สมัยเมื่อครั้งที่หลวงปู่ยังแข็งแรง ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งเข้าวัดได้ไม่นาน
วันหนึ่ง เธอได้รับการเชิญชวนจากเพื่อนคนหนึ่งว่า
หากต้องการจะนั่งปฏิบัติภาวนาให้จิตเป็นสมาธิ เข้าถึงความสงบ ก็ต้องไปนั่งที่สำนักทรงแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
เธอจึงเกิดความลังเล เพราะนั่งภาวนาที่วัดสะแกเอง ก็ยังไม่เคยนั่งจริงจังนัก
หลวงปู่ก็ไม่เคยสอนเธอจริงจัง
ในระหว่างที่เธอเกิดความลังเลว่า จะหาโอกาสตามเพื่อนของเธอเพื่อไปปฏิบัติที่สำนักทรงแห่งนั้น
อยู่ ๆ หลวงปู่ก็ทักเธอ ในเช้าวันที่เธอนำภัตตาหารไปถวายท่าน
เมื่อเธอประเคนถวายภัตตาหารแด่หลวงปู่แล้ว
หลวงปู่ได้ชี้ให้เธอไป "นั่งภาวนาที่ข้างโอ่ง" (ที่ท่านสรงน้ำ)
เธอเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านจ้องมาที่เธอ
จากนั้นเมื่อเธอหลับตา "ภาวนาไตรสรณคมน์"
ไม่ทันไร...เธอก็รู้สึกว่าตัวเธอลีบเล็กลง ๆ จนเหลือตัวน้อยหนึ่ง
ในขณะที่เสียงภายนอก เช่น เสียงดังจากปิ่นโตที่คนเขาถ่ายอาหารลงภาชนะเพื่อถวายหลวงปู่ ฯลฯ
ก็เป็นเสียงที่คล้ายจะดังมาจากที่ไกล ๆ และแผ่วเบามาก
เธอนั่งสมาธิเพลิน จนกระทั่งเริ่มได้ยินเสียงหลวงปู่ให้พรญาติโยม
เธอประหลาดใจมาก...ที่จิตเธอเป็น "สมาธิ" อยู่ได้ตั้งนาน
ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสว่า จิตเป็นสมาธิ...เป็นเช่นนั้นเอง !
ที่สำคัญ เธอเรียนรู้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงไหน ๆ เพียงเพื่อจะแสวงหาที่นั่งปฏิบัติภาวนา
เพราะที่วัดสะแกซึ่งเธอมากราบหลวงปู่อยู่นี้ ก็เป็นที่สัปปายะที่เอื้อต่อการปฏิบัติจิตตภาวนา
ขอเพียงมีความตั้งอกตั้งใจ (ประกอบกับได้บารมีหลวงปู่มาช่วยสนับสนุน)
นอกจากนี้ ยังลดความเสี่ยงจากการไปเยือนสำนักทรง
เพราะหลวงปู่พูดเตือนเสมอ ๆ ว่า สำนักทรงโดยมาก...ก็มีแต่ผีทั้งนั้น !
ที่มา :
นั่งตรงไหน...จึงจะสงบ !__________________