บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเข้ารถยนต์วอลโว่ รุ่นเอส 40 แบบสปอร์ตซีดาน และ รุ่นวี 50 ในแบบสปอร์ต แวกอน มาทำตลาดในประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางวอลโว่ได้จัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ในเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่
ช่วงขาไป ทดลองขับรถยนต์วอล โว่รุ่นเอส 40 ในแบบสปอร์ตซีดาน รูปลักษณ์เด่นด้วยการนำลูกเล่นเส้นโค้งมนมาใช้ใน การออกแบบตัวถังรถยนต์ที่ดูไม่เทอะทะ ออกแนวปราดเปรียว สปอร์ตด้วยกระจังหน้าลายตาราง ขอบโครเมี่ยม บานประตูด้าน ล่างและขอบยกนูนสูง แถมมีสปอยเลอร์ด้านหน้า ด้านหลังและด้านล่างเติมความเป็นรถยนต์แบบสปอร์ตได้ชัดเจนขึ้นไปอีก ขณะที่ภายในรถยนต์ แจ่มชัดในงานออกแบบแนวสแกนดิเนเวียนเรียบโก้ โดยเฉพาะคอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัวสีเทา-ดำ คล้ายจะทำให้เป็นทุกอย่างของจักรวาล ทั้งปุ่มปรับสภาวะอากาศภายในรถ และปุ่มปรับเครื่องเสียง
ถึงจะมีรูปร่างเป็นสปอร์ตซีดานขนาดกลาง ทว่า วอลโว่เอส 40 ค่อนข้างตอบ สนองความเร็วแรงได้แบบรถเก๋งขนาดใหญ่ วิ่งฉิวได้อย่างใจคิด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที แถมมีความเด่นตรงระบบส่งกำลังขับเคลื่อนแบบเกียร์เพาเวอร์ชิพท์ 6 สปีด ทดลองขับในแบบวิถีชีวิตจริงในอัตราความเร็วที่ต่างกัน ทั้งยามเผชิญกับอุปสรรคบนท้องถนน เจอทั้งหลุม ทางขรุขระ รถตัดหน้า รวมถึงทางโค้งที่ต้องคอยเลี้ยว คอยลดและควบคุมพวงมาลัยและความเร็วรวมถึงการแตะเบรกเป็นช่วง ๆ เพื่อควบคุมรถนั้นพบว่าช่วงล่าง รวมถึงระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแบบไดนามิก หรือดีเอสทีซี กลายเป็นตัวช่วยที่ดี ขณะที่ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตามีส่วนช่วยในการตัดสินใจเปลี่ยน เลนหรือเร่งแซง เพราะกล้องที่ติดในกระจกมองข้างส่องไปทางท้ายรถเพื่อจับตามองทั้ง 2 ฟากของรถยนต์ ช่วยเตือนด้วยไฟสัญญาณที่ติดตั้งบนเสาประตูด้านหน้าซ้ายและขวา หากมีรถคันอื่นเคลื่อนมาในมุมอับของสายตา
หากประเมินตาม ทรรศนะส่วนตัวบอกได้เลยว่า รถวอลโว่ เอส 40 น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้หญิง ที่ชอบรถยนต์สปอร์ตซีดานที่เน้นการขับสบาย อารมณ์อบอุ่นในแง่มุมความปลอดภัย รถรุ่นนี้มีความเด่นที่ลุ้นสิทธิเข้าตาจับใจ
ส่วนขากลับเข้ากรุงเทพฯ ได้ลองขับ รถยนต์วอลโว่ รุ่นวี 50 ซึ่งมีคุณสมบัติของเครื่องยนต์ การออกแบบภายในเหมือนกับรถยนต์วอลโว่ เอส 40 ต่างกันตรงรูปลักษณ์ของรถยนต์แบบสปอร์ตเเวกอน 5 ประตู มิติความยาวส่วนท้ายรถเพิ่มขึ้นอีก 46 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นเอส 40 เหมาะสำหรับคนชอบเดินทาง ชอบชวนเพื่อน ชวนคนในครอบครัวไปเที่ยวหรืออารมณ์คนมีครอบครัวมีลูกเล็กเพราะรถรุ่นนี้ สามารถปรับเบาะทุกที่นั่งให้พับราบเพิ่มพื้นที่บรรทุกของได้ และสามารถปรับเบาะรองนั่งสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักระหว่าง 15-36 กก.
สำหรับราคา รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ตั้งราคาไว้เท่ากันที่ 1.799 ล้านบาท ส่วนการตัดสินใจว่าจะเลือกแบบไหนขึ้นอยู่กับกะเทาะใจฟันธงเลือกเอง.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=521&contentId=32006