แจงบาทแข็งกระทบจีดีพี

สศช. แจงค่าบาทแข็ง กระทบจีดีพี 0.33% คาดต่อเนื่องถึงปีหน้า

วันนี้ (22 พ.ย.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทเฉลี่ย 10 เดือนของปี 53 อยู่ที่ระดับ 32.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.17% จึงส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ 0.33% ทำให้ขีดความสามารถของสินค้าไทยลดลง และในช่วงวันที่ 1-19 พ.ย. ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 29.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบสุกลเงินของประเทศคู่ค้าและคู่แข่งอื่น พบว่าค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีค่าเงินบาท (เอ็นอีอีอาร์) เดือน ต.ค 53 ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 80.76 จากระดับ 76.93 ในเดือน ธ.ค. 52

อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังเป็นไปตามกรอบที่ สศช.ได้ประมาณการณ์ไว้ที่ระดับ 30-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าในปี 54 จะมีแรงกดดันค่าเงินบาทต่อเนื่องจากปีนี้ โดยคาดว่าอยู่ที่ระดับ 29-30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้าน นายธราดล เปี่ยมพงศ์สาสนต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ รับทราบรายงานสถานการณ์ด้านการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผ่านมาของค่าเงินในภูมิภาคปรับตัวอ่อนค่าลง เนื่องจากความกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณของไอร์แลนด์และมาตรการดูแลเงินทุนไหลเข้า รวมทั้งนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การเพิ่มเงินทุนสำรองของธนาคารขนาดใหญ่และการลดเพดานการป้องกันความเสี่ยงของผู้ส่งออกจาก 30% เป็น 20% ของมูลค่าส่งออกสุทธิของจีน โดยล่าสุดค่าเงินปรับแข็งค่าเพิ่มขึ้นหลังจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป สำหรับค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 ปี ที่ 29.51 บาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 53 ก่อนเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค.