสัยส่วนตัวเป็นคนตรงๆ เวลาว่าใครก็จะพูดตรงๆ ให้คนนั้นรู้ได้ทันที โดยไม่มีการอ้อมค้อม เพราะดูจากริมฝีปากแล้ว เวลาที่จะพูดกับใคร คนนั้นจะรู้สึกสะท้าน "ผมอยากฝากเตือนสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของโรคหัวใจว่าให้ระวังมากๆ และหลังจากตรวจเช็คสุขภาพแล้วก็จะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต" หมอนิด กล่าว

# พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)#

พล.อ.สนธิ เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2489 วันพุธ (ปี 2549-อายุ 60 ปี) (ธาตุดิน 2 ธาตุทอง 2 ธาตุไฟ 2)

ในช่วงปี 2549 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม "ดวงจะดี" โดยเฉพาะเดือนเมษายน-มิถุนายน ดวงจะยิ่งดี และเด่นขึ้นไปอีก ถ้าเลยเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว หรืออยู่ในช่วงเดือนนี้ ดวงจะแผ่วลงไปเรื่อยๆ

ดังนั้นก่อนจะถึงเดือนพฤศจิกายน จะต้องเร่งสร้างผลงานให้เข้าตากรรมการ และจะได้รับคำยกย่องจากพรรคพวกทั้งหลาย ก่อนที่จะเกษียณอายุในเดือนตุลาคม ปี 2549 เพื่อให้คนจดจำไปอีกนาน โดยผลงานนั้นจะโดดเด่นมาก เพราะท่านเป็นคนจริง ถ้ารับปากใครไว้แล้วจะต้องทำให้ได้

หมอนิด ทำนายอีกว่า ชีวิตในวัยเด็กนั้นเป็นคนที่สู้ชีวิตมากๆ โดยดูจากใบหน้าและหน้าผาก

"คนคนนี้เป็นคนที่รักพรรครักพวกและจริงใจมาก ส่วนพรรคพวกก็รักท่านมากเช่นกัน ท่านเป็นคนที่ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน และไม่ยกเลิกงานอะไรกลางคันเด็ดขาด จะเรียกได้ว่าท่านเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักก็ว่าได้"

หมอนิด ทำนายทิ้งท้ายว่า

"ผมว่าดวงท่านเป็นคนที่น่าสนใจน่าติดตามมากคนหนึ่ง เพราะท่านมีอะไรดีๆ ในตัวสูง แปลกพิสดาร เส้นลายมือของท่านมีไม่เกิน 4 เส้น ซึ่งนับว่าแปลกมากๆ จะบ่งบอกได้ว่าชีวิตท่านไม่ยุ่งเหยิง และชีวิตท่านเคยเฉียดตายมาแล้ว แต่ถ้ารู้เวลาเกิดของท่านจะดูได้ดีกว่านี้"

# พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) #

พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกิดเมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2490 ปีกุน (ปี 2549-อายุ 59 ปี) วันเกิดตรงกับธาตุไฟ เกิดในช่วงฤดูหนาว และมีธาตุไฟที่อ่อนมาก ถ้ามีธาตุไม้เข้ามาเสริมจะทำให้เกิดพลัง

ดวงชะตาที่ผ่านมา ปี 2540-2543 ดวงดีมาก ไม่มีปัญหาและอุปสรรค

สำหรับดวงปี 2549 มีธาตุไฟกับธาตุดินเข้ามา ในครึ่งปีแรกจะต้องเก็บเกี่ยวทุกอย่างให้หมด จะทำอะไรก็ให้รีบทำ อย่าปล่อยไว้นาน และในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะมีปัญหาเข้ามาทำให้ไม่สบายใจ แต่ที่จะมีปัญหาอย่างหนักคือในช่วงปี 2550-2551 จะนำเสนอผลงานอะไรก็ตามจะมีคนคอยขัดขวาง ทำให้ไม่ได้การยอมรับในสิ่งที่ท่านคิดเอาไว้

หมอนิด ระบุว่า วันที่ 4 กุมภาพันธุ์ 2549 เวลา 07.00 น. เป็นปีจอที่แท้จริง ดังนั้นช่วงครึ่งปีแรก หรือไม่เกิน 10 เดือนให้เก็บผลงานและประสบการณ์ไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะในช่วงครึ่งปีแรกจะเป็นโอกาสที่จะเก็บเกี่ยวผลงาน ประสบการณ์ ยศ ตำแหน่ง ชื่อเสียง หรือบริวารได้ดีที่สุด เพราะจะดวงดีเฉพาะปี 2549 เท่านั้น

# พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)#

 พล.อ.อ.ชลิต เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2491 (ปี 2549-อายุ 58 ปี) (มีธาตุทอง 2 ธาตุดิน 2 ธาตุไฟ 1 ธาตุน้ำ 1)

ปี 2548 "ดวงดีมาก" ในทุกๆ ด้าน มีปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ตลอด มีแต่เรื่องฟลุคๆ เข้ามา

สำหรับปี 2549 จะมี "เรื่องวุ่นวาย" เข้ามา โดยที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนทำ แต่เป็นคนอื่นที่ทำและมาให้ท่านช่วยเหลือ นอกจากนี้ จะมีคนคอยขัดอยู่ตลอดเวลา ให้ระวังคนอื่นจะนำปัญหาเข้ามาให้

"ปี 2549 นี้ ควรระวังกับดักไว้ให้ดี เพราะตัวท่านเหมือนอยู่ท่ามกลางหลุมระเบิด จึงควรจะก้าวไปอย่างช้าๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และควรระมัดระวังบุคคลที่จะเข้ามาใกล้ชิด ในปีนี้อายุของท่านมีธาตุให้โทษ จะมีปัญหาทำให้หนักใจ จงอย่าไว้ใจใคร ไม่เช่นนั้นคนที่ท่านไว้ใจจะทำร้ายตัวท่านเอง ถ้ามีญาติผู้ใหญ่ให้ระวังเอาไว้ ระวังปัญหารุมเร้า บริวารมีการต่อต้าน"

หมอนิด แนะเคล็ดการแก้ดวงว่า

"ทำบุญไม่พอ ต้องทำใจด้วย วิธีที่จะแก้ไขให้ท่านผ่านช่วงเวลานี้ไปได้คือ การสงบสยบความเคลื่อนไหว ประคองตัวเองให้ได้ ใช้สติสัมปชัญญะที่มีอยู่ตรึกตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และท่านจะได้รับข่าวดีในปลายปี 2550-2551 และจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะมีคนช่วยเหลือ และจะมีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตราว 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ต้องนิ่งและเงียบให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้"

หมอนิด กล่าวอวยพร ผบ.เหล่าทัพทั้ง 5 ท่านด้วยว่า ขอให้ผบ.เหล่าทัพทั้ง 5 ท่าน มีความสุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ตลอดปี 2549 สิ่งไหนที่ไม่ดีให้พ้นไป มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา เพราะไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ ล้วนแล้วแต่เป็นกำลังของประเทศชาติ จึงขอให้ทำหน้าที่ของผู้นำเหล่าทัพให้ดีที่สุด และจงภูมิใจที่ได้เกิดมาในผืนแผ่นดินไทย

"หมอนิด" กับชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ จากเซลส์แมนสู่วิชาชีพหมอดู !

 เริ่มต้นจากการเป็น "เซลส์แมน" ขายกระดุมและผ้าลูกไม้ จึงต้องตะลอนไปหาลูกค้าทั่วประเทศจนแทบไม่มีวันพัก

"เมื่อหลายสิบปีก่อน กิจการค้าของผมไปได้ดีมาตลอด มีอยู่เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ไปคือ จ.แม่ฮ่องสอน และไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ชีวิตต้องเดินมาถึงจุดตกต่ำสุดขีด" หมอนิด กล่าว

กระทั่งปี 2523 ชีวิตของหมอนิด หรือ นายกิจจา ก็ต้องเจอกับมรสุม "ชีวิตขาลง" อย่างไม่คาดฝันตลอด 9 ปีเต็ม (2523-2531) ต้องเผชิญเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่างๆ นานา ทั้งธุรกิจเจ๊ง เสียบ้าน สูญรถ ฯลฯ

"นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่ไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เรื่องกินไม่ต้องพูดถึง เพราะแม้แต่จะควานหาเศษเงินเพียง 10 บาทให้ลูกติดตัวไปโรงเรียนยังไม่มี ผมเครียดที่สุดในชีวิตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชีวิตผมตกต่ำถึงขนาดจะขอหยิบยืมเงินญาติพี่น้องไปขายไก่ทอดก็ยังไม่ได้

ผมท้อใจและคิดมากจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ถึงขนาดวันหนึ่งผมตั้งใจว่าจะหาเงินให้ได้ 3,000 บาท เพื่อทำประกันชีวิต และตั้งใจว่าถ้าทำแล้วจะขับรถไปชนให้ตัวเองตายเพื่อลูกเมียจะได้มีเงินประกันเอาไว้ใช้ แต่ผมก็หาเงินจำนวนนั้นไม่ได้" หมอนิด เล่าถึงช่วงชีวิตอันตกต่ำสุดขีด

ย่างเข้าสู่ปี 2531 ชีวิตที่ดำดิ่งก็เริ่มมีความหวังรำไร และช่วงนี้เองที่เริ่มมีเหตุการณ์ "แปลกๆ" เกิดขึ้น "เวลาที่ผมเข้าบ้านใคร หรือเดินผ่านใคร ผมจะรู้ได้ทันทีว่าบ้านนี้จะมีอะไรดี หรือไม่ดีเกิดขึ้น ทั้งยังมีอาการโอ้กอ้ากคล้ายจะอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมานอกจากลม"

จึงเรียกอาการดังกล่าวว่า "อ้วกลม" และเดาว่า "พ่อปู่ฤาษีนารายณ์" ที่เคารพนับถือลงมาแฝงร่าง โดยในระหว่างปี 2531-2532 ที่พ่อปู่ลงมาประทับก็มีคนเข้ามาหาเยอะมาก แต่เขาก็ยังต้องเผชิญมรสุมชีวิตที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังไม่เป็นที่รู้จักในฐานะ "หมอนิด"

แต่แล้วเส้นทางชีวิตก็ "พลิกผัน" อีกครั้ง เมื่อคนที่เขาเรียกว่า "พี่ยุทธ" ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อตกปลา ชื่อ "บึงพัฒนา" ซึ่งไปใช้บริการเป็นประจำจนสนิทสนมกัน และได้ "ชุบชีวิตใหม่" ให้ในภายหลัง

"คนที่ทำให้ผมมีวันนี้ และผมจะไม่มีวันลืมพระคุณเลย คือ พี่ยุทธ โดยครั้งหนึ่งลูกชายคนโตของผมไม่สบาย เป็นดีซ่าน ผมจึงคิดจะเอาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาล แต่ก็กลัวหมอจะดูแลลูกไม่ดี ครั้นจะเอาเข้าโรงพยาบาลเอกชน ทั้งเนื้อทั้งตัวและทั้งบ้านก็มีอยู่แค่ 200 บาท

ระหว่างที่กำลังว้าวุ่นใจ และคิดไม่ตกอยู่นั่นเอง ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่ยุทธ พอทราบว่า ผมไม่มีรายได้เขาจึงชวนผมไปดูหมอที่บ่อตกปลาของเขาชื่อ บึงวาปี ย่านศรีนครินทร์ โดยพี่ยุทธเสนอให้ผมเดือนละ 8,000 เป็นค่าใช้จ่าย ส่วนค่าดูหมอก็แล้วแต่แขกจะให้"

สำหรับคำทำนายที่สร้างชื่อให้หมอนิด ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแวดวง "ตำรวจ" โดยวันหนึ่งขณะขับรถจะไปทำธุระผ่านไปถึงบริเวณใกล้ๆ ม.เกษตรศาสตร์ จู่ๆ ก็มีรถหกล้อเบียดรถหมอนิดจนเสียหลักคร่อมเกาะกลางถนน ด้วยความฉุนจัด หมอนิดจึงขับรถไล่ตาม และขับไปปาดหน้าให้หยุดรถได้ทันบริเวณแยกวิภาวดี ก่อนจะแจ้งตำรวจ สน.บางเขน นายหนึ่งที่อยู่ประจำป้อมยามให้จับคนขับหกล้อทันที

พอคุยกันได้สักพักก็รู้สึกถูกคอกับตำรวจคนนั้น และเมื่อคุณตำรวจทราบว่า เป็น "หมอดู" จึงขอให้ดูดวงให้ ผลปรากฏว่า ตำรวจรายนั้นคงถูกใจมากจึงเปลี่ยนสรรพนามจาก "เฮีย" มาเป็น "อาจารย์" อย่างเต็มปากเต็มคำ ก่อนที่หมอนิดจะทิ้ง "คำทำนาย" อันน่าตกตะลึงอย่างยิ่งว่า

"อีกไม่เกิน 3 วันจะมีตำรวจที่โรงพักบางเขนตายคนหนึ่งนะผู้กอง" หมอนิด ฟันธง

ครบ 3 วันตามกำหนดปรากฏว่า มีตำรวจโรงพักบางเขนคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุที่หน้าตลาดพงษ์เพชร ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนตร์รับลูกและเมียกลับบ้าน รถดับเพลิงก็พุ่งเข้าชนรถจักรยานยนตร์ของตำรวจนายนั้นตายคาที่ พร้อมกับลูกเมียรวม "สามศพ" !!!

พอคำทำนายของหมอนิดดังกระหึ่มไปทั่วโรงพัก พ.ต.ท.ชาลี สาลีเวชวิมล สารวัตรใหญ่ สน.บางเขน (ในขณะนั้น) จึงตามตัวให้ไปดูดวงให้ตำรวจทั้งโรงพัก ก่อนจะทิ้งคำทำนายอันชวนระทึกอีกว่า

"ภายในไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะมีนายตำรวจยศพันตรีขึ้นไปมีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์"


................... ................... .......
ครบ 2 อาทิตย์ตามคำทำนาย ตำรวจยศพันโทก็ถูกรถบรรทุกหกล้อพุ่งเข้าชนรถยนต์ที่เพิ่งเข้าจอดข้างทางจนไฟลุกท่วมทั้งคัน ทรัพย์สินทุกอย่างเสียหายหมด ทั้งรถ ปืน เครื่องแบบตำรวจ แต่เหลือเชื่อที่ตำรวจคนนั้นปลอดภัย รุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวหน้าหนึ่งกันแทบทุกฉบับ !!!

นี่เป็นส่วนหนึ่งของคำทำนายที่ถือว่า "แม่น" จนน่าขนลุก !

หมอนิด พูดสะท้อนตัวตนของเขาบางส่วนได้อย่างน่าสนใจว่า ทุกวันนี้ผมมีโล่เป็นสิบ ผมไม่ได้อวดอ้างว่าผมเก่ง เพราะคนที่เก่งกว่าผมก็มี แต่ถามว่าผมต่างกับคนอื่นตรงไหน ผมบอกได้เลยว่า เพราะความเป็นคนตรงของผม

ผมเป็นคนพูดตรง ฉะนั้นใครที่คิดว่ามาหาผมแล้วจะได้รับคำสรรเสริญ เยินยอ ขอร้องว่าอย่ามา แต่ถ้าใครที่คิดว่าตัวเองกล้ารับฟังความจริง ก็มาลองดูได้

 

บันทึกการเข้า
ANR
Senior Member
member
*

คะแนน101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2007, 09:42:32 pm »

ดวงเมืองปี "หมูไฟ" คำทำนายของ...หมอนิด



"ทำนายหรือพยากรณ์เหตุการณ์ ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของบุคคล ประเทศ บริษัท โดยอาศัยตำแหน่งสำคัญของดวงดาว ซึ่งผูกดวงขึ้นตามวิชาโหราศาสตร์

อาศัยตำแหน่งสำคัญที่สัมพันธ์กัน ระหว่างดวงดาวในสิบสองราศี โดยถือเอาเวลาและสถานที่เกิดของบุคคล หรือเวลาที่บริษัทได้ตั้งขึ้น เป็นจุดพยากรณ์ และพยากรณ์ตามที่มีผู้มาขอให้ทำนาย ตีความหมายในข้อสำคัญในตำแหน่งที่ดวงดาวสถิตอยู่ว่า อยู่ในภพใดของลักคนา รวมทั้งดูยาม พร้อมกับแจ้งให้ทราบถึงเรื่องราวว่า ดี หรือ ร้าย ที่คาดหรือทำนายว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หรือว่าจะได้รับความล้มเหลว หรือความสำเร็จอันเนื่องมาจากการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตลอดจนแนะนำวิธีการดำเนินการ แก้ไข หรือสนับสนุนให้เหตุการณ์นั้นลุล่วงไปด้วยดี"

นี่เป็นคำนิยาม "อาชีพโหร" และ "นักโหราศาสตร์" หรือ "หมอดู" ของกองส่งเสริมการมีงานทำ กรรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

"หมอดู" อาจเป็นอาชีพหนึ่งในจำนวนไม่กี่อาชีพ ที่สวนกระแสเศรษฐกิจตกต่ำ สถานประกอบกิจการและสถาบันการเงินจำนวนมากปิดตัวลง บริษัทที่ต้องการความอยู่รอดก็ต้องลดจำนวนพนักงานลง หรือขอให้พนักงานเกษียณงานก่อนอายุ ดังนั้น บุคลากรจากหลายหลากสาขาอาชีพ จึงเปลี่ยนอาชีพมาเป็น โหร หรือ หมอดู กันเป็นจำนวนมากเช่นกัน

ปัจจุบัน ทัศนคติของประชาชนทั่วไป ต่อผู้ประกอบอาชีพนี้เปลี่ยนไป เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพโหราศาสตร์ มีการแยกศาสตร์นี้ออกจากความเชื่อทางไสยศาสตร์ หรืออำนาจลี้ลับต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน ผู้เข้ารับการพยากรณ์ จะได้รับการทำนายที่เป็นหลักวิชาการมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อน ที่นำการพยากรณ์ หรือการทำนายไปผูกพันกับการสะเดาะเคราะห์ หรือทรงเจ้าเข้าผี อันเป็นกฎข้อห้ามของสมาคมโหราศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงทำให้ความสนใจของผู้ต้องการรับการพยากรณ์ เพื่อนำไปประกอบการทำงาน หรือธุรกิจมีมากขึ้น โดยจะนำคำพยากรณ์ที่ได้รับไปปรับใช้อย่างระมัดระวัง บางคนอาจต้องการคำพยากรณ์เป็นรายเดือน หรือต้องการการดูล่วงหน้าตลอดปี เป็นต้น

ตลอดปี ๒๕๔๙ ที่ผ่านมานั้น อ.กิจจา ทวีกุลกิจ หรือ หมอนิด ถือว่าเป็นโหรการเมืองท่านหนึ่งที่มักมีคำทำนายเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้าง ซึ่งครั้งหนึ่ง หมอนิด ทำนายว่า

ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยย้ายที่ทำการพรรคไปอยู่ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ขอให้สังเกตดูว่านับตั้งแต่เข้าไปอยู่ได้ไม่นาน ปัญหาต่างๆ ก็ประดังเข้ามา ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีอุปสรรคไปหมด เช่น ป๋าเหนาะ เริ่มมีปัญหากับพรรคไทยรักไทย แม้แต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็มีปัญหาสารพัด ม็อบต่างๆ ก็ลุกฮือขับไล่นายกฯ รัฐบาลทำอะไรเป็นผิดไปหมด คนไม่รับฟัง และไม่เชื่อถือ (ปัญญาชน) ซึ่งทุกอย่างทุกปัญหาที่รุมเข้ามาเป็นเพราะ “เจ้าที่” ให้โทษ ซึ่งใครก็ตามที่มาอยู่ มาทำธุรกิจ หรือทำอะไรก็ตาม ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีปัญหาทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม หมอนิดทำนายดวงเมืองปี ๒๕๕๐ ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

ปี ๒๕๕๐ เป็น ปีกุน มีดิถีบนเป็นธาตุไฟ ดิถีล่างเป็นธาตุน้ำ จึงเรียกได้ว่าเป็นปี หมูไฟ ความหวังที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในปีนี้ นับว่ายากยิ่งนัก ทั้งนี้เป็นเพราะ ดวง ของรัฐมนตรีหลายกระทรวงที่เข้ามารับตำแหน่ง ถึงแม้จะมีฝีมือก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ ดวงไม่ดี หลายกระทรวงสำคัญๆ ความหวังของประชาชนที่จะได้รัฐบาลใหม่ ก็สมหวังแล้ว แต่พ่อค้า ประชาชนทั่วไป จะสิ้นหวัง เพราะรัฐมนตรีหลายกระทรวง ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย

ในปี ๒๕๕๐ ธุรกิจหลายประเภทยังอ่วมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ยังไม่สามารถที่จะกระตุ้นยอดขายในประเทศได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากกำลังของผู้ซื้อน้อยลง เพราะราคาน้ำมันยังมีการผันผวน ไม่ได้ลดลงมากนัก อีกทั้งการส่งออกจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย เต็นท์รถมือสอง ยังจะเงียบเหงา ไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งนี้เป็นเพราะบรรดาค่ายรถใหม่ต่างๆ มีโปรโมชั่นที่ดีกว่าให้ลูกค้า เพราะฉะนั้น เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ต้องจัดโปรแกรมดึงดูดลูกค้า ทั้งด้านดอกเบี้ย การบริการเอาใจใส่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จึงจะอยู่ได้บ้าง

สำหรับเต็นท์รถมือสองรายใหญ่ ทุนหนา ราคาน้ำมันยังไม่มีทิศทางที่จะลงต่อเนื่อง และหากจะลง ก็ลงมาเพียงเล็กน้อย และโอกาสที่จะดีดกลับก็มีอยู่ แต่คงจะไม่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ที่ราคาขึ้นเป็นรายวัน จึงขอให้ทุกคนใช้น้ำมันอย่างประหยัด เพื่อประเทศชาติของเราทุกคน

เรื่องของ ทองคำ ราคาในปีนี้ คงจะไม่มีสิทธิขึ้นไปสูงถึงบาทละ ๑๒,๐๐๐-๑๓,๐๐๐ บาท เหมือนปีที่ผ่านมา แต่หลังเทศกาลตรุษจีนไปแล้ว มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาทองคำต่ำกว่าบาทละ ๑๐,๐๐๐ บาท แต่จะอยู่เพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น หากใครไม่รีบร้อนซื้อ ก็ขอให้ใจเย็นๆ รอจังหวะไว้ก่อน คิดว่ามีแน่นอน

โรงงาน ขนาดกลาง และขนาดเล็ก คงจะอยู่อย่างลำบาก เพราะขาดเงินหมุนเวียน เนื่องจากธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ อีกทั้งสินค้าที่ผลิตออกมาก็จำหน่ายได้น้อยลง ครั้นจะปล่อยเครดิตก็เสี่ยงกับสูญเสีย เก็บเงินยาก

การท่องเที่ยว ในปีนี้พอจะกระเตื้องขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาบ้าง แต่ก็ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ตามที่ตั้งไว้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ททท. ควรจะโปรโมทให้โดนใจชาวต่างชาติมากขึ้น

แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ควรที่จะร่วมมือกันจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากเป็นพิเศษ

ธนาคารและสถาบันการเงิน คงจะมีการลดดอกเบี้ยลงบ้างเล็กน้อย แต่การปล่อยกู้ก็ยังไม่ปล่อยให้ง่ายๆ เช่นปีที่ผ่านมา เพราะสภาพเศรษฐกิจยังไม่สดใสเท่าที่ควร

ในขณะเดียวกัน คดีฟ้องร้องเกี่ยวกับบัตรเครดิต และคดีเกี่ยวกับการกู้เงิน ยังคงหนาแน่นโรงศาล เงินกู้นอกระบบจะเฟื่องฟู การกู้เงินนอกระบบจะกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พ่อค้าแม่ขายจะต้องหันมาใช้บริการกันอย่างคึกคัก พร้อมๆ กับความเดือดร้อนจะตามมาภายหลัง เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยที่สุดโหด คดีความต่างๆ จะรกโรงพัก

คดีจี้ปล้น จะเกิดมากขึ้นจนน่าเป็นห่วง เพราะความจนกระจายไปทุกหย่อมหญ้า อาชญากรรมจะเกิดขึ้นมากจนน่าเป็นห่วง ขอให้ตำรวจช่วยดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากขึ้น

ยาเสพติด ยาบ้า จะกลับมาครองตลาดอีกครั้ง และน่ากลัวเป็นอย่างมาก เพราะผู้มีอิทธิพลจะเป็นผู้นำเข้า หรือผลิตเอง โดยมีผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตเป็นผู้สั่งการ เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศ ขอให้ผู้ที่เป็นพ่อแม่ ที่มีลูกกำลังอยู่ในวัยรุ่น ดูแลบุตรหลานของท่านให้ใกล้ชิดเป็นพิเศษ

ภาคอสังหาริมทรัพย์ หมู่บ้านจัดสรรต่างๆ ยังซบเซาต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพราะพิษเศรษฐกิจ บวกกับดอกเบี้ยของธนาคาร ทำให้ผู้ที่คิดจะซื้อบ้านต้องคิดหนัก ระวังเรื่องงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน จะโดนซองขาวหรือไม่ ทำให้บ้านจัดสรรต่างๆ ต้องทนแบกดอกเบี้ยธนาคารต่อไป นอกจากหมู่บ้านที่อยู่ในทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และมีความมั่นคงทางการเงินเป็นทุนอยู่ จึงจะพออยู่ได้

การเกษตร พี่น้องชาวเกษตรกรคงจะต้องทำใจไว้บ้าง เพราะผลิตผลหลายชนิดราคาจะตกต่ำ หรือจะเสียหายจากการเพาะปลูก ที่ราคาดี ผลผลิตก็มีน้อย ไม่สมดุลกันกับภาวะเศรษฐกิจ

ภัยธรรมชาติ ยังน่าเป็นห่วงกับภาวะน้ำ ซึ่งปีนี้ไม่ควรประมาท เพราะน้ำจะท่วมหนักเหมือนปีที่ผ่านมา หรือมากกว่า ที่สำคัญ คือ ผู้ว่าฯ กทม. ควรจะเตรียมตัวป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ ซึ่งสามารถจะเกิดขึ้นได้มาก ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะตามมา หากไม่เตรียมพร้อมป้องกัน และอย่าประมาทกับภัยจากแผ่นดินไหว ยังไม่หมด และอาจจะมากกว่าที่เคยเกิดขึ้น แต่จุดที่ควรเฝ้าระวัง คือ ภาคเหนือ หรือภาคใต้ แม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็อาจมีบางจุดที่สามารถรับรู้ได้

ดารา-พิธีกร-ศิลปิน ในปีนี้จะมีดาราศิลปินเกิดอุบัติเหตุรุนแรง บางคนอาจถึงกับเสียชีวิต รวมทั้งข่าวฉาวข่าวโฉ่ก็ยังมีปรากฏอย่างต่อเนื่อง จะมีพิธีกรดังๆ จะจางจืดไป หรือบางรายการอาจต้องยุติลง ในขณะเดียวกัน จะเกิดดาราศิลปิน เป็นดาวเด่นดวงใหม่มาแรงปรากฏขึ้นแทน

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ดวงการเมือง

สำหรับสถานการณ์ทางการเมือง หมอนิด ทำนายไว้ว่า การชุมนุมประท้วงจะเกิดขึ้นหลายกลุ่ม และการท้าทายอำนาจกฎอัยการศึกจะเกิดขึ้น อาจถึงขั้นปะทะกันรุนแรง รัฐบาล จะต้องเร่งแก้ไขจุดอ่อน ที่มีอยู่อย่างรีบด่วน โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และคณะ สตง.-ป.ป.ช. รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง ควรจะรีบดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว และเป็นธรรมที่สุด

ขอย้ำ! จะมีกลุ่มต่อต้าน-กลุ่มประท้วง-ชุมนุม ก่อตัวขึ้นจำนวนมาก ทั้งรัฐบาลชุดนี้ และรัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องเจอแน่

ประกอบกับเศรษฐกิจที่ทรุดหนักมาจากรัฐบาลเก่า และเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่ใช่ว่าจะตกแค่ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐ เท่านั้น เพราะยังจะตกต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะมาเป็น นายกรัฐมนตรี คนต่อไป ก็ยังไม่สามารถที่จะมากู้เศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน นอกจากจะมาประคองไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำมากไปกว่านี้ ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว

ภายในปี ๒๕๕๐ จะไม่มีการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งจะมีขึ้นได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม หรือ อย่างช้าไม่เกินเดือนเมษายน ๒๕๕๑

และไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งปี ๒๕๕๐ หรือ ๒๕๕๑ ก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็น นายกรัฐมนตรี คนต่อไปอย่างแน่นอน โดยมี พรรคชาติไทย ของ นายบรรหาร ศิลปอาชา ร่วมจัดตั้งรัฐบาล

"น่าเสียดายที่พรรคมหาชนของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ไม่สามารถนำพาลูกพรรคไปถึงฝั่งได้สำเร็จ อย่างมากคงจะได้เพียง ๒-๕ คนเท่านั้น แต่หากว่า พล.ต.สนั่น หาคนที่ดวงดีๆ มาเป็นหัวหน้าพรรคแทนได้ ก็อาจจะได้มากกว่าที่กล่าวมาบ้าง สำหรับพรรคประชาราชของป๋าเหนาะ จะมีคนข้างกายทำป่วนจนเป๋ เพราะฉะนั้น ป๋าเหนาะต้องคุมเกมให้ดี เพราะกลัวว่าจะท่าดีทีเหลว ส่วนพรรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค จึงไม่ขอพูดถึง และที่ต้องเขียนถึง การเลือกตั้งตอนนี้ก็เพราะเกรงว่า จะมีการเลือกตั้งตอนปลายปี หรือต้นปี ๒๕๕๑" หมอนิด กล่าว

สรุปแล้ว ปี ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นปี หมูไฟ ยังต้องเหนื่อยกับ รัฐบาลชุดปัจจุบัน หรือรัฐบาลยังต้องเหนื่อยกับการกู้เศรษฐกิจ ที่ทรุดตัวจากปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นปี หมู แต่มัน ไม่ใช่ หมูๆ ธรรมดา เพราะมันเป็น หมูเขี้ยวตัน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องยากมากที่รัฐบาลชุดนี้จะแก้ไขได้ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่านายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์ และคณะรัฐมนตรี จะไม่เก่ง หรือไม่มีฝีมือ แต่เป็นเพราะรัฐมนตรีหลายกระทรวง ดวงไม่ดี

"หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดที่เกี่ยวข้องรวมทั้งทหาร ตำรวจ อย่าประมาท มันมาแน่ ขอให้เข้มงวดทุกๆ ที่ปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวโน้มว่าจะเบาบางลงบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะหยุดไปเลยเสียทีเดียว ยังประมาทไม่ได้ เพราะอาจจะมีมือที่ ๓ สร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลชุดปัจจุบันให้สั่นคลอน เพื่อให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล รวมทั้งทำให้ประชาชนคนไทยตั้งคำถามกับนายกฯ สุรยุทธ์ด้วย" หมอนิด กล่าว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: