หัวข้อ: ผู้ว่าฯ ยืนยัน ทะเลภูเก็ตไม่มีฉลาม อย่าเชื่อข่าวนักท่องเที่ยวถูกฉลามกัด.. เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ สิงหาคม 18, 2017, 09:23:12 am หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com
. . . ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ยันทะเลไม่มีฉลาม หลังมีข่าวนักท่องเที่ยวเล่นวินด์เซิร์ฟ ถูกปลาฉลามกัด ตรวจสอบแล้วเป็นปลาบาราคูด้า ..จากกรณีที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีนักท่องเที่ยวถูกปลาไม่ทราบชนิดกัด เป็นบาดแผลฉกรรจ์บริเวณส้นและด้านข้างเท้าซ้าย เหตุเกิดบริเวณหาดกมลา หน้า สภ.กมลา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ทราบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวชื่อ นาย Keira Kosigoe อายุ 36 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ก่อนเกิดเหตุ นาย Keira ได้ไปเล่นวินด์เซิร์ฟที่บริเวณชายหาดกมลา ห่างจากฝั่งไปประมาณ 15 เมตร ระหว่างเล่นได้หย่อนขาซ้ายลงในน้ำ ปรากฏว่ามีปลาไม่ทราบชนิดกัดเข้าที่ส้นเท้า ทำให้ต้องรีบกระชากเท้าขึ้นจากน้ำด้วยความตกใจ และรีบกลับขึ้นฝั่งเพื่อขอความช่วยเหลือทันที จากนั้นได้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ซึ่งแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผล จำนวน 50 เข็ม โดยนัดดูอาการอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคม จากเรื่องดังกล่าว (17 สิงหาคม 2560) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จากที่ได้สอบถามนักวิชาการด้านประมง ซึ่งมีการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า รอยบาดแผลที่ส้นเท้าของนักท่องเที่ยวเป็นรอยกัดของปลาบาราคูด้า (ปลาน้ำดอกไม้) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ปลาสาก" ซึ่งจะมีลักษณะลำตัวค่อนข้างยาว มีฟันที่แหลมคม และมักจะมาหากินปลาตัวเล็ก ๆ บริเวณผิวน้ำ ไม่ใช่ปลาฉลามตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ จากการสอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต่างบอกตรงกันว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยพบปลาชนิดที่ดุร้าย เช่น ปลาฉลาม จากข่าวลือที่เกิดขึ้นยืนยันว่า บริเวณชายฝั่งหาดกมลาไม่มีปลาฉลามที่ดุร้าย สามารถลงเล่นน้ำได้ตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำให้หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและลาดตระเวนบริเวณชายหาด รวมทั้งจัดเรือลาดตระเวนตามแนวชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น และได้ประสานไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้แจ้งนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำอย่าออกไปนอกเขตแนวชายฝั่งมากนัก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น. ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์วิทยุกู้ชีพกมลา EMS ขอบคุณ https://travel.kapook.com/view177579.html |