พิมพ์หน้านี้ - คนแพ้"กุ้ง"..มีด้วยเหรอ? +f

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

นานาสาระ => สุขภาพ => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 02:16:06 pm



หัวข้อ: คนแพ้"กุ้ง"..มีด้วยเหรอ? +f
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 02:16:06 pm
หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> www.pohchae.com 

(https://www.pohchae.com/wp-content/uploads/2017/11/กุ้ง-11-21-1.jpg)

       อ่านฉบับ PC ได้ที่: www.ubmthai.com อาการแพ้ ส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเลหรือกุ้งนั้นจะมีอาการแพ้ภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร ซึ่งอาการที่สังเกตุได้คือ เป็นผื่นขึ้นตามตัวคล้ายลมพิษ มีอาการคัน  ปากบวม  คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หากมีอาการแพ้มากจะมีอาการหายใจไม่ออก หรือหากอาการรุนแรงมากถึงขั้นช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ สาเหตุที่ทำให้แพ้กุ้ง อาการแพ้กุ้ง คือ หนึ่งในกลุ่มอาการแพ้อาหาร(food allergy) มีสาเหตุจากสารในอาหาร(Antigen) หรือสารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยอาหาร(breakdown product) กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สร้างภูมิคุ้มกัน(Antibody) ขึ้นมาต่อต้าน อาการแพ้จึงปรากฏให้เห็น เนื่องจากในกุ้งมีสารก่อภูมิแพ้ คือ โปรตีนฮีโมไซยานินพบในกุ้งก้ามกราม ซึ่งเป็นกุ้งน้ำจืดและสารโปรตีนลิพิด บายดิง, โปรตีน แอลฟาแอกตินิน ในกุ้งกุลาดำที่เป็นกุ้งทะเล อย่างไรก็ตามสำหรับบางกรณีอาจเป็นการแพ้สัตว์ที่มีเปลือกแข็งซึ่งมีสารไคตินเป็นกอบเป็นเปลือก เช่นกุ้ง ปู เป็นต้น เมื่อกินกุ้งเข้าไปจึงเข้าใจว่าเป็นการแพ้กุ้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อาการแพ้จะแสดงออกใน 3 ระบบ ดังนี้ 1.ระบบผิวหนัง เช่น มีผื่นขึ้น 2.ระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง 3.ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่บางคนอาจจะไม่เคยมีอาการแพ้กุ้งมาก่อนเลย แต่มาปรากฎอาการเมื่อตอนที่อายุเพิ่มมากขึ้น กรณีนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาการแพ้ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่องอาจมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก กินอาหารไม่ถูกสัดส่วน พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหลายปัจจัยร่วมกัน ในการทำโครงการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการแพ้กุ้งนี้ มีผลสรุปว่า กุ้งน้ำจืดที่ทำให้เกิดอาการแพ้มากที่สุด คือ กุ้งก้ามกราม ส่วนกุ้งทะเลที่ก่อให้เกิดการแพ้ คือ กุ้งกุลาดำ ทั้งนี้อาการแพ้อาจเกิดจากกุ้งเพียงชนิดเดียว หรือมากกว่า 1 ชนิด มีการนำตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครที่แพ้กุ้งมาทดสอบและวิเคราะห์หาสารก่อภูมิแพ้ จึงค้นพบว่า สารก่อภูมิแพ้ที่จำเพาะต่อคนไทยในกุ้งก้ามกราม คือ โปรตีนฮีโมไซยานิน ส่วนสารก่อภูมิแพ้ในกุ้งกุลาดำ คือ โปรตีนลิพิด บายดิง (lipid binding protein) และโปรตีนแอลฟาแอกตินิน(alpha actinin protein)   ข้อควรปฏิบัติ - เมื่อเกิดอาการแพ้แล้วมีอาการคัน ให้ใช้ยาทาแก้คันทาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น คาลาไมด์ - การสังเกตุอาการ หากภายใน 5-10 นาที อาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที การรักษาด้วยยานั้นเป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้นหากทราบว่าตนเองแพ้อาหารชนิดใดควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนั้นดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดจากอาการแพ้ได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2912&sub_id=98&ref_main_id=4 ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : www.siamfishing.com/content/view.php?nid=70452&cat=recipe www.facebook.com/pages/ชมรมตกกุ้งก้ามกราม-บางน้อย-Club