หัวข้อ: ชวนปลูกต้นหม่อนกินใบ มีประโยชน์มากมาย เริ่มหัวข้อโดย: ปื้น ปากพนัง ที่ ตุลาคม 07, 2014, 06:43:28 pm (http://www.1009seo.com/+uppic/10-57/mon_0.jpg)
ความเข้าใจที่ว่าต้นหม่อนอาหารของตัวไหมนั้น หรือปลูกได้เฉพาะพื้นที่ภาคอีสานหรือภาคเหนือเท่านั้น เพราะมีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม แต่แท้จริงแล้วต้นหม่อนปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ความสำเร็จของการปลูกต้นหม่อนเพื่อผลิตชาเขียวใบหม่อนของกลุ่มแม่บ้านเล็ก ๆ ใน จ.กาญจนบุรี เป็นเครื่องยืนยันว่าพืชชนิดนี้สามารถเติบโตได้ทั่วประเทศจริง ๆ การเริ่มต้นทำชาใบหม่อนออกขายของกลุ่มแม่บ้านใน ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ภายใต้การนำของ กาญจนา คูหากาญจน์ ใน พ.ศ. 2542 และได้มีการพัฒนาจนผลิตภัณฑ์ชาเขียวใบหม่อนได้รับรางวัลชนะเลิศโอทอป แชมเปี้ยน ในระดับ 5 ดาว จากกลุ่มแม่บ้านแปรเปลี่ยนเป็นรูปบริษัท ซี.เค.อินดัสทรี่ (2000) จำกัด ในปี 2543 ด้วยทุนทะเบียน 5,000,000 บาท โดยได้ลงทุนนำเข้าเครื่องจักรจากญี่ปุ่นมาผลิตชาเขียวที่ได้มาตรฐาน จากเดิมที่ใช้แรงงานผลิตด้วยมือ ปรับให้กลุ่มแม่บ้านเข้ามาทำงานในรูปแบบของพนักงานบริษัทแทน ภายใต้การบริหารของคุณกาญจนาและครอบครัว ขณะเดียวกันได้ให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคด้วยการยกระดับกระบวน การผลิต ด้วยมาตรฐานการผลิตในระบบ GMP และ HACCP และได้รับการรับรองจากสำนัก งานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ทำให้ชาเขียวใบหม่อนในแบรนด์กาญจนา สามารถส่งขายได้ทั่วโลกทั้งญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา โดยเฉพาะมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) ทำให้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวจากบริษัท ซี.เค.ฯ คือผลิตภัณฑ์ชาเขียวใบหม่อนรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน IFOAM จากมาตรฐานทั้งหมดทำให้บริษัทได้รับความน่าเชื่อถือ จนมีหลายผู้จำหน่ายชาเขียวใบหม่อนทั้งในและต่างประเทศมาจ้างให้บริษัทผลิตสินค้าให้โดยไปติดแบรนด์อื่น ๆ หลายแบรนด์ หัวข้อ: Re: ชวนปลูกต้นหม่อนกินใบ มีประโยชน์มากมาย เริ่มหัวข้อโดย: ปื้น ปากพนัง ที่ ตุลาคม 07, 2014, 06:45:34 pm (http://www.1009seo.com/+uppic/10-57/mon_1.jpg)
(http://www.1009seo.com/+uppic/10-57/mon_2.jpg) คุณกาญจนา ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเล่าว่า จุดที่ควบคุมยากของการได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM คือเรื่องของระบบน้ำ เพราะการทำเกษตรหลายแห่งต้องพึ่งแหล่งน้ำสาธารณะ เมื่อต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นเกษตรอินทรีย์ ไม่สามารถควบคุมน้ำได้เพราะบางครั้งแปลงปลูกข้างเคียงยังใช้สารเคมีทำให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำ โชคดีว่าพื้นที่ปลูกต้นหม่อนในพื้นที่ร่วม 100 ไร่ มีแหล่งน้ำอยู่ในพื้นที่จึงง่ายที่จะควบคุมจนสามารถยื่นขอมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้ในที่สุด คุณกาญจนาบอกว่าทั้งลูกหม่อนและใบหม่อนมีสารกาบา คุณสมบัติเดียวกับข้าวกล้องงอก สารกาบาตัวนี้ช่วยบำรุงระบบประสาททำให้นอนหลับสบาย และช่วยปรับความดันโลหิตทั้งผู้เป็นความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตปกติสามารถดื่มชาใบหม่อนแทนน้ำได้ แต่คนที่เป็นความดันต่ำแนะนำอย่าดื่มแทนน้ำระยะแรกค่อย ๆ ดื่มทีละแก้วจะช่วยปรับความดันให้เป็นปกติ และยังมีสารไฟโนทอลที่จะไปช่วยลดไขมันที่เกาะผนังเส้นเลือดแดง ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดี ในประเทศญี่ปุ่นนำใบหม่อนมาอัดเป็นเม็ดรับประทาน เพราะใบหม่อนจะไปช่วยลดสารที่ช่วยดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้เล็ก ทั้งนี้ร่างกายคนเราไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน แต่ปัจจุบันคนนิยมบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงโดยเฉพาะเบเกอรี่ ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลเกินเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ความดัน นอกจากนี้ยังมีสารคาโลซิเนทช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวขึ้น ในวงการเครื่องสำอางได้สกัดสารตัวนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วย (http://www.1009seo.com/+uppic/10-57/mon_3.jpg) (http://www.1009seo.com/+uppic/10-57/mon_4.jpg) จากสรรพคุณที่กล่าวมา จะเห็นว่าต้นหม่อนนั้นเป็นพืชที่ควรมีอยู่ทุกบ้าน เพราะเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ชอบแสงแดด โดยเมื่อปลูกไปครบ 6 เดือน ต้นจะมีความสูงราว 2 เมตร แล้วตัดลงเหลือเพียงหนึ่งเมตร เพื่อให้ต้นแตกใบ สามารถนำใบมาปรุงอาหารรับประทานได้โดยเลือกใบกลางแก่กลางอ่อน รวมทั้งลูกหม่อนมีสารกาบาเช่นเดียวกัน อีกทั้งชาเขียวใบหม่อนไม่มีสารกาเฟอีนเหมือนกับชาอื่น ปัจจุบันต้นกล้าของต้นหม่อนขายในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้นละ 80 บาท ต้นหม่อนถ้ามีไว้บ้านละต้นจะดีมากเพราะคนภาคอีสานใส่ในต้มไก่ แกง แต่โดยส่วนตัวนำมาดัดแปลงทำกับข้าวได้หลายอย่าง เช่น ไข่เจียวใบหม่อน แกล้มส้มตำ ผัดผัก แกงส้ม ซึ่งมีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการถึง 13 ชนิด อย่างในใบหม่อนบดใส่ในเค้ก คุกกี้ คนญี่ปุ่นบดใส่ข้าว มีแคลเชียมสูงถึง 61 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ถ้าคนไทยมีปลูกกบ้านละต้นจะช่วยห่างไกลจากโรคความดันโลหิต สูง แก้เบาหวาน ผู้บริหารบริษัทชาเขียวใบหม่อนย้ำถึงคุณค่าของต้นหม่อน. ขอบคุณ http://www.108kaset.com/ |