หากต่อไบโพล่าหรือมอสเฟสขนานเข้าไป ทำไมต้องต่อ R ด้วยครับขอท่านผู้รู้แนะนำด้วยคับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 26, 2024, 05:55:12 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หากต่อไบโพล่าหรือมอสเฟสขนานเข้าไป ทำไมต้องต่อ R ด้วยครับขอท่านผู้รู้แนะนำด้วยคับ  (อ่าน 8456 ครั้ง)
Apimarn
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2008, 08:44:53 am »



บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณครับ

wittawut
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


ชมรมคนรักเครื่องเสียงรถยนต์

wittawut.abm@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2008, 07:46:10 pm »

การต่อ R ที่ทรานซิสเตอร์หรือมอสเฟสนั้นเพื่อกระจายความร้อนของตัวมันให้เท่าๆกัน  ถ้าขนานกันมากๆ แล้วไม่ต่อ R มันจะร้อนอยู่ที่ตัวแรกตัวเดียว ถ้าเปิดแรงๆ มันอาจระเบิดได้ 
บันทึกการเข้า

ทีมงาน DK sound
thorngbai
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 130



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2008, 02:22:33 pm »

[quote author=wittawut link=topic=45927.msg242685#msg242685 date=1227876370]
การต่อ R ที่ทรานซิสเตอร์หรือมอสเฟสนั้นเพื่อกระจายความร้อนของตัวมันให้เท่าๆกัน  ถ้าขนานกันมากๆ แล้วไม่ต่อ R มันจะร้อนอยู่ที่ตัวแรกตัวเดียว ถ้าเปิดแรงๆ มันอาจระเบิดได้ 
[/quote]

                แสดงว่า ทรานซิสเตอร์หรือมอสเฟตจะไม่ทำงานหากไม่ต่อ R ใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

แบ่งปันความคิด ไม่ยึดติดผลประโยชน์แห่งตน
apichata
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2008, 03:53:55 pm »

เป็นการจำกัดกระแสให้กับ ขา B หรือขา G (กรณีFET) เพราะว่าถ้ากระแสผ่าน B-E (เฟท G-D) นานเข้ามันจะเกิดความร้อน ตามหลักของอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำยิ่งร้อนยิ่งนำกระแสสุดท้ายก็ไหม้ พอใส่ R จำกัดกระแสเข้าไป R มันมีคุณสมบัติตรงข้ามกับสารกึ่งตัวนำ คือยิ่งร้อนความต้านทานยิ่งเพิ่มกระแสก็ไหลผ่านได้น้อยลง พอเอามาต่ออนุกรมกับสายกึ่งตัวนำมันจึงช่วยป้องกันไม่ให้กระแสไหลเกินได้นั่นเอง
บันทึกการเข้า
thorngbai
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 130



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2008, 10:17:46 pm »

 Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

แบ่งปันความคิด ไม่ยึดติดผลประโยชน์แห่งตน
Chanwit
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 07, 2009, 09:06:05 pm »

อือ...ช่วยเฉลี่ยกระแส ใช่ไหมครับ
 
บันทึกการเข้า

นายชาญวิทย์  แก้ววิเชียร
208 ม.3 ต.พรเจริญ  อ.พรเจริญ
จ.หนองคาย  43180
โทร 089 569 2609
WatHF100♥
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน55
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 305


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 08, 2009, 11:27:50 am »

เป็นการจำกัดกระแสให้กับ ขา B หรือขา G (กรณีFET) เพราะว่าถ้ากระแสผ่าน B-E (เฟท G-D) นานเข้ามันจะเกิดความร้อน ตามหลักของอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำยิ่งร้อนยิ่งนำกระแสสุดท้ายก็ไหม้ พอใส่ R จำกัดกระแสเข้าไป R มันมีคุณสมบัติตรงข้ามกับสารกึ่งตัวนำ คือยิ่งร้อนความต้านทานยิ่งเพิ่มกระแสก็ไหลผ่านได้น้อยลง พอเอามาต่ออนุกรมกับสายกึ่งตัวนำมันจึงช่วยป้องกันไม่ให้กระแสไหลเกินได้นั่นเอง

ขออนุญาต เสริมนิดนึงครับ  นอกจากที่ท่านapichataกล่าวไว้แล้ว

(คุยกันแบบคร่าวๆไม่เจาะลึกก็แล้วกันครับ)

"ใช้หลายตัวขนานกัน  แต่ละตัว มันคงไม่ได้มีคุณสมบัติเท่า  หรือเหมือนกันเป๊ะๆทั้งหมดทุกตัว ทั้งสองซีก N - P หรือสำหรับไฟบวก ไฟลบ  หรือเหมือนกันไปตลอดชั่วอายุการใช้งานของมันหรอกนะครับ"

๑) ตัวต้านทานที่ขา เบส  หรือเกท  เป็นการแบ่งกระแส  ให้ทรานซิสเตอร์หรือมอสเฟ็ทรับไปในปริมาณใกล้เคียงกันด้วยครับ  ไม่เช่นนั้นกระแสมันก็ไหลไปตัวที่รับง่าย(อิมพีแด้นซ์ต่ำ/ อัตราขยายสูง) มากกว่าตัวอื่น
๒)ตัวต้านทานที่ขา อิมิตเตอร์ หรือซอร์ส ทำหน้าที่บาล้านซ์กระแส ของทรานซิสเตอร์ขาออกให้มันใกล้เคียงกัน ด้วยส่วนหนึ่ง  แล้วก็ป้องกันการไหลกระแสเกินด้วยอีกส่วนหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!