ย่านลิเพา เป็นเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง (ภาษาทางภาคใต้เรียกเถาวัลย์ว่าย่าน) มีลักษณะเป็นเถา ชอบขึ้น
ในที่ลุ่มดินทรายที่มีอากาศชื้นมาก มีขึ้นอยู่ทั่วไปทางภาคใต้ของประเทศไทย และมีขึ้นอยู่บ้างในจังหวัด
จันทบุรี (รียกผักกะฉาด) ย่านลิเพา มีลักษณะใบเล็กแต่ยาว ริมใบสองข้างจะเป็นหยัก ๆ สันนิษฐานกันว่า
คำว่า"ลิเพา" คงจะเรียกเพี้ยนมาจากภาษามาลายู คำว่า "ลิบู" เพราะย่างลิเพานี้ชาวพื้นเมืองที่จังหวัด
นราธิวาสเรียกว่า "ลิบู" (ลิบูเป็นภาษามาลายู แปลว่าตีนจิ้งจก ลักษณะใบของย่านลิเพานั้นก็หยัก ๆ คล้าย
ตีนจิ้งจกมาก) ต่อมาก็เรียกเพี้ยนกันออกไปเป็น "ย่านลิเพา","ย่านนิเพา" หรือจนกระทั้งหญ่ายายเพา
สุดแต่ใครจะคิดว่าชื่อต่าง ๆ ที่ตนเรียกกันนั้นถูกต้อง
ย่านลิเพามี 3 ชนิด
1. ย่านลิเพาเขา ลักษณะเป็นเส้นใหญ่มากคล้ายหวาย ชอบขึ้นอยู่ตามเทือกเขา ไม่ค่อยมีใคร
นำมาใช้ประโยชน์
2. ย่านพองหยอง(ย่านลิเพายุ่ง) มีลักษณะใบเล็กดก และลำต้นคด ยาวประมาณ 8-9 เซนติเมตร
กว้างหนึ่งเซนติเมตร ใบหยักถี่คล้ายฟันเลื่อย ชอบขึ้นแถบดินดำ ดินเค้ม และมักจะเกี่ยวพันกับไม้อื่นยุ่ง
เหยิงดึงแก้และมักจะขากและไม่ค่อยออกง่าย หากจะใช้ก็ใช้ทั้งลำต้น สำหรับในการผูกมันเครื่องมือ
เครื่องใช้ต่าง ๆ หรือนำไปประดับซุ้ม หรือปะรำพิธีต่าง ๆ ในงานพิธีมงคล เช่นงานโกนจุก, งานบวชนาค
งานขึ้นบ้านใหม่
3. ย่านลิเพาใหญ่ ย่านลิเพาชนิดนี้มีลำต้นโตประมาณก้านไม้ขีดไฟ เวลาเจริญเต็มที่มีความยาว
ประมาณ 2 เมตร ใบยายประมาณ 14 เซนติเมตร กว้างประมาณ1.5 เซนติเมตร ลำต้นตรงชอบขึ้นอยู่
ตามริมรั้ว ป่าละเมาะและสุมทุมต้นไม้ ถ้าหากขึ้นปะปนอยู่กับไม้อื่น จะเลี้ยวเกี่ยวเกาะอยู่เหนือสุด และ
จะไม่ยอมอยู่ใต้พืชหรือไม้อื่น ดังนั้นถ้าหากที่ใดมีย่านลิเพาขึ้นอยู่จะสามารถมองเห็นได้ง่าน คุณสมบัติ
ของย่านลิเพาชนิดนี้คือ ลำต้นเหนียว ชาวบ้านจึงนิยมเอามาทำจักสาน เป็นภาชนะเครื่องมือใช้สอยต่าง ๆ
แทนหวาย สามารถนำเอาย่ายลิเพาชนิดนี้มาผูกรัดอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้
เป็นอย่างดี เพราะมีความทนทานเหนียวแน่นมาก ตากแตดตากฝนก็ไม่เป็นไร มีความทนทานอยู่ได้เป็น
ร้อย ๆ ปี แต่ถ้าหากใกล้ไฟจะติดง่าย
ย่านลิเพาเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวภาคใต้ จะมีกำเนินมานานตั้งแต่ครั้งไหนนั้นสืบความไม่ได้
แต่เชื่อว่าจะต้องมีมาเป็นร้อย ๆ ปีแน่นอน ภาชนะที่ชาวพื้นเมืองทำด้วยย่านลิเพาแต่โบราณนั้น มี
กระเฌออกุบหมาก กล่องยาเส้น พาน เฉี่ยนหมาก ปั้นชา กล่องและขัน (ขันนั้นเข้าใจว่าจะใช้สำรับใส่-
ดอกไม้ธูปเทียนไปวัด) กรงนก และเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวบ้าน แต่เดิมนิยมกัน
มากในสำนักของเจ้าพระยาเมืองนครศรีธรรมราช ในปัจจุบันนี้ทีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จังหวัดนครศรี-
ธรรมราชยังมีกระเฌอใบเล็ก ๆ ฝีมือละเอียดสวยงามอยู่ใบหนึ่ง เป็นเครื่องเล่นของลูกหลาน เจ้าพระยา
นครเก่าพวกในสกุล ณ นคร เป็นผู้มอบให้เป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์
งานฝีมือจักสานย่านลิเพานี้ กล่าวกันว่าเจ้าพระยาเมืองนครศรีธรรมราชเคยนำเข้ามาถวายเจ้า
นายในกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ยุคที่งานฝีมือชนิดนี้แพร่หลายและเป็นที่นิยมใช้กันมากใน
หมู่เจ้านายชั้นสูงคือ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง
พระยาสุขุมนัยวินิต สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ได้ฟื้นฟูการสานย่านลิเพาขึ้น ด้วยเห็นว่า
ย่านลิเพาเป็นของที่หาง่ายมีอยู่ทั่วไปในภาคใต้ และงานฝีมือชนิดนี้เป็นงานฝีมือที่ละเอียดลออประณีต
สวยงาม สมควรที่จะสนับสนุนให้คงอยู่เป็นอาชีพสำหรับราษฏรต่อไป ในเรื่องของการฟื้นฟู้ศิลปะวัฒน-
ธรรมและการพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชของเจ้าพระยายมราชนั้นยังเป็นที่เล่าติดปากกันต่อมาในหมู่
ชาวิเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชมาจนกระทั่งบัดนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุ-
ภาพ ได้กล่าวถึงผลงานของเจ้าพระยายมราช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรม-
ราชไว้ในประวัติเจ้าพระยายมราช มีความตอนหนึ่งดังนี้
Page : 1 2 3
http://www.geocities.com/nielloware/read-niello/yan-lipao/yan-lipao.htmlขอบคุณจีโอไซตี้สดอดคอม
http://www.fti.or.th/2008/thai/ftisufficiencyeconomydetail.aspx?id=7ว่าแต่ย่านลิเพาใช้จิ้มน้ำพริกได้หรือเปล่าใครเคยลองบ้าง ข้างบ้านมีเยอะ