พระโพธิสัตว์ต้องมีจิตที่ละเอียดกว่าบุคคลทั่วไป
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระโพธิสัตว์ต้องมีจิตที่ละเอียดกว่าบุคคลทั่วไป  (อ่าน 1809 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 05:51:23 am »



ถาม: ................... ........ ?

ตอบ : เป็นกรรมทั้งหมด แต่อย่าลืมว่า พระ โพธิสัตว์ คือสัตว์ที่กำลังสร้างบารมีเพื่อบรรลุโพธิญาณ ในระหว่างที่กำลังตระเวนทำความดีอยู่ ก็ต้องมีชั่วบ้างดีบ้างสลับกันไปเรื่อยๆ เพียงแต่ว่ามาตรฐานความดีความชั่วนี่เป็นอย่างไร? ในสายตาของเขาๆ ทำอย่างนั้นดีแล้ว แต่ในสายตาคนอื่นว่าเขาทำชั่ว

เพราะฉะนั้น...ถ้าคุณถามว่าชั่วไหม? ก็ต้องไปถามตัวเขาเอง มีใครบ้างถ้ารู้ว่าชั่วแล้วจะทำ ต้องเห็นว่าดีถึงทำ โจรไปปล้นเขากิน มันก็ว่าดีถึงปล้น สบายดีไม่ต้องทำงาน คว้ามีดคว้าปืนไปแป๊บเดียวก็ได้สตางค์แล้ว ดี...! เพียงแต่ว่าความดีความชั่วอยู่กับระดับจิตของเรา จิตของเราถ้าหยาบ สิ่งที่คนจิตละเอียดเห็นว่าเป็นความชั่ว เราก็จะเห็นว่าดี แต่ถ้าหากว่าจิตของเราละเอียด สิ่งที่คนอื่นเขาเห็นว่าดีแท้ๆ เราก็ยังเห็นว่าชั่วอยู่

เคยอ่านพระธรรมบทไหม? พระพุทธเจ้า ชาติหนึ่งเป็นชายตัดฟืน เดินทางเข้าไปตัดฟืนในป่า ทุกวันๆ เอาไปขาย วันนั้นเดินทางลึกไปกว่าปกติ ไปเจอสระโบกขรณีอยู่กลางป่า เห็นดอกบัวเยอะแยะไปหมด ก็เออ...! ดีจังเลย เราจะได้เก็บไปไหว้พระ พอเอื้อมมือดึงดอกบัว ผีเสื้อน้ำโผล่ขึ้นมา ร้องว่า “ขโมย” พระพุทธเจ้าที่เป็นชายตัดฟืนในชาตินั้นก็ถามว่า “นี่เป็นสระอยู่กลางป่า ไม่มีเจ้าของ บอกว่าขโมยได้อย่างไร?” ผีเสื้อน้ำบอกว่า “เราดูแลอยู่” “ถ้าคนอื่นเก็บล่ะ?” “คนอื่นเก็บ ไม่เป็นไร” “ทำไมเราเก็บแล้วถึงเป็นขโมย?” ท่านบอกว่า “ท่านปรารถนาโพธิญาณเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ จะเกิดเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า เป็นครูสอนเขา ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คุณยังมองข้ามไป แล้วคุณจะไปเป็นโพธิสัตว์ เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นครูสอนเขาได้อย่างไร?

ฉะนั้น...ถ้าคนอื่นทำแล้วไม่ผิด แต่ว่าคุณทำแล้วผิด” เพราะฉะนั้น...คนที่จิตละเอียด แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มองข้ามไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันคนที่จิตหยาบเห็นว่าไม่ผิด เพราะว่าทุกคนย่อมเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีแล้ว ถูกแล้ว เขาถึงได้ทำ

เคยอ่านทศชาติไหม? ชาติที่เป็น “เตมีย์” พระเตมีย์ทำไมท่านถึงต้องแกล้งเป็นใบ้? เพราะท่านรู้ว่าถ้าหากว่าเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำประชาชน ต้องสั่งประหารชีวิตนักโทษอย่างนี้ แล้วท่านบังเอิญว่ายังรักษาทิพจักขุญาณได้อยู่ ท่านเห็นอยู่แล้วว่าชาติก่อนๆ ท่านทำมา ท่านตกนรกเสียนับไม่ได้ ท่านก็เลยว่า “เออ...! ถ้าเราขืนเป็นคนปกติดีต่อๆ ไป พ่อก็จะยกสมบัติให้ เราก็ต้องทำไปอย่างนี้อีก เดี๋ยวก็ลงนรกอีก” ท่านเลยแกล้งทำเป็นใบ้เสีย

เพราะฉะนั้น...เรื่องของความดี ความชั่ว ประณามกันไม่ได้ ของเขาเอง เขาอยู่ในสถานภาพแบบนั้น ถ้าหากคนสองคนพอพูดกันรู้เรื่อง แต่ว่าคนเป็นล้านๆ หลายสิบล้านอย่างนี้ ต้องอาศัยความเด็ดขาดเข้าว่า ฉะนั้น...การลงโทษสั่งประหารชีวิต ตัดมือตัดหัว ทางแขกเขาทำกันเป็นปกติ ถ้าหากว่าเราไปเป็นชู้กับเมียเขา มันจับเราเฆี่ยนจนลายไปทั้งตัว แล้วไปฝังดินเหลือแค่ครึ่งตัวให้คนอื่นเอาหินขว้างจนตาย แล้วคุณจะไปเอามาตรฐานอะไร? อเมริกานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า หรือฉีดยาพิษก็ตาย

ถาม : ระบบศาล (ไม่ชัด)

ตอบ : อย่า ลืมนะ ถ้าคนไม่ผิดเขาจะทำทำไม? ปัจจุบันศาลสถิตยุติธรรม คุณลองถามสิ เอาคนดีเข้าคุกไปกี่คน? คุณเป็นคนดี แต่คุณไม่มีสตางค์ ในเมื่อคุณไม่มีสตางค์ คนมีสตางค์จ้างทนายเก่งๆ ก็ชนะ เพราะฉะนั้น...ถ้าจะเรียกร้องหาความยุติธรรม ผมจะรอตอนคุณตรัสรู้ จะยุติธรรมจริงไหม?


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ (ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


ที่มา : http://www.grathonbook.net/book/81.2.html


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: