ย้อนเวลา หาวิถีไทย ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
“วารีไม่คอยท่า เวลาไม่คอยใคร” เผลอแป๊บเดี๋ยวก็เข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ใกล้สิ้นปีกันอีกแล้ว แต่ก่อนจะเฉลิมฉลองอำลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กัน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็มีงานฉลองรื่นเริงงานหนึ่ง ที่เรียกว่า จัดยิ่งใหญ่ในทั่วประเทศ เป็นงานที่หลายคนเฝ้ารอคอย นั้นก็คืองาน “ประเพณีลอยกระทง” นั่นเอง
สำหรับประเพณีลอยกระทงในปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 12 พ.ย.2551 ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็ได้ออกมาเน้นย้ำ ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดของแม่น้ำให้ประเพณีลอยกระทงปีนี้ ด้วยการลอยกระทงโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ และยังได้แนะนำให้ “1 ครอบครัว 1 กระทง” เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรอีกด้วย
และเพราะการลอยกระทงนี้เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ ทั่วทุกภาคของประเทศจึงมีการจัดงานขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน “ผู้จัดการท่องเที่ยว” จึงได้ทำการเสาะหาแหล่งลอยกระทง ที่ ดี เด่น ดัง มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้อ่าน ที่ยังลังเลและตัดสินใจไม่ได้ว่า ปีนี้จะเลือกลอยกระทงที่ไหนดี
ภาคเหนือ
ประเพณีเดือนยี่เป็ง เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
แน่นอนว่า ขึ้นเหนือในช่วงเดือน พ.ย.สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ คือ บรรยากาศอันเหน็บหนาว หากใครสนใจลอยกระทงกับความหนาวแล้วละก็ไม่ควรพลาดที่ “ประเพณีเดือนยี่เป็ง เชียงใหม่ 2551” จัดขึ้นในวันที่ 10-13 พ.ย.2551
ปีนี้จัดให้มีกิจกรรมของชาวล้านนามากมาย ในสถานที่ต่างๆ ทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ การประกวดขบวนแห่โคมยี่เป็ง ณ หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ ประกวดหนูน้อยยี่เป็ง ณ ลานหน้าสามกษัตริย์ และในวันที่ 13 พ.ย.2551 จัดให้มีการประกวดกระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก
อีกหนึ่งจังหวัดในภาคเหนือที่มีความโดดเด่นไม่แพ้ใคร ต้องยกให้ “ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง” ของ จ.ตาก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8-12 พ.ย. ซึ่งใช้เทียนจำนำพรรษาเป็นเชื้อเพลิงในการลอย จัดทำขึ้นทั้งหมดถึง 13 สาย
ในวันที่ 8 พ.ย.2551 จะเป็นขบวนแห่พระราชทานพระประทีปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์รวม 10 พระองค์ เพื่อนำไปจุดเป็นปฐมฤกษ์ในการลอยกระทงสาย ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ส่วนวันที่ 9-12 พ.ย.2551 จะมีการแข่งขันลอยกระทงสายชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นการประกวดกระทงสายคืนละ 3 สาย โดยรูปแบบในการนำเสนอจะแตกต่างกันออกไป
ชมการกระกวดกระทงใหญ่ตระการตา ที่ จ.เชียงใหม่
จุดผางปะตี๊ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก จ.แพร่
อีกหนึ่งแห่งของภาคเหนือตอนบน ขอพามาที่ จ.แพร่ กับงานประเพณีลอยกระทง“จุดผางปะตี๊ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก” ประจำปี 2551 มีขึ้นในวันที่ 10-12 พ.ย.2551
ซึ่งในปีนี้จะเน้นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ณ บริเวณการจัดงานสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 พบกับกิจกรรม การประกวดโคมลอย ประกวดกระทงฝีมือ ประกวดตีกลองปูจา ประกวดซุ้มประตูวัด แข่งขันจุดบอกไฟดอก ประกวดหนูน้อยนพมาศ ประกวดนางนพมาศ การประกวดวงอะคูสติก การประกวดวงสตริงของเยาวชน
ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย
ลงเรื่อยมายังเขตภาคเหนือตอนล่างตระการตากับ “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” จ.สุโขทัย ในปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 10-12 พ.ย.2551 ภายในงานมีการประกวดโคมชัก โคมแขวน ประเพณีการปั่นฝ้ายทอผ้า “จุลกฐิน” การแสดงโขน กิจกรรมขวัญข้าววันเล่นไฟ
และอีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน คือ การแสดงแสง สี เสียง ซึ่งจัดขึ้นเพียงปีละครั้งในช่วงเทศกาลนี้เท่านั้น เนื้อเรื่องเป็นการเล่าประวัติศาสตร์ ซึ่งบทประพันธ์ของเรื่อง ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงตรวจพิสูจน์ด้วยพระองค์เอง
ลอยกระทงลงนาวา คืนจันทราเยือนโพยม จ.อุตรดิตถ์
ปิดขบวนภาคเหนือกันที่ “เขื่อนสิริกิติ์” จ.อุตรดิตถ์ ได้กำหนดจัดงานประเพณี “ลอยกระทงลงนาวา คืนจันทราเยือนโพยม” ประจำปี 2551 โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.2551 บริเวณสันเขื่อนสิริกิติ์ โดยเขื่อนสิริกิติ์ได้เตรียมสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยว และจัดเรือสำหรับลอยกระทง ปล่อยโคม บนเกาะในอ่างเก็บน้ำ การแสดงดนตรีและเกมส์ให้ร่วมสนุก
ภาคกลาง
ลอยกระทง ย้อนเวลา หาวิถีไทย ครั้งที่ 8 จ.ฉะเชิงเทรา
จากเหนือลงมาสู่ภาคกลางขอเริ่มต้นด้วยงาน “ลอยกระทง ย้อนเวลา หาวิถีไทยประจำปี 2551” ที่ได้จัดมาปีนี้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว โดยงานจะมีขึ้น 2 วัน ในระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.2551 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง นักท่องเที่ยวที่มาในงาน จะได้พบกับวิถีการลอยกระทงแบบไทยโบราณ ผ่านการแสดงแสงเสียงเรื่อง “นพมาศ ปราชญ์ ของแผ่นดิน” การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและวิถีปลายจวักมีรวมเอาอาหารพื้นบ้านไทยกว่า 170 ร้านค้า งานฝีมือไทย เช่น การสาธิตการประดิษฐ์กระทง สาธิตงานศิลปะไทย ช่างสิบหมู่
ร่วมลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวงได้ที่ จ.ตาก
ประเพณีลอยกระทงกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา
อีกหนึ่งงานใหญ่ของภาคกลางอยู่ที่ “ประเพณีลอยกระทงกรุงเก่า” จ.พระนครศรีอยุธยา งานจะมีขึ้นวันที่ 12 พ.ย.2551 บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุ่งภูเขาทอง ที่จะจำลองบรรยากาศให้เป็นสมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการแสดงโขนจากโรงเรียนใน อ.ผักไห่ ในชมอีกด้วย
ลอยกระทงย้อนยุค จอมพล ป.พิบูลสงคราม จ.ลพบุรี
จากนนั้นตามมาย้อนยุคสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม กันที่ จ.ลพบุรี กับงานประเพณีลอยกระทงย้อนยุค จอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย. 2551 สถานที่จัดงาน บริเวณวงเวียนศรีสุริโยทัย (สระแก้ว) อ.เมือง จ.ลพบุรี สำหรับกิจกรรมภายในงานจะได้พบกับ การประกวดนางนพมาศและหนูน้อยนพมาศ ประกวดกระทงประเภทต่างๆ การแสดงทางวัฒนธรรม งานแสดงสินค้าและมหกรรมอาหาร และงานราตรีสโมสรย้อนยุค
ลอยกระทงใกล้กรุงที่ จ.สมุทรปราการ
และสำหรับใครที่ไม่มีเวลาเดินทางไปยังต่างจังหวัดที่ใกล้ๆ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”ก็มีสถานที่ลอยกระทงใกล้กรุงอย่างที่ จ.สมุทรปราการ มาแนะนำ กับ ประเพณีลอยกระทง “มหัศจรรย์ลำน้ำเจ้าพระยา และเทศกาลอาหารอร่อยเมือง พระประแดง”
งานมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 พ.ย.2551 สถานที่จัดงาน คือ ลานอเนกประสงค์ริมน้ำเจ้าพระยา อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบกับกิจกรรมการประกวดนางนพมาศ และหนูน้อยนพมาศ การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ประกวดประดิษฐ์กระทง การออกร้านจำหน่ายอาหาร และการแสดงมหรสพ
ยังมีอีกหนึ่งงานที่ จ.สมุทรปราการ กับ “ประเพณีลอยกระทงจังหวัดสมุทรปราการ” งานมีขึ้นในวันที่ 10-12 พ.ย.2551 ณ บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลากลางจ.สมุทรปราการ มีกิจกรรมร่วมสนุกอย่าง การประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทงเจิม ชมขบวนแห่กระทง การแสดงท้องถิ่นชาวปากน้ำ การละเล่นพื้นบ้าน และร่วมลอยกระทง
และที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งงานของ จ.สมุทรปราการ คือ งานลอยกระทง “จองเปรียง เพ็ญสิบสอง” งานจะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.2551 บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จ.สมุทรปราการ ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการประกวดกระทงและประกวดกระทงชัก (โคมไฟ) บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การประกวดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชน สาธิตการแทงหยวก ศิลปะพื้นบ้านโบราณ ชมการแสดงสื่อผสม และร่วมลอยกระทง
ชม แสง สี เสียง ในงานเผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลอยกระทงวิถีชุมชน คนประตูเมือง จ.นครราชสีมา
เดินทางไปเยือนประเพณีลอยกระทง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือกันบ้าง เริ่มที่ งาน ”ลอยกระทงวิถีชุมชน คนประตูเมือง” จ.นครราชสีมา ที่ในปีนื้เน้นย้อนยุควิถีชีวิต วัฒนธรรมชาวหลานย่าโมในอดีต งานมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.นี้ เทศบาลนครนครราชสีมา
เน้นความยิ่งใหญ่ ตระการตาด้วยแสงสี และความงดงามในบรรยากาศย้อนยุค มีการตกแต่งไฟประดับประดาสวยงามบริเวณประตูเมืองทั้ง 4 มุมเมืองโคราช ประกอบด้วย ประตูชุมพล, ประตูพลล้าน, ประตูพลแสน และประตูไชยณรงค์ พร้อมกับจำลองสภาพแวดล้อมวัฒนธรรม ความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของชุมชนเมืองโคราชในอดีตมาจัดตกแต่งให้ผสมกลมกลืนกับประเพณีลอยกระทง
ไฮไลต์ขบวนแห่เทิดพระเกียรติกระทงพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ และพระประทีป โดยใช้ช้างพลายแห่นำขบวน “Mascot” เด็กไทยหัวจุก และขบวนกลองยาวมายังบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม
อาหารพื้นบ้านโคราช เช่น ผัดหมี่โคราช ส้มตำโคราช เป็นต้น และทุกประตูเมือง ได้จัดซุ้มสำหรับถวายคำอาลัยแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ ที่พระองค์ท่านทรงให้ความสนพระราชหฤทัย
สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จ.ร้อยเอ็ด
ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ก็มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครเช่นกัน โดยงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.2551 ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด นับเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน โดยใช้ชื่อว่างาน “สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป” ซึ่งมีความหมายว่า “สมมาน้ำ” คือ การขอขมาน้ำ ส่วน “คืนเพ็ง” หมายถึง คืนวันเพ็ญเดือน 12 “เส็ง” คือ การประกวด - แข่งขัน ขณะที่ “ประทีป” คือ กระทง นั่นเอง
ได้มีการแบ่งการจัดงานออกเป็น 2 วัน และเป็นปีแรกอีกด้วย คือ วันที่ 11 พ.ย.2551 เวลา 10.00-12.00 น.ผู้เข้าประกวดธิดาสาเกตนคร สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บำเพ็ญประโยชน์ ที่ศูนย์คนตาบอดร้อยเอ็ด และแห่ประชาสัมพันธ์งานไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เวลา 15.00-18.00 น.
การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ ณ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 จากนั้นเวลา 18.00 น.เป็นการประกวดธิดาสาเกตนคร สลับกับการแสดงของศิลปินนักร้องชื่อดัง ส่วนวันที่ 12 พ.ย.เป็นพิธีอัญเชิญประทีปพระราชทานเคลื่อนไปลอยที่ท่าน้ำบึงพลาญชัย พร้อมกับการเฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุดาวกระจาย 101 นัด
ภาคตะวันออก
ลอยกระทงศรีมหาราชา จ.ชลบุรี
ส่วนที่ภาคตะวันออกอย่าง จ.ชลบุรี ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน กับงาน “ลอยกระทงศรีมหาราชา” ซึ่งกำหนดจัดงานขึ้นเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน คือ ในวันที่ 11-12 พ.ย. 2551 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป สถานที่จัดงานอยู่ ณ ริมทะเลสวนสุขภาพเกาะลอยศรีราชา
โดยภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น การแสดงจากวงดนตรีชื่อดัง การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเยาวชน การประกวดนางนพมาศจากสาวงามทั่วประเทศ การประกวดกระทงสวยงาม การจำหน่ายสินค้าราคาถูก รวมทั้งการได้พบกับศิลปินดารานักร้อง และตลกชั้นนำของเมืองไทยอีกมากมาย
ปีนี้ภาครัฐเน้น “1 ครอบครัว 1 กระทง”
ภาคใต้
เทศกาลโคมไฟ...สีสันเมืองใต้ จ.สงขลา
เลื่อนลงเมืองใต้กันบ้าง กับ “เทศกาลโคมไฟ...สีสันเมืองใต้” ที่ จ.สงขลา ที่ดูจะกินเวลายาวนานกว่าใครเพื่อนเพราะงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2551 - วันที่ 28 ก.พ.2552 บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ซึ่งสำหรับในคืนวันที่ 12 พ.ย.2551 คืนลอยกระทงนั้นก็ได้มีความพิเศษเพิ่มขึ้น คือ การจัดงาน “ลอยกระทงร่วมสมัย” ภายในงานจะได้ชมมหัศจรรย์โคมไฟ จินตนาการโลกของเด็ก มหัศจรรย์โคมไฟกลางน้ำ มหัศจรรย์โคมไฟโลกของสัตว์ มหัศจรรย์โคมไฟนานาชาติ เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี เวียดนาม ไทย (สี่ภาค) ฯลฯ มหัศจรรย์โคมไฟชุดพิเศษ มหัศจรรย์โคมไฟโลกของสัตว์ปีก มหัศจรรย์โคมไฟประติมากรรมร่วมสมัย การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโคมไฟ กิจกรรมบนเวทีกลางน้ำทุกวัน เวลา 16.00-21.00 น.มีการประกวดนางนพมาศ การแสดงโคมไฟจากนานาประเทศ
เที่ยวงานลอยกระทง ที่ จ.ภูเก็ต
มาดูที่ จ.ภูเก็ต กันบ้าง กับงาน “ดอกบัวบานงานลอยกระทง”ประจำปี 2551 จังหวัดภูเก็ตทำกระทงเมืองขนาดใหญ่ร่วมส่งเสริมงานลอยกระทง พร้อมรณรงค์ใช้วัสดุรีไซเคิลย่อยสลายงาย ทำกระทงเพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองของภูเก็ต ที่กำลังวิกฤต พร้อมจัดขบวนเรือกอจ๊านจุดพลุทะเลในเมือง บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต 9-12 พ.ย.2551 นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันเย็บกระทงใบตอง การแข่งขันวาดภาพ การแห่ขบวนกระทง การประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงมหรสพ เช่น มโนราห์เสน่ห์น้อย ดาวรุ่ง คาบาเร่ต์โชว์ การประกอบพิธีลอยกระทง
ใครอยู่ใกล้ๆ สถานที่ ที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”แนะนำมาก็ลองแวะเวียนไปลอยกระทงกันได้ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1672 หรือดูที่ www.loikrathong.net
ไม่อยากออกต่างจังหวัด ก็สามารถมาลอยกระทงได้ที่ “สวนสันติชัยปราการ”
“เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” กรุงเทพมหานคร
สำหรับใครที่ปีนี้อยู่เที่ยวลอยกระทงในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ก็ยังมีการจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทง ในปีนี้แบ่งการจัดงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่ง กทม.จัดงานที่ “สวนสันติชัยปราการ” ถ.พระอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 9-12 พ.ย.2551 มีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม จำลองบรรยากาศของงานลอยกระทงในแบบฉบับกรุงรัตนโกสินทร์ ชมสีสันยามค่ำคืนของเรืออาหาร ร้านอาหาร โรงแรม อาคารริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะประดับไฟเพื่อความสวยงาม
ส่วนฝั่งธนฯ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 มีการจัดแสดงนิทรรศการและประวัติความเป็นมาของการลอยกระทง การจัดประกวดกระทงในคืนวันที่ 12 พ.ย.2551
ขณะเดียวกัน สวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ก็จะเปิดให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทงด้วยสวนสาธารณะ 20 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สวนพระนคร สวนสราญรมย์ สวนรมณีนาถ สวนสันติชัยปราการ สวนธนบุรีรมย์ สวนเสรีไทย สวนหนองจอก อุทยานเบญจสิริ สวนน้ำบึงกระเทียม สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร) สวนสันติภาพ สวนกีฬารามอินทรา สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน สวนทวีวนารมย์ สวนเบญจกิติ สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร สวน 60 พรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่จะเปิดให้ลอยกระทงถึงเที่ยงคืนโดย ผู้จัดการออนไลน์
