ซาลาเปาทอดน้ำ เป็นเทคนิคการทอดซาลาเปาอีกรูปแบบหนึ่ง
ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำมันในการทอด
ซึงได้รูปแบบและรสชาติของซาลาเปาในแบบที่ไม่เหมือนใคร
เหมาะกับคนที่ไมชอบของทอดแบบมันๆ และเจ้าของซาลาเปาทอดน้ำ
ปัจจุบันมีรายเดียว ที่ใช้ชื่อว่า “ซาลาเปาทอดน้ำ สูตรต้นตำรับเมืองกวางตุ้ง”
นายดุสิต จันทร์โสม เจ้าของสูตรซาลาเปาทอดน้ำ เล่าว่า
ที่มาของซาลาเปาทอดน้ำ มาจากญาติไปทำงานที่เมืองจีน
พอกลับมาได้สูตรซาลาเปาทอดน้ำกลับมา และมาปรับทำขายที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
และตนเองก็ไปช่วยขาย ซึ่งขายดีมาก และการที่ได้ไปช่วยญาติขาย
ก็เท่ากับเราได้ไปฝึกการทำไปด้วย
พอฝึกจนชำนาญขอเขามาทำขายของตัวเองที่ตลาดถนนคนเดิน
ด้านหลังมหาวิทยาลัย ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
สำหรับการเปิดขายที่ตลาดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในช่วงแรกขายได้ไม่มาก
พอมีกำไร แต่พอเปิดได้ระยะหนึ่งหลายคนเริ่มรู้จัก ได้ทดลองชิม
ก็เกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก ทำให้ในระยะหลังขายดีมาก
มีคนมาต่อคิวเพื่อรอซื้อกันเป็นจำนวนมาก คนที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็นคนซื้อกันเยอะมากแบบไทยมุง
ก็อยากได้สูตรกลับไปทำขายบ้าง ก็มีคนมาขอซื้อสูตรกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ การจะขายสูตรไปเกรงว่า สุดท้ายเขาก็จะเอาไปขายต่อ
ก็เลยตัดสินใจเปิดขายในระบบแฟรนไชส์ ซึ่งต้องยอมรับว่า
เราเป็นคนต่างจังหวัด ไม่รู้ว่า แฟรนไชส์ เขาทำกันอย่างไร
สุดท้ายก็ไปขอความรู้จากทางสมาคมแฟรนไชส์
และนำความรู้ที่ได้ตรงนั้น มาปรับใช้กับซาลาเปาทอดน้ำของตนเอง
จนกลายมาเป็นแฟรนไชส์ซาลาเปาทอดน้ำ
สูตรต้นตำรับเมืองกวางตุ้งจนถึงปัจจุบันนี้
รวมระยะเวลาในการเปิดขายแฟรนไชส์เป็นเวลาเกือบ 2 ปี มีสาขาแฟรนไชส์ประมาณ 52 ราย ทั่วประเทศ
บรรยากาศการขายที่ร้านหลังม.ขอนแก่น
“ส่วนร้านซาลาเปาทอดน้ำของผมที่เปิดขายที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเราเปิดมาได้ประมาณ 5 ปี
ยอดขายต่อวันประมาณ 4,000 บาท ถึง 5,000 บาท
โดยเปิดขายในช่วงเย็น ประมาณ 4 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม
เป็นตลาดถนนคนเดิน ทำให้มีลูกค้าเดินค่อนข้างมากในแต่ละวัน
ส่วนสาขาแฟรนไชส์ขึ้นอยู่กับทำเล โดยลูกค้าแฟรนไชส์ที่เปิดขายแล้ว
มีรายได้ต่อวันตั้งแต่ 1,000 บาท สูงสุดวันละ 10,000 บาท ก็มี
เฉลี่ยวันละ 5,000 บาท ซึ่งโอกาสคืนทุนค่อนข้างแน่นอนไม่เกิน 2-3 เดือน
โอกาสจะขาดทุนนั้นน้อยมาก
สำหรับราคาแฟรนไชส์ คิดไม่แพง
เพราะต้องการจะช่วยให้คนที่ต้องการจะมีอาชีพได้มีรายได้
ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 19,000 บาท และ 29,000 บาท
ราคาแตกต่างกันตรงอุปกรณ์ในการขาย ถ้า 19,000 บาท
จะได้ป้ายพร้อมสูตรและวิธีการทำ ส่วน 29,000 บาท จะได้ ป้าย
และอุปกรณ์การขาย สอนสูตรและวิธีการทำซึ่งค่าแฟรนไชส์จะ เก็บครั้งเดียว
ส่วนสูตรลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ จะทำออกมาในลักษณะของผงปรุงรส
โดยจะจัดส่งสัปดาห์ละครั้ง ลูกค้าจะต้องซื้อผงปรุงรสตัวนี้จากเราเท่านั้น
ไม่อนุญาตให้ไปปรุงเอง เพราะเกรงว่ารสชาติจะออกมาไม่เหมือนกัน
ส่วนวัตถุดิบอื่นแนะนำแหล่งซื้อที่ราคาถูกให้
ส่วนสูตรซาลาเปาทอดน้ำ ได้มีการพัฒนาให้มีรสชาติที่หลากหลายคล้ายคลึงกับซาลาเปานึ่ง
จากเดิมต้นตำรับมีรสชาติเดียว คือไส้หมู ปัจจุบันมีให้เลือกถึง 10 ไส้
ประกอบด้วย ไส้หมู เป็นไส้หลักของเรา ไส้ครีม เผือก ถั่วดำ ถั่วแดง ถัวเหลือง ทูน่า และไส้ผัก ฯลฯ
จุดแตกต่างของซาลาเปาทอด กับซาลาเปานึ่งจะแตกต่างกันที่รสชาติและเนื้อแป้ง
ซาลาเปาทอดเนื้อแป้งจะแน่นกว่า เหมือนแฮมเบอร์เกอร์
ซึ่งการทอดจะทอดในกระทะและใส่น้ำเปล่า แทนการใส่น้ำมัน
เมื่อทอดจนชำนาญเนื้อแป้งด้านบนจะเป็นสีเหลืองเหมือนไหม้
ซึ่งซาลาเปาทอดน้ำ จะเหมาะกับคนรักษ์สุขภาพ
ที่ชื่นชอบการกินซาลาเปาทอด เพราะไม่มีน้ำมัน หรือไขมันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ สาขาแฟรนไชส์ตัวอย่าง สามารถไปดูได้ที่ พัทยา อยุธยา นครราชสีมา ชลบุรี และปทุมธานี
ซึ่งต้องยอมรับว่าได้รับการตอบรับจากคนทั่วไปเกินว่าที่คาดคิด
ทำให้ตั้งใจว่าจะเปิดสาขาแฟรนไชส์ให้ได้ปีละ 50 สาขา
ส่วนผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างสูง กำไรต่อลูกประมาณ 50%
สำหรับไส้หมู ส่วนไส้ครีม และอื่นๆ กำไรมากกว่านี้ ประมาณ 60%
โดยราคาขายซาลาเปาทอดน้ำอยู่ที่ลูกละ 10 บาท
ลูกค้ามีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น ไปจนถึงคนเฒ่า คนแก่
นายดุสิต เล่าว่า เดิมเป็นวิศวกรทำงานก่อสร้าง และเห็นว่า
ญาติที่ขายซาลาเปาทอดน้ำที่ ศรีราชา ขายดีมาก ก็เลยไปช่วยขาย และฝึกทำ
เพื่อนำกลับมาทำขายบ้าง โดยญาติที่เปิดขายที่ศรีราชาไม่ว่าอะไร
เพราะขายกันคนละที่ แต่ในตอนหลังญาติเลิกขายไป
เหลือเพียงตนเองเปิดขายอยู่เพียงรายเดียว
ปัจจุบันรายได้จากการขายซาลาเปาทอดน้ำของเรามากกว่า
รายได้ที่เคยได้รับเมื่อตอนทำงานก่อสร้างหลายเท่าตัว
และมีรายได้ทุกวัน เหมือนทำงานก่อสร้าง ที่มีรายได้ช่วงทีมีงาน
ถ้าไม่มีงานก็ไม่มีรายได้ และการเปิดขายแฟรนไชส์
คิดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้คนที่ไม่มีงานทำได้มีรายได้
เรามั่นใจในรสชาติซาลาเปาของเราว่าจะสามารถขายได้
เพราะพิสูจน์มาแล้วจากสาขาแฟรนไชส์ที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้
ที่มา :
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9530000087648เคยกินแล้ว อร่อย มาก กินแล้วคอแห้งหิวน้ำ 
