หัวข้อ: ยืนยันผลชาวบ้านแม่โกนเกน จ.ตาก.. เป็นโรคแอนแทรกซ์ เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ พฤศจิกายน 29, 2017, 11:10:45 am หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> www.pohchae.com
. . (https://www.pohchae.com/wp-content/uploads/2017/11/anthrak-11-29-2-1.jpg) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันผลชาวบ้านแม่โกนเกน จ.ตาก ที่เข้ารักษา พบเชื้อบาซิลลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคแอนแทรกซ์ เฝ้าระวังชาวบ้านอีก 247 คนกินยา 60 วัน วันนี้ (28 พ.ย.2560) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ากรณีพบผู้ป่วยชายซึ่งเป็นผู้ชำแหละแพะที่ตายแล้วสงสัยเป็นโรคแอนแทรกซ์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ล่าสุดวันนี้ ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์พบเชื้อบาซิลลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคแอนแทรกซ์ในผู้ป่วย 2 ราย มาด้วยอาการมีตุ่มหนองที่มือทั้ง 2 ข้าง ขณะนี้ ได้รับยารักษาและอยู่ในความดูแลของแพทย์จนกว่าตุ่มหนองจะหายเฝ้าระวัง 247 คนกินยา 60 วันปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสำหรับการควบคุมป้องกันโรค ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 ได้ติดตามประชาชนในหมู่บ้านที่รับประ ทานเนื้อแพะ และผู้สัมผัสโรคในหมู่บ้าน บุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ จำนวน 247 คน ได้ให้ยารับประทานเพื่อป้องกันต่อเนื่อง 60 วัน และติดตามเฝ้าระวังโรค แต่ขณะนี้ทุกคนปกติ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้และการป้องกันตัว แจกแผ่นพับภาษาไทยและภาษาพม่า และทำประชาคมสร้างความตระหนักแก่ประชาชนในหมู่บ้าน โดยให้สังเกตอาการ เช่น ผิวหนังมีตุ่มหนอง มีแผลหรือฝ้าขาวในปาก ลำคอ ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด มีไข้ ไอ เหนื่อยหอบ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเตือนอย่าชำแหละซากสัตว์ตายขอชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทีมแพทย์ที่ตรวจพบและควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถจำกัดวงของการแพร่ระบาดได้ และขอย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะโรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน หากพบแพทย์เร็วรักษาให้หายขาดได้ และในประเทศไทยไม่พบการระบาดของโรคนี้ในสัตว์ อย่างไรก็ตาม อย่านำสัตว์ที่ป่วยหรือตายแล้ว มาชำแหละจำหน่ายหรือรับประทาน หรือนำไปให้สัตว์อื่นกิน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ขอให้สวมถุงมือหรือถุงพลาสติก และล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งหลังจากสัมผัสซากสัตว์ หากมีอาการเป็นไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกายหรือหากป่วยโดยมีประวัติสัมผัสสัตว์ตายหรืออยู่ในพื้นที่สัตว์ป่วยตาย หรือหลังเดินทางกลับจากพื้นที่มีผู้ป่วยให้รีบไปพบแพทย์ภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมแจงประวัติการสัมผัสโรค ประวัติการเดินทาง โรคนี้มียารักษาหากเจ็บป่วยหลังสัมผัสสัตว์ให้รีบพบแพทย์ทันที ที่มา https://news.thaipbs.or.th/media/G0DL5oPyrtt5HBAi37NuhB5jrLgry8T0KhAJXBDJTeJmu6KPqbuiEc |