พิมพ์หน้านี้ - รู้จักกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม.. ถือศีลอดเดือนรอมฎอน

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => การเลี้ยงแพะ-แกะ => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 05, 2016, 04:42:07 pm



หัวข้อ: รู้จักกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม.. ถือศีลอดเดือนรอมฎอน
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 05, 2016, 04:42:07 pm
(http://upic.me/i/dw/ramadan_4.jpg)


          รอมฎอน หรือ รอมะฎอน หรือ เราะมะฏอน คือเดือนที่ 9 ของปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺ หรือปฏิทินอิสลาม เป็นเดือนที่ชาวมุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน

          ศีลอด หรือ ศิยาม ในภาษาอาหรับ หมายถึง การอดอาหารและเครื่องดื่ม และการเสพกาม ตั้งแต่ยามรุ่งอรุณ จนกระทั่งถึงเวลาหลังตะวันตกดิน มุสลิมในภาคใต้ของไทยเรียกการถือศีลอดว่า ปอซอ (ภาษามลายูปัตตานี)

          โดยเดือนรอมฎอน นับได้ว่าเป็นเดือนที่ยิ่งใหญ่เดือนหนึ่งของอิสลาม ซึ่งอัลกุรอานได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของเดือนรอมฎอนนี้ไว้ว่า เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาในเดือนนี้ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นอยู่ที่เป้าหมายของการประทานต่างหาก ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของการประทานอัลกุรอานนี้ ก็เพื่อให้ใช้คัมภีร์นี้เป็นเครื่องนำทาง และเป็นข้อจำแนกแยกแยะสิ่งถูกสิ่งผิดแก่มนุษยชาติ ให้มนุษย์มุ่งสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ และหากมนุษย์เดินตามหนทางเช่นนี้ ก็จะได้รับความผาสุกทั้งโลกนี้และปรโลก

          ดังนั้น เดือนรอมฎอน จึงถือเป็นเดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และจูงใจให้ผู้ศรัทธาทำความดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดือนอื่น ๆ และการถือศีลอดนี่เองก็เป็นหนทางหนึ่ง ที่จะทำให้ชาวมุสลิมสามารถมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของความเป็นมนุษย์ได้แท้จริง


    ประเภทของศีลอด
    การถือศีลอดมีหลายประเภทเช่น
-ศีลอดภาคบังคับ ที่ชายหญิงมุสลิมที่บรรลุศาสนภาวะต้องปฏิบัติในเดือนรอมะฎอนทุกปี
-ศีลอดภาคสมัครใจ ที่ชายหญิงมุสลิมถือศีลอดในวันอื่น ๆ นอกเดือนรอมะฎอน

      โดยการถือศีลอด เป็นหลักปฏิบัติในศาสนบัญญัติ 1 ใน 5 ประการ คือ..
1.นับถือพระเจ้า(อัลลอฮฺ)องค์เดียวและนบีมูฮำหมัดเป็นศาสนฑูตคนสุดท้าย
2.ดำรงละหมาด
3.บริจาคทาน
4.ถือศีลอด
5.บำเพ็ญฮัจย์ที่ นครเมกกะ) ซึ่งชาวมุสลิมจะประพฤติปฏิบัติตน โดยการ...

          - งดอาหาร น้ำ เพื่อจะได้รับรู้ความยากลำบากคนที่ยากไร้ โดยจะเริ่มตั้งแต่แสงพระอาทิตย์ขึ้น – แสงพระอาทิตย์เริ่มตกดิน จากการคำนวนดูเวลาแสงพระอาทิตย์ ขึ้น-ตก ตามการคำนวณของหลักดาราศาสตร์อิสลาม วัดตามพิกัดองศาแต่ละพื้นที่ และเมื่อถึงเวลาละศีลอด มักจะรับประทานอินทผลัม โดยได้แบบอย่างมาจากท่านนบีมูฮำมัด ทั้งนี้ ผลอินทผลัมนั้น ประกอบด้วย น้ำตาลฟรุกโตส กลูโคส น้ำ วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตส จัดเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเป็นอย่างมาก และเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

          - งด ละ เลิก จากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด ได้แก่ มือ(ทำร้ายหรือขโมย), เท้า(เดินไปสู่สถานที่ต้องห้าม), ตา (ดูสิ่งลามก), หู ( การฟังสิ่งไร้สาระ ,ฟังเรื่องชาวบ้านนินทากัน), ปาก (การนินทาว่าร้ายคนอื่น โกหกโป้ปด)

          - ทำความดี บริจาคทานแก่คนยากจน

          - อ่านคัมภีร์อัลกุรอาน เนื่องจากในเดือนนี้เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานคัมภีร์อัลกรุอานมาให้แก่มนุษย์ ดังนั้น ชาวมุสลิมจึงต้องอ่านอัลกุรอาน เพื่อศึกษาถึงสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์รู้ว่าการเป็นอยู่ในโลกนี้และโลกหน้าจะเป็นอย่างไร และจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง

(http://upic.me/i/9b/ramadan_3.jpg)


สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด ได้แก่

          1. คนเจ็บป่วย

          2. หญิงที่มีประจำเดือน

          3. หญิงที่ให้นมบุตร แต่หากมีความสามารถ ก็จะถือได้

          4. หญิงที่ตั้งครรภ์

          5. คนแก่ชรา ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ

          อย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านี้ต้องจ่ายทาน เป็นข้าวสารวันละ 1 มุด (1 มุด ประมาณ 6 ขีด) และสำหรับคนเจ็บป่วย และสตรีที่มีประจำเดือนนั้นให้ถือศีลอดใช้ภายหลังให้ครบก่อนรอมฎอนในปีถัดไป



สาเหตุทำให้ศีลอดเสีย
   หมายถึง ผู้ถือศีลอดคนใดคนหนึ่งได้กระทำในสิ่งดังต่อไปนี้ถือว่า ศีลอดของเขาเสียทันที่ และจะต้องถือศีลอดชดใช้ภายหลังจากเดือนร่อมะฎอนได้ผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งที่ทำให้ศีลอดเสียมีดังต่อไปนี้
-ตั้งใจกิน ไม่ว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม
-ตั้งใจดื่ม ไม่ว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม
-ร่วมประเวณี ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
-ตั้งใจให้ฝุ่นละออง หรือควัน หรือไอน้ำที่มีจำนวนมากเข้าไปในลำคอ
-การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ไม่ว่าชายหรือหญิง
-การสวนทวารด้วยของเหลวทุกชนิด
-การตั้งใจอาเจียน

          ดังนั้น การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ไม่ใช่แค่เรื่องของการงดอาหาร หรือเป็นเพียงแค่การปฏิบัติตามหน้าที่ทางศาสนาของชาวมุสลิมเท่านั้น แต่เพื่อเป็นการขัดเกลาจิตใจของตนเอง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของการเดินทางสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และสูงส่งทางด้านจิตวิญญาณตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของพระองค์ที่ได้ประทานอัลกุรอานมาให้แก่มนุษย์นั่นเอง.

จาก http://www.1009seo.com/